ศูนย์ดำรงธรรม: ศูนย์บริการร่วมสงขลาฉับไว-เข้าถึงประชาชน
Source - ข่าวสด (Th)

Tuesday, April 11, 2017  05:47
49475 XTHAI XGEN MIDD DAS V%PAPERL P%KSD

          จังหวัดสงขลา เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่มีการเปิดศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด ภายใต้ชื่อ ศูนย์บริการร่วมเพื่อให้บริการประชาชนในพื้นที่ ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อทำหน้าที่ในการรับเรื่องร้องเรียน ร้องทุกข์ ให้บริการข้อมูลข่าวสาร ให้คำปรึกษา รับเรื่องปัญหาความต้องการ และข้อเสนอแนะของประชาชน และทำหน้าที่เป็นศูนย์บริการร่วมตามมาตรา 35 แห่งพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. 2546
          จังหวัดสงขลาจึงได้จัดสรรงบพัฒนาจังหวัดประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 จำนวน 1,500,000 บาท และงบบริหารจังหวัดแบบบูรณาการ ประจำปี พ.ศ. 2559 จำนวน 485,389 บาท ในการจัดตั้ง ศูนย์บริการร่วมจังหวัดสงขลา และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา ส่วนหน้า ขึ้นที่ห้างบิ๊กซีหาดใหญ่ 1 (บิ๊กซี คลองแห) ชั้น 2 โซนไอที ในอำเภอหาดใหญ่
          โดยมีหน่วยงานที่ร่วมบูรณาการพร้อมทั้งจัดบุคลากรมาประจำที่ศูนย์บริการร่วมฯ ประกอบด้วย สำนักงานขนส่งจังหวัดสงขลา สำนักงานจัดหางานจังหวัดสงขลา อำเภอหาดใหญ่ และศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา โดยมีหน่วยงานสนับสนุน ประกอบด้วย ที่ทำการปกครองจังหวัดสงขลา  และศูนย์บริหารการทะเบียนภาค 9 ตลอดจนห้างบิ๊กซีหาดใหญ่ 1 ที่เอื้อเฟื้อสถานที่ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อที่จะให้ ศูนย์บริการร่วมฯ เป็นจุดอำนวยความสะดวกแก่ พี่น้องชาวสงขลา และพี่น้องประชาชนทั่วไป มาใช้บริการได้อย่างประทับใจ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ
          สำหรับศูนย์บริการร่วมฯ ของจังหวัดสงขลา ให้บริการใน 8 ภารกิจ ประกอบด้วย 1.งานทะเบียนบัตรประจำตัวประชาชน 2.งานทะเบียนราษฎร์ 3.งานรับชำระภาษีรถประจำปี 4.งานรับเรื่องราว ร้องทุกข์ 5.งานให้คำปรึกษา 6.งานคุ้มครองผู้บริโภค 7.งานบริการข้อมูลข่าวสาร และ 8.งานขึ้นทะเบียน คนว่างงาน โดยให้บริการระหว่างเวลา 10.00-18.00 น. ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการ มาแล้วตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2559 และ มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2559
          อย่างไรก็ตาม ยังมีเพียงการให้บริการของ งานรับชำระภาษีรถประจำปี และงานขึ้นทะเบียน คนว่างงาน ที่เปิดให้บริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ และในอนาคตจะมีการเปิดบริการได้อย่างเต็มรูปแบบในทุกๆ วัน
          สำหรับผลการปฏิบัติงานที่ผ่านมา ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2559-วันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 ถือว่าได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี โดยเฉพาะการรับชำระภาษีรถประจำปี จำนวน 7,542 ราย หรือโดยเฉลี่ยวันละ 243 ราย (เฉพาะวันหยุดราชการ) และงานทะเบียนบัตร ประจำตัวประชาชน จำนวน 7,913 ราย หรือ โดยเฉลี่ยวันละ 40 ราย งานรับเรื่องราวร้องทุกข์ จำนวน 127 ราย งานให้คำปรึกษา 486 ราย งานบริการข้อมูลข่าวสาร 1,165 ราย งานขึ้นทะเบียนคนว่างงาน จำนวน 31 ราย
          นอกจากนี้ ยังมีการให้บริการงานการช่วยเหลือ ผู้ด้อยโอกาสของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสงขลา ซึ่งเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เป็นต้นมา โดยมีการจัดเจ้าหน้าที่ มาปฏิบัติงาน ณ ศูนย์บริการร่วมฯ ทุกวัน ขณะนี้ มีผู้มาใช้บริการแล้ว 2 ราย
          ด้าน นายทรงพล สวาสดิ์ธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ระบุว่า ในส่วนของจังหวัดสงขลา นอกจากจะมีการจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดขึ้นที่ศาลากลางจังหวัดหลังเก่า โดยมีการปรับวิธีการทำงานให้เป็นเชิงรุก เน้นการจัดหน่วยเคลื่อนที่เร็วบูรณาการจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหา รวมทั้งมีการจัดตั้งศูนย์ดำรงธรรมอำเภอทุกอำเภอแล้ว จังหวัดสงขลายังได้ริเริ่มจัดตั้งศูนย์บริการร่วมและ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลาส่วนหน้า ขึ้นภายใน ห้างบิ๊กซี คลองแห อำเภอหาดใหญ่ โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. ของทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์
          ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จากการ สอบถามความพึงพอใจและประเมินผลการดำเนินงานของศูนย์บริการร่วมและศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดส่วนหน้า พบว่า ได้รับการตอบรับและพึงพอใจจากพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก เพราะทำให้ได้รับการบริการที่สะดวก รวดเร็ว เจ้าหน้าที่ผู้ให้บริการยิ้มแย้มแจ่มใส ประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาในการเดินทาง ไม่กระทบต่อเวลาทำงาน อีกทั้ง ยังสามารถจับจ่ายสินค้าที่ต้องการได้ในคราวเดียว โดยประชาชนส่วนใหญ่จะใช้บริการงานทะเบียน บัตรประจำตัวประชาชน และการชำระภาษีรถประจำปี
          "รองลงมาได้แก่งานรับเรื่องราวร้องทุกข์ งานให้คำปรึกษา งานบริการข้อมูลข่าวสาร งานขึ้นทะเบียน คนว่างงาน และการให้บริการช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส ตามลำดับ ทั้งนี้ จังหวัดสงขลาจะได้พัฒนาการ ดำเนินการของศูนย์บริการร่วมและศูนย์ดำรงธรรมส่วนหน้า ให้ครอบคลุม และตอบสนองความต้องการของ พี่น้องประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นต่อไป" นายทรงพล กล่าว
          อีกทั้งเมื่อไม่นานมานี้ กระทรวงมหาดไทยจัดให้มีการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ หรือ Workshop เพื่อเพิ่มทักษะ เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานศูนย์ดำรงธรรมให้มีประสิทธิภาพ เข้มแข็ง ยั่งยืนมากยิ่งขึ้นนั้น จังหวัดสงขลาได้สร้างความร่วมมือกับศูนย์ดำรงธรรมอำเภอ ศูนย์ยุติธรรมชุมชน และให้ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ตระหนักถึงอำนาจหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างจริงจัง ตลอดจนการใช้โซเชียลมีเดีย (Social media) ในการรับและแก้ไขเรื่องร้องเรียน ให้รวดเร็วและทันต่อยุคสมัยมากยิ่งขึ้น
          ล่าสุดหลังจากที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ไม่ประสงค์ออกนาม ผ่านศูนย์บริการร่วมฯ กรณีได้รับความเดือดร้อนเรื่องกลิ่นเหม็นจากโรงงานยางในพื้นที่ อำเภอบางกล่ำ โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ ข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ชุดเคลื่อนที่เร็ว ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยผู้แทน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงร่วมกัน จนพบว่า 1.จุดที่มีกลิ่นเหม็น น่าจะมาจาก ลานรอชั่งขี้ยางจากรถบรรทุก 2.พบการรั่วซึมของ บ่อรับน้ำจากการบำบัดฯ และระบบปั๊มน้ำ ซึ่งอาจจะไหลลงสู่ลำรางสาธารณะได้
          โดยที่ประชุมได้วางมาตรการให้ทางบริษัท แก้ไขดังนี้ 1.ขอความร่วมมือรถบรรทุกขี้ยางทุกคันให้จัดทำ ถังรับน้ำจากขี้ยางไม่ให้ไหลลงพื้น และหากคันใด ยังฝ่าฝืนอาจจะใช้มาตรการในการงดรับซื้อขี้ยาง
          2.ให้บริษัทฯ จัดทำคันกั้นรอบบ่อบำบัด เนื่องจากปัจจุบันมีระดับน้ำเต็มบ่อ หากมีปริมาณน้ำฝนลงมาอาจจะล้นบ่อได้ สำหรับลานด้านหน้าบริเวณที่ลง ขี้ยาง ให้ทำคันกั้นน้ำชำระล้างขี้ยางไม่ให้ลงท่อระบายน้ำฝน นอกจากนี้ ให้ซ่อมแซมแก้ไขระบบปั๊มน้ำ ให้อยู่ในสภาพปกติ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำจากการบำบัดไหลลงสู่ลำรางสาธารณะ
          3. บริษัทจะทำการปรับปรุงแก้ไขตามข้อเสนอแนะ ข้างต้นให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน โดยจะรายงานผลให้อำเภอบางกล่ำทราบ
          4. ทั้งนี้ เพื่อให้การแก้ไขปัญหาข้างต้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม จึงมอบหมายให้อำเภอบางกล่ำได้ติดตามการแก้ไขปัญหาข้างต้นอย่างใกล้ชิด และหากมีปัญหาให้รายงานจังหวัด เพื่อพิจารณาหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไป
          นี่จึงเป็นภารกิจของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสงขลาในการให้บริการและดูแลพื้นที่อย่างเข้าถึง รวดเร็ว ตามนโยบายของรัฐบาลที่มอบให้กับประชาชน
--จบ--

          --ข่าวสด ฉบับวันที่ 12 เม.ย. 2560 (กรอบบ่าย)--