กพฐ.จี้ตรวจทั่วประเทศอาหารกลางวันโรงเรียน
Source - เดลินิวส์ (Th)
Friday, June 08, 2018 03:11
59144 XTHAI XOTHER XFRONT DAS V%PAPERL P%DND
กพฐ.สั่งล้อมคอก! ตรวจอาหารกลางวันทุกโรง เรียนทั่วประเทศ หลังเกิดกรณีอื้อฉาวให้เด็กนักเรียนกินขนมจีนคลุกน้ำปลาที่สุราษฎร์ฯ กำชับติดตามดูแลทั้งด้านปริมาณและคุณภาพอาหารเป็นกรณีพิเศษ หากพบมีการทุจริตโครงการอาหารกลางวันนักเรียน หรือดำเนินการไม่เหมาะสม ให้ลงโทษทางวินัยกับ ผอ.โรงเรียนและผู้เกี่ยวข้องอย่างเฉียบขาด ลั่นหากปล่อยปละละเลยในการตรวจสอบ ผอ. สพท.ต้องรับผิดชอบ
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 มิ.ย. นาย วิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมนักเรียนโรงเรียนบ้านท่าใหม่ ต.ประสงค์ อ.ท่าชนะ หลังตกเป็นข่าวอื้อฉาวกรณีให้เด็กนักเรียนกินขนมจีนคลุกน้ำปลา ซึ่งภายหลังมีการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ว่าอาจมีการทุจริตค่าอาหารกลางวัน โดยผู้ว่าฯ ได้ให้กำลังใจข้าราชการครู รวมถึงผู้ปกครองที่ร่วมกันแจ้งเบาะแส จนนำไปสู่การตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยผู้ว่าฯ ได้ร่วมตักอาหารกลางวันแจกจ่ายให้กับเด็ก ๆ ซึ่งในวันนี้ทางโรงเรียนได้จัดเมนูผัดกะเพราหมู-ถั่วฝักยาว ไข่ดาว และเฉาก๊วยทับทิมกรอบเป็นขนมหวาน ซึ่งปรากฏว่าเป็นที่ถูกปากถูกใจของเด็กนักเรียนเป็นอย่างมาก โดยเด็ก ๆ ต่างบอกกับผู้ว่าฯ เป็นเสียงเดียวกันว่าไม่ได้กินอาหารที่เป็นกับข้าว 2 อย่างมานานมาก และอยากให้เป็นอย่างนี้ตลอดไป
ทางด้าน นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตนได้มีหนังสือสั่งการถึงผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) และผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาพิเศษทั่วประเทศ เรื่องการกำกับติดตามการดำเนินการโครงการอาหารกลางวันนักเรียน เนื่องจากได้มีข่าวเกี่ยวกับการจัดการบริการอาหารกลางวันแก่นักเรียนไม่มีความเหมาะสม ทั้งด้านคุณภาพและปริมาณ จึงขอให้ ผอ.สพท. ทุกแห่งมอบหมายให้ศึกษานิเทศก์ บุคลากรกลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษาและบุคลากรอื่น ๆ ในสำนักงานเขตพื้นที่ ไปตรวจติดตามการดำเนินการโครงการอาหารกลางวันของทุกโรงเรียน โดยให้เริ่มออกตรวจติดตามตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. เป็นต้นไป ให้ครบทุกโรงเรียน
โดยให้ทุกโรงเรียนได้จัดรายการอาหารตาม Program Thai School Lunch และให้ติดตามด้านภาวะโภชนาการของนักเรียนอย่างเร่งด่วน ในด้านการบริหารจัดการโครงการ และด้านปริมาณและคุณภาพอาหารเป็นกรณีพิเศษ หากพบว่ามีการดำเนินการที่ไม่เหมาะสม หรือมีการทุจริตในการดำเนินการ ให้ดำเนินการทางวินัยโดยเฉียบขาดกับผู้อำนวยการโรงเรียน และผู้เกี่ยวข้องอย่างรวดเร็ว ตามมาตรการตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อย่างเคร่งครัด
"ทั้งนี้หากพบว่าไม่มีการตรวจสอบติดตาม หรือ ตรวจสอบแล้วไม่มีการดำเนินการทางวินัยที่เหมาะสม ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่จะต้องรับผิดชอบในฐานะผู้บังคับบัญชาตามความเหมาะสมแก่กรณี ดังนั้นขอให้ ผู้บริหารทุกคนถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด" นายบุญรักษ์ กล่าว
ส่วน พล.ท.โกศล ประทุมชาติ ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยว่า ในส่วนของคณะทำงานของตนเองจะลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการอาหารกลางวันในพื้นที่จังหวัดภาคใต้ เริ่มจากวันที่ 8 มิ.ย.ที่โรงเรียนบ้านท่าใหม่ ซึ่งมีคลิปนักเรียนกินขนมจีนคลุกน้ำปลา โดยล่าสุดทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) สุราษฎร์ธานี เขต 2 สั่งการให้ผอ.โรงเรียนบ้านท่าใหม่มาช่วยราชการที่เขตพื้นที่ฯ และตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้ว คาดว่าจะสรุปผลได้ในวันที่ 8 มิ.ย.นี้
"เรื่องอาหารกลางวันเด็กมีปัญหามานาน โดยพบว่า ผอ.โรงเรียนใช้อำนาจเบิกเงินจากฝ่ายการเงินของโรงเรียนมาถือไว้เองคนเดียว และไปซื้อวัตถุดิบมาให้แม่ครัวด้วยตนเอง ซึ่งประเด็นเหล่านี้ไม่น่าเกิดขึ้น ทั้งนี้ ควรมีกรรมการตรวจสอบตามลำดับชั้น โดยในวันที่ 8 มิ.ย.ถ้าผลการสืบสวนฯ พบว่ามีมูลการทุจริตจริง จะขอให้ทางศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ใช้มาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในระบบราชการ ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) สั่งให้ ผอ.โรงเรียนบ้านท่าใหม่ ออกจากราชการไว้ก่อน จากนั้นเสนอให้สพท.ตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงต่อไป
ทั้งนี้ ยังพบประเด็นทุจริตเกิดขึ้นที่โรงเรียนบ้านท่าใหม่อีกมากมาย เช่น กรณีได้รับงบปรับปรุงระบบไฟฟ้าเมื่อปี 2560 จำนวน 380,200 บาท ทั้งนี้ ตามระบบการจัดหาต้องมีเสาไฟ 8 ต้น แต่มีการตัดเหลือ 6 ต้น เท่ากับว่าเสาไฟหายไป 2 ต้น และยังมีประเด็นการทำถนนคอนกรีตภายในโรงเรียนระยะทาง 100 เมตร เมื่อปี 2560 ซึ่งคณะกรรมการสืบสวนฯลงไปตรวจสอบพบว่าไม่มีการทำระบบจัดซื้อจัดจ้างอย่างถูกต้อง ผู้อำนวยการโรงเรียนจ้างทำเอกสารส่วนตัว ดังนั้นจึงถือว่ามีการทุจริตอย่างแน่นอน
นอกจากนี้ในส่วนของโครงการอาหารกลางวัน ตนจะเสนอให้ปรับระบบ โดยให้กำหนดเมนูอาหารกลางวันล่วงหน้า และประกาศแจ้งให้ทราบเพื่อให้ตรวจสอบได้ ทั้งนี้ นอกจากโรงเรียนบ้านท่าใหม่แล้ว ยังพบว่ามีปัญหาดังกล่าวในอีกหลายโรงเรียน ดังนั้นหากพบว่าโรงเรียนใดทุจริตอาหารกลางวันก็จะใช้มาตรการเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น(สถ.) กระทรวงมหาดไทย ได้ส่งหนังสือกำชับมาตรการป้องกันการทุจริตงบประมาณค่าอาหารกลางวันเด็กนักเรียน เพิ่มเติมจากมาตรการก่อนหน้าไปยังผู้ว่าฯทั่วประเทศให้กำชับอปท.ทุกแห่ง ดังนี้ 1.ให้พิจารณานำระบบแนะนำสำรับอาหารกลางวัน สำหรับโรงเรียนแบบอัตโนมัติมาใช้ในสถานศึกษา ซึ่งเป็นโปรแกรมความร่วมมือระหว่างสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล และศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ ที่ได้รับการยอมรับจากหลายหน่วยงาน โดยให้อปท.และสถานศึกษาในสังกัดอปท.ไปลงทะเบียนใช้งานในระบบได้ที่ Thai School Lunch www.thaischoollunch.in.th
2.สถานศึกษาใดใช้วิธีการจัดหาในรูปแบบการซื้อวัตถุดิบมาประกอบอาหารกลางวันเอง ให้ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนหรือชุมชน ได้แก่ ผู้ปกครอง กลุ่มแม่บ้าน ศิษย์เก่า อาสาสมัคร ที่มีอยู่ในท้องถิ่น สับเปลี่ยนหมุนเวียนกันช่วยสถานศึกษาดำเนินการ เช่น การตรวจสอบจำนวนหรือปริมาณวัตถุดิบ การประกอบ หรือการปรุงอาหาร เป็นต้น หากสถานศึกษาใดใช้วิธีจ้างเหมาบริการ ให้มีการตรวจสอบจำนวนหรือปริมาตรวัตถุดิบสำคัญก่อนการประกอบอาหารด้วยทุกครั้ง และ 3.หากพบว่ามีการร้องเรียน หรือการกระทำที่ไม่สุจริตเกิดขึ้น ให้ผู้กำกับดูแล หรือผู้บริหารท้องถิ่น เร่งรัดตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เป็นที่ยุติโดยเร็ว และดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป.--จบ--
ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์