จี้สธ.แก้กม.น้ำเมา คุมสื่อออนไลน์-ขายเดลิเวอรี่
Source - เว็บไซต์เดลินิวส์ (Th)
Thursday, May 24, 2018 14:19
56569 XTHAI XPOL POL V%NETNEWS P%WDN
โฆษณาเบียร์โจ่งครึ่มผ่านเพจดัง... ภาคประชาชน จี้ สธ. เข้มบริษัทน้ำเมายักษ์ใหญ่ วอนแก้กฎหมายคุมโฆษณาให้ครอบคลุมสื่อออนไลน์ การขายเดลิเวอรี่
เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ที่กระทรวงสาธารณสุข เครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจสุรา จำนวนหนึ่ง นำโดยนายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ เดินทางมายื่นหนังสือถึงนพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข เพื่อขอให้มีการพิจารณาเอาผิดบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอลยักษ์ใหญ่ โฆษณาเบียร์ที่เพิ่งมีการเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ผ่านเพจดัง เข้าข่ายผิดเรื่องการโฆษณาตามมาตรา 32 พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 หรือไม่ โดยมีนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้รับมอบหนังสือ
นายคำรณ กล่าวว่า จากการเฝ้าระวังติดตามการโฆษณาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขณะนี้พบว่ามีการหันมาใช้ช่องทางสื่อออนไลน์เพิ่มมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมายที่ห้ามโฆษณาทางโทรทัศน์ ล่าสุด พบว่าเมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา บริษัทเบียร์ยักษ์ใหญ่ ได้จัดทำโฆษณาเบียร์ที่เห็นทั้งขวด ทั้งยี่ห้อ มีการแจกของพรีเมี่ยม ของรางวัลต่างๆ และเผยแพร่ทางเพจ ขี้เมาเล่าเรื่อง ซึ่งมีผู้ติดตามมากกว่า 3 แสนคน นอกจากนี้ยังเผยแพร่ในเพจ แดกเหล้า เมาเบียร์ เพลียไวน์ มีผู้ติดตาม 1.8 แสนคน โดยพบว่าหลังมีการเผยแพร่โฆษณาดังกล่าวมีคนกดถูกใจ และแชร์ข้อมูลต่อจำนวนมาก จากพฤติการณ์นี้ทางเครือข่ายมองว่าเป็นทำผิดมาตรา 32 เรื่องการโฆษณาอย่างชัดเจน และผิดมาตรา 30 (5) เรื่องการส่งเสริมการขายด้วย ดังนั้นขอเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข เร่งพิจาณณาเอาผิดบริษัทเครื่องดื่มแลกอฮอล์ดังกล่าว ขอให้แจ้งเตือนประชาชนให้ทราบว่าการกดแชร์ กดถูกใจ อาจจะเข้าข่ายโฆษณาด้วย และปรับปรุงกฎหมายให้ครอบคลุมการโฆษณา การขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ออนไลน์ด้วย
จะเห็นว่าที่ผ่านมาขนาดกลุ่มศิลปินดาราคาที่เคยโพสต์ขวดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของอีกยี่ห้อหนึ่งลงในอินสตราแกรมส่วนตัวยังมีความผิด ส่วนอันใหม่นี้ยิ่งกว่าอีกเพราะเป็นรูปแบบของการโฆษณาอย่างชัดเจน 100% เพราะมีการโชว์ขวด โชว์ถ้อยคำเชิญชวนชัดเจนซึ่งกฎหมายบอกว่าแบบนี้ทำไม่ได้ แต่เขาเลี่ยงโดยเปลี่ยนจากการโฆษณาทางทีวีมาเป็นการโฆษณาทางออนไลน์แทน และที่จริงน่าจะถือว่าผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วย เพราะเอาข้อมูลที่ผิดกฎหมายมาโฆษณาต่อ แล้วเพจที่เอามาลงนั้นเราก็คิดว่าน่าจะเป็นเพจของบริษัทเองหรือไม่ เพราะพบว่ามีลิ้งค์เชื่อมโยงเข้าไปที่เว็บไซต์ของบริษัทโดยตรง ดังนั้นขอให้แก้กฎหมายคุมทั้งการโฆษณาออนไลน์ และการขายแบบเดลิเวอรี่ นายคำรณ กล่าว
ด้าน นพ.โอภาส กล่าวว่า ตนจะรับเรื่องนี้เพื่อส่งต่อให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาต่อไป ทั้งเรื่องการโฆษณา การปรับปรุงกฎหมายก็มีคณะกรรมการพิจารณาอยู่ รวมถึงกรณีประชาชนกดไลค์ กดแชร์ อาจจะเป็นความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็ต้องดูเจตนา แต่ก็อยากจะเตือนประชาชนว่าหากไม่มั่นใจข้อมูลที่อยู่ในโซเชียลฯ โดยเฉพาะอะไรที่เป็นคุณเป็นโทษต่อสังคมก็ไม่ควรแชร์ต่อ.
ที่มา: www.dailynews.co.th