วันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน 2566 เวลา 14.00 นาฬิกา ณ ห้องรับรองพิเศษ 205 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การรับรองเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ประจำประเทศไทย ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับฟิลิปปินส์
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การรับรอง นางมิลลิเซนต์ ครุซ-ปาเรเดส (H.E. Ms.Millicent Cruz-Paredes) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ประจำประเทศไทย ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ โดยมี พล.อ.ทวีป เนตรนิยม ประธานกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย - ฟิลลิปปินส์ นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายอาพล นันทขว้าง ผู้อำนวยการสำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ร่วมให้การรับรอง
ประธานรัฐสภา กล่าวต้อนรับและชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับฟิลิปปินส์ที่ใกล้ชิดกัน ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี อีกทั้งฟิลิปปินส์ยังเป็นประเทศผู้ก่อตั้งอาเซียนร่วมกับไทย ซึ่งเมื่อปีที่แล้วประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ได้เดินทางมาเยือนไทยเพื่อเข้าร่วมการประชุมเอเปค 2023 และในปีนี้ศาสตราจารย์พิเศษพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ยังได้นำคณะไปเข้าร่วมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก (APPF) ครั้งที่ 31 ณ กรุงมะนิลาด้วย ในอดีตเมื่อครั้งประธานรัฐสภาดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาครั้งแรก เมื่อปี 2540 ได้มีโอกาสเดินทางไปเยือนและพบกับประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ ซึ่งให้การต้อนรับเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ในระดับรัฐสภายังมีความใกล้ชิดกันอย่างยิ่งผ่านการจัดตั้งกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาของทั้งสองฝ่าย ซึ่งคาดว่าจากนี้จะมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันมากขึ้น โดยรัฐสภาไทยยินดีต้อนรับคณะผู้แทนจากรัฐสภาฟิลิปปินส์ในทุกโอกาส พร้อมกันนี้ ประธานรัฐสภาได้แสดงความชื่นชมครูสอนภาษาอังกฤษชาวฟิลิปปินส์ที่เข้ามาสอนในประเทศไทย ซึ่งถือว่ามีส่วนช่วยในการเรียนภาษาอังกฤษของนักเรียนไทยเป็นอย่างมาก และวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 รัฐสภาจะจัดงานประเพณีวันลอยกระทง จึงขอเชิญเอกอัครราชทูตฯ มาร่วมงานด้วย
ด้านเอกอัครราชทูตฯ กล่าวขอบคุณและยินดีที่ได้มีโอกาสพบกับประธานรัฐสภาในครั้งนี้ พร้อมกล่าวย้ำถึงความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างกัน โดยเฉพาะในระดับประชาชนในจังหวัดชายแดนทางใต้ของไทย ซึ่งเป็นบ้านเกิดของประธานรัฐสภา โดยเอกอัครราชทูตฯ ได้มีโอกาสไปเยือนพร้อมกับแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา สตูล ยะลา นราธิวาส และปัตตานี เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาชายแดนใต้ของไทยและพัฒนาพื้นที่ทางตอนใต้ร่วมกัน โดยเฉพาะด้านการศึกษาของเยาวชน ซึ่งมีครูชาวฟิลิปปินส์สอนหนังสืออยู่ประมาณ 124 คน นอกจากนี้ ยังมีแผนงานที่จะจัดโครงการด้านการส่งเสริมบทบาทสตรีที่เป็นเยาวชนใน จ.ยะลาผ่านโครงการ Inspiring Girls ที่ทำร่วมกับเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยที่เป็นสตรี ซึ่งขณะนี้มีผู้เข้าร่วมโครงการประมาณ 13 คน รวมทั้งมีแผนงานที่จะกลับไปเยือน จ.ยะลา อีกครั้ง
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือกันเรื่องการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ของไทย โดยเอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งว่าเกาะมินดาเนาซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์เคยมีเหตุการณ์ความไม่สงบเช่นเดียวกัน แต่ปัจจุบันเหตุการณ์กลับสู่สภาวะปกติแล้ว ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหาดังกล่าวเกิดจากการเจรจาหารือเป็นหลัก ซึ่งประธานรัฐสภาเห็นด้วยว่าการแก้ไขปัญหาต้องมาจากการหารือและแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้เชิญให้ประธานรัฐสภาเดินทางเยือนฟิลิปปินส์และประธานรัฐสภาได้เชิญประธานรัฐสภาฟิลิปปินส์มาเยือนไทยด้วยเช่นกัน
เครดิต : ข่าวโดยกลุ่มงานข้อมูลข่าวสารระหว่างประเทศ สำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร |