วันจันทร์ที่ 8 มกราคม 2567 เวลา 14.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุม 603-605 ชั้น 6 อาคารรัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีลงนามคำรับรองการปฏิบัติราชการของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 พร้อมทั้งลงนามคำรับรองการปฏิบัติราชการฯ ร่วมกับ ว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยมี พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ประธาน อ.ก.ร.ประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานราชการของรัฐสภาเป็นสักขีพยาน
โอกาสนี้ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้มอบนโยบายแก่ผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ใจความว่า มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาร่วมพิธีลงนามคำรับรองการปฏิบัติราชการของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ในวันนี้ ซึ่งในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้ปฏิบัติหน้าที่ในการสนับสนุนภารกิจด้านนิติบัญญัติอย่างมีประสิทธิภาพทั้งภารกิจของ สภาผู้แทนราษฎร รัฐสภา คณะกรรมาธิการ และคณะอนุกรรมาธิการคณะต่าง ๆ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย บทบาทของรัฐสภาปัจจุบันมีการเร่งรัดการพัฒนาที่ยั่งยืน มีการนำระบบเทคโนโลยีดิจิทัลมา สนับสนุนกระบวนการนิติบัญญัติให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ทั้งทางด้านการประชุม การมีส่วนร่วมของภาคประชาชน โดยการเข้าชื่อเสนอกฎหมายผ่านระบบเทคโนโลยีดิจิทัล และเครือข่ายสนับสนุน และให้ความสำคัญกับการเป็นส่วนราชการที่รับผิดชอบต่อสังคม รวมทั้งยังได้ดำเนินโครงการกิจกรรมตามภารกิจของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้เป็นอย่างดี ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจ และประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากรทุกคนในองค์กรภายใต้การนำของเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนี้ นอกจากแนวทางการปฏิบัติราชการตามที่กำหนดในคำรับรองการปฏิบัติราชการฯประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 แล้วนั้น สิ่งสำคัญที่ขอฝากไว้ 3 ข้อ คือ
1. ขอให้สำนักงานฯให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนภารกิจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560/ยุทธศาสตร์ชาติ โดยการพัฒนาและเสริมสร้างการเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่มีเสถียรภาพและมีธรรมาภิบาล ซึ่งให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของประชาชนทุกภาคส่วน ตลอดจนสนับสนุนการพัฒนา การสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับรัฐสภาระหว่างประเทศให้การดำเนินการการขับเคลื่อนอย่างบูรณาการจากทุกภาคส่วน เพื่อการพัฒนาในทุกระดับอย่างสมดุล มีเสถียรภาพ และยั่งยืน
2. ขอให้ผู้บริหารเป็นตัวอย่างที่ดีในการปฏิบัติงาน ตั้งใจทำงานให้มีประสิทธิภาพด้วยความโปร่งใส โดยยึดหลักคุณธรรมและรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายและประชาชน รักษามาตรฐานในการเป็นองค์กรคุณธรรมต้นแบบโดดเด่นและการที่สำนักงานฯได้รับผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (ITA) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จากสำนักงานคณะกรรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) อยู่ในผลการประเมินระดับคะแนน 95.13
3. ขอให้ผู้บริหารและข้าราชการทุกคน ให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็นองค์กรที่มีการบริหารจัดการโดยระบบที่ ทันสมัย มีขีดสมรรถนะสูง มีคุณธรรมจริยธรรมและความโปร่งใส พร้อมปรับเปลี่ยนไปสู่รัฐสภาดิจิทัล (Digital Parliament) เพื่อสร้างคุณค่าในการปฏิบัติงานและการให้บริการ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการให้บริการแก่ผู้รับบริการและประชาชน รวมทั้งสามารถสนับสนุนการดำเนินงานของฝ่ายนิติบัญญัติได้อย่างเต็มศักยภาพ พร้อมให้ความสำคัญนำนโยบายเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals : SDG) ที่คำนึงถึงความสมดุลใน 3 มิติ คือ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการยกระดับให้รัฐสภามุ่งสู่การเป็นรัฐสภาสีเขียว หรือ Green Parliament อย่างยั่งยืน เพื่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีในการทำงาน ใช้ทรัพยากรและพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพควบคู่กับการจัดระบบนิเวศในการทำงานเพื่อสร้างบรรยากาศในการส่งเสริม สนับสนุนการเรียนรู้ด้วยตนเองและสนับสนุนให้มีการสร้างนวัตกรรมภายในหน่วยงานอย่างเป็นรูปธรรม
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณ พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา ประธาน อ.ก.ร.ประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานราชการของรัฐสภา ผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและขอให้ข้าราชการทุกคนประสบผลสำเร็จในการปฏิบัติงาน และบรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ทุกประการ |