รายงาน: ปี2561ศาลปค.มุ่งสู่ศาลอัจฉริยะ นำร่องห้องไต่สวนอิเล็กทรอนิกส์
Source - มติชน (Th)

Wednesday, January 03, 2018  05:35
46639 XTHAI  MIDD DAS V%PAPERL P%MTCD

          สุวัฒน์ ปัญจวงศ์
          ศาลปกครองเป็นอีกศาลหนึ่งที่มีปริมาณคดีทางปกครองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง และกำลังดำเนินการพัฒนาใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์ในการบริหารและพิจารณาคดี
          โดย นายอติโชค ผลดี รองเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง รักษาการเลขาธิการสำนักงานศาลปกครอง เปิดเผยถึงแผนงานของศาลปกครองในปีใหม่ 2561 ว่า ตามที่นายปิยะ ปะตังทา ประธานศาลปกครองสูงสุด เคยประกาศไว้ว่า "ปี 2561 เป็นปีแห่งการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานและบริการประชาชนด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์" โดยภารกิจของศาลคือการพิพากษาด้วยความเป็นธรรม รวดเร็วและวางหลักกฎหมายปกครองเป็นบรรทัดฐาน ส่วนสำนักงานศาลปกครองสร้างกรอบแนวคิดกำหนดการทำงานเพื่อขับเคลื่อนนโยบายผู้บริหารศาล การปรับเปลี่ยนเพื่อให้รองรับการทำงานเชิงรุกอย่างมีประสิทธิภาพ และการรวมพลังเสริมสร้างองค์กรแห่งความสุข เพื่อจะสนับสนุนงานอำนวยความยุติธรรมของศาลภายใต้วิสัยทัศน์ "งานได้ผล คนมีความสุข" นายอติโชคเผยว่า เป้าหมายหลักของแผนยุทธศาสตร์ศาลปกครองขณะนี้ คือ การผลักดันบริหารงานด้วยระบบไอที และพัฒนาศาลปกครองไปสู่การเป็นศาลอัจฉริยะ หรือ E-Court (Excellence Court) การมุ่งเน้นการบริหารงานยุคใหม่ที่มีมาตรฐานในระดับสากล รวมทั้งเร่งรัดการพิจารณาคดีค้างนานเกิน 2 ปี ให้แล้วเสร็จในปี 2561 คดีเข้าใหม่ให้เป็นไปตามกรอบเวลามาตรฐาน และเร่งรัดบังคับคดีให้เป็นไปตามคำสั่งของศาลปกครองโดยเร็ว
          นายอติโชคบอกว่า ภารกิจแรกในการอำนวยความสะดวกประชาชนที่มีคดีความที่ผ่านมา คือ เปิดโครงการใช้บัตรเครดิต หรือบัตรเอทีเอ็ม ธ.กรุงไทย รูดชำระค่าปรับ ค่าธรรมเนียมศาลได้ ขณะนี้ธนาคารเริ่มทยอยทำระบบในศาลปกครองตามภูมิภาคแล้ว กำลังพัฒนาโปรแกรมเรื่องการติดต่อหน่วยงานด้วย จากเดิมที่ใช้บัตรประชาชนแลกบัตรเข้าออก และแสดงบัตรอีกหลายขั้นตอน ศาลจะพัฒนาให้สามารถใช้บัตรประชาชนเพียงบัตรเดียวเชื่อมระบบทั้งหมดตั้งแต่เข้ามา จะเป็นการสแกนจัดเก็บข้อมูลจากบัตรประชาชนไว้ เวลานี้กำลังพัฒนาถึงขั้นว่าถ้าหากประชาชนจะเข้ามาติดต่อฟ้องคดี หรือตามคดี สามารถที่จะโทรศัพท์เข้ามาแล้วหากชัดเจนมีการนัดหมายคดีไว้ เราจะอำนวยความสะดวกจัดที่จอดรถไว้ให้ด้วย ส่วนนี้จะพัฒนาของศาลในส่วนกลาง เพราะในภูมิภาคไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องที่จอดรถ
          "ส่วนการพัฒนาเป็นศาลอัจฉริยะ หรือ E-Court สำนักวิทยาการและเทคโนโลยีสารสนเทศกำลังศึกษาระบบและเทคโนโลยีเพิ่มที่จะรองรับการเป็น E-Court เช่น การจัดปรับปรุงห้องไต่สวนเดิม ให้เป็นห้องไต่สวนอิเล็กทรอนิกส์ (E-Court Room) แบบนำร่องก่อน 1 ห้องในศาลปกครองกลาง ที่จะติดตั้งระบบไอทีใช้เทคโนโลยีในการแสดงผลคดีให้องค์คณะ ตุลาการ และพนักงานคดีปกครอง สะดวกในการเรียกดูข้อมูลที่อยู่ในสำนวนด้วยความรวดเร็ว เดิมจัดเก็บแบบเอกสารเย็บเล่มหนาเป็น 100 ต้องใช้เวลาเปิดอ่าน โดยการเก็บข้อมูลนั้นจะมีเซิร์ฟเวอร์กลางเป็น Big Data เชื่อมโยงข้อมูลทั้งหมดทั้งส่วนกลางและภูมิภาคพร้อมนำเสนอข้อมูลต่างๆ ได้ทันทีแบบรวดเร็ว ด้วยการใช้คำสำคัญ คีย์เวิร์ด ซึ่งองค์คณะ ตุลาการ และพนักงานคดีปกครอง ที่ดูแลสำนวน จะได้เรียกข้อมูลได้ง่ายและสะดวกขึ้น หากห้องไต่สวนอิเล็กทรอนิกส์นำร่องนี้ทดลองแล้วสำเร็จจะทำหมดทุกห้องในศาลส่วนกลาง และการยื่นฟ้องคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-Filling เป็นทางเลือกให้คู่กรณีสามารถยื่นและส่งเอกสารเกี่ยวกับการฟ้องได้โดยไม่ต้องเดินทางมาศาล เราทำเป็นแผนไว้เลยว่าจะติดตั้งระบบเดือนมีนาคม 2561 เริ่มทดลองใช้เดือนกันยายน 2561 ขณะที่โครงการจะเริ่มที่ศาลปกครองกลางเพียงแห่งเดียวก่อน
          ด้านการพัฒนาระบบจัดเก็บเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ในสำนวนคดี (e-Records) นายอติโชคเผยว่า เป็นการใช้เทคโนโลยีสแกนเอกสารมาสนับสนุน การจัดเก็บ การนำเข้า (upload) เอกสารพยานหลักฐานในสำนวนคดี หรือการ upload ไฟล์ที่คู่กรณีนำมายื่นต่อศาล จะทดลองใช้กับศาลปกครองกลางและศาลปกครองสูงสุดก่อนช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีงบประมาณ 2561 รวมถึงการปรับปรุงโปรแกรมบนเว็บศาลปกครองเกี่ยวกับระบบบังคับคดีในส่วนของการยึด อายัด ขายทอดตลาด ที่เริ่มใช้ช่วงไตรมาสที่ 2 เช่นกัน และการออกแบบพัฒนาใช้ระบบคิวอาร์โค้ดสแกนทั้งบนสมาร์ทโฟนระบบ IOS กับแอนดรอยด์ (Android) ในการยืมและคืนสำนวน จะช่วยเหลือเรียกดูข้อมูลคดีได้ง่ายและสะดวกขึ้นบนแอพพลิเคชั่นมือถือ ขณะเดียวกันกำลังแก้กฎหมายให้รองรับระบบ E-Court เพื่อให้ทุกอย่างไปด้วยกันได้ภายในปี 2561
          นายอติโชคบอกด้วยว่า ในส่วนของประชาชนจะพัฒนาแอพพลิเคชั่นของศาลปกครองบนมือถืออย่างต่อเนื่อง ทั้งการสามารถสืบค้นคำพิพากษา คำสั่งศาลปกครอง การสร้างบัญชีของตนเองเพื่อเก็บคำพิพากษา หรือการขอคัดรับรองคำพิพากษา การรับรู้ข้อมูลข่าวสารบัญชีนัดของศาลที่ตนเองเกี่ยวข้องได้
          "ระบบ E-Court ที่เกี่ยวกับสำนวนคดีเป็นเรื่องภายในขององค์คณะ ตุลาการ และพนักงานคดีปกครอง ส่วนประชาชนจะเป็นเรื่องการติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีว่าอยู่ถึงขั้นตอนใดแล้ว คือ ประธานศาลปกครองสูง เน้นเรื่องการเป็น E-Court เพราะต้องก้าวให้ทันกับสภาพที่ปรับไปของทั้งต่างประเทศและภาครัฐของเราเองที่รัฐบาลประกาศเป็นไทยแลนด์ 4.0" นายอติโชคกล่าว และว่า สิ่งต่างๆ เหล่านี้ เราพยายามทำด้วยบุคลากรของเราเอง แม้งบประมาณจะจำกัดแต่เราพยายามใช้บุคลากรให้เต็มที่ เขาพยายามคิดว่าจะทำอย่างไรในการอำนวยความสะดวกประชาชนให้ได้มากที่สุด ดังนั้น จึงเป็นทั้งในกระบวนการของศาล เรื่องการพิจารณาคดี พร้อมกับการให้ความสำคัญจัดความสะดวกให้กับประชาชน
          ขณะที่ปัญหาในส่วนภูมิภาค นายอติโชคบอกว่า ในการให้บริการประชาชนโดยตรงยังไม่พบข้อจำกัดเท่าใดนัก คนที่มายื่นฟ้องน้อยกว่าส่วนกลาง แต่เราพยายามขยายและพัฒนาระบบไอทีถึงศาลภูมิภาคทั้งหมดให้เหมือนกับศาลส่วนกลาง โดยในปี 2561 ระบบไอทีจะได้รับดำเนินการเหมือนกัน จะไปพร้อมๆ กัน เพียงแต่บางเรื่อง เช่น กรณีห้องไต่สวนอิเล็กทรอนิกส์ จะทดลองใช้ในศาลส่วนกลางก่อน เพราะมีเรื่องงบประมาณเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หากผลมีประสิทธิภาพจึงจะขยายผลต่อไป
          "อย่างไรก็ดี ในหน้าที่บริหารงานของสำนักงานศาลปกครอง ต้องทำความเข้าใจเผยแพร่ความรู้ หลักกฎหมายให้หน่วยงานทางปกครองต่างๆ ด้วย เพื่อจะบริหารงานให้ปฏิบัติไปตามหลักนิติธรรมที่ดี เราเหมือนสร้างภูมิคุ้มกันฉีดวัคซีนป้องกันด้วยการให้ความรู้ ปัจจุบันวิธีการอาจต้องเปลี่ยนแปลงจากเดิมทำโครงการศาลพบประชาชน เนื่องจากมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ เราก็ร่วมกับ สวทช.ทำสื่อสาระออนไลน์ สื่อแอนิเมชั่นออกทั่วประเทศ รวมทั้งการเผยแพร่เป็นบทความเกี่ยวกับผลคดีที่ศาลตัดสิน และร่วมประชาสัมพันธ์กับหน่วยทางรัฐทั้งท้องถิ่น ส่งคนมารับการอบรมเรื่องกฎหมายทางปกครอง ป้องกันไม่ให้คดีเกิดขึ้น ลดปริมาณคดีสู่ศาลอีกทางด้วย
          "นอกจากนี้ ศาลได้เปิดรับสมัครตุลาการศาลปกครองสูงสุดเพิ่มเติมเนื่องจากยังน้อยอยู่ มีการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้เลื่อนไหลจากตุลาการศาลปกครองชั้นต้นขึ้นเป็นศาลปกครองสูงสุดได้เลย เท่าที่ทราบอาจมีประมาณ 14 อัตรา นอกจากนี้ก็ยังเปิดรับสมัครบุคคลภายนอกเข้ารับการคัดเลือกมาเป็นตุลาการปกครองสูงสุดด้วยตามสัดส่วนที่กำหนดในกฎหมาย ขณะเดียวกันจึงต้องเปิดคัดเลือกตุลาการศาลปกครองชั้นต้นควบคู่เพื่อทดแทนส่วนที่ขยับขึ้นไปเป็นตุลาการศาลปกครองสูงสุด และอีกประการที่จะดำเนินต่อไป คือ การเปิดศาลภูมิภาคเพิ่มในปีงบประมาณ 2561 จากตอนนี้มี 11 แห่ง โดยภายในเดือนตุลาคม 2561 จะเปิดเพิ่มอีก 3 แห่ง คือ ศาลปกครองภูเก็ต ศาลปกครองสุพรรณบุรี ศาลปกครองยะลา เป็นการอำนวยความสะดวกให้ประชาชนฟ้องคดีสะดวกขึ้น อย่างศาลปกครองยะลามองว่าน่าจะผ่อนคลายเรื่องที่ประชาชนไม่ได้รับความเป็นธรรมได้มากขึ้น" รักษาการเลขาธิการสำนักงานศาลปกครองระบุ--จบ--

          --มติชน ฉบับวันที่ 4 ม.ค. 2561 (กรอบบ่าย)--