ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการระดับนานาชาติว่าด้วยปาเลสไตน์ ภายใต้หัวข้อ เรื่อง “ปาเลสไตน์: โมงยามแห่งความจริง (PALESTINE: Moments of Truth)” ณ ห้องประชุม 801 อาคารเฉลิมราชกุมารี 60 พรรษา (อาคารจามจุรี 10) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

วันอังคารที่ 30 มกราคม 2567 เวลา 09.00 นาฬิกา ณ ห้องประชุม 801 อาคารเฉลิมราชกุมารี 60 พรรษา (อาคารจามจุรี 10) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีเปิดการประชุมวิชาการระดับนานาชาติว่าด้วยปาเลสไตน์ ภายใต้หัวข้อ เรื่อง “ปาเลสไตน์: โมงยามแห่งความจริง (PALESTINE: Moments of Truth)” โดยมี นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร นายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร และคณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมพิธี

โอกาสนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวในพิธีเปิดใจความตอนหนึ่งว่า รู้สึกเป็นเกียรติและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มาเป็นประธานในการเปิดงานการประชุมวิชาการระดับนานาชาติว่าด้วยปาเลสไตน์ฯ ในวันนี้ ประเด็นปัญหาปาเลสไตน์ว่าเป็นเรื่องสำคัญและเป็นประเด็นที่ประชาคมโลกต่างให้ความสนใจ ที่ผ่านมาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ มีทั้งช่วงเวลาของการสร้างสันติภาพ และการก่อสงครามสลับไปมา ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และนโยบายของผู้นำในขณะนั้น แม้ว่าองค์การสหประชาชาติจะได้พยายามเข้ามาแก้ไขปัญหาเพื่อยุติความขัดแย้งและสร้างสันติภาพ แต่จนถึงปัจจุบัน ปัญหาความขัดแย้งก็ยังมิอาจหาข้อยุติและนำสันติภาพมาสู่ดินแดนปาเลสไตน์ได้ โดยสงครามล่าสุดได้มีแรงงานไทยถูกจับเป็นตัวประกันจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ได้ประสานไปยังอิสราเอลเพื่อให้การช่วยเหลือออกมาได้ ในฐานะประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ได้สัมผัสถึงท่าที ความหวังและความท้าทายเกี่ยวกับประเด็นการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนและการเคารพหลักมนุษยธรรมของคณะผู้แทนรัฐสภาทั่วโลก โดยเฉพาะการประชุมสหภาพรัฐสภาหรือ IPU สมัชชารัฐสภาเอเชีย หรือ APA และสมัชชารัฐสภาอาเซียน หรือ AIPA ซึ่งที่ประชุมได้หยิบยกประเด็นการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชาวปาเลสไตน์ขึ้นมาเป็นวาระในการอภิปรายบ่อยครั้งการประชุมวิชาการนานาชาติที่จัดขึ้นนี้ จะเกิดประโยชน์สูงสุดได้ จึงขอให้ช่วยกันทบทวน นำข้อมูลที่หลากหลาย มาพิจารณาวิเคราะห์ สังเคราะห์ และชี้ให้เห็นข้อเท็จจริงว่า เพราะเหตุใดปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในดินแดนปาเลสไตน์ถึงกลายเป็นประเด็นเรื้อรังยาวนาน แม้ผ่านมาแล้ว 75 ปี นับตั้งแต่มีการยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1989 เป็นต้นมา โดยล่าสุดประเทศภาคีสมาชิกองค์การสหประชาชาติทั้งหมดรวม 193 ประเทศ มี 138 ประเทศ ให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์แล้ว ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย จากเสียงเรียกร้องทั่วโลกสู่การตั้งรัฐปาเลสไตน์ จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสู่การสร้างสันติภาพในภูมิภาคตะวันออกกลางได้หรือไม่นั้น เชื่อมั่นว่า เวทีนี้จะเป็นช่องทางการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และถ่ายทอดข้อมูลเชิงวิชาการอันสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน รวมถึงผลลัพธ์ที่ทุกคนต่างคาดหวังในอนาคต โดยการสะท้อนผ่านมุมมองของผู้ทรงคุณวุฒิ และจากทุกคนในเวทีนี้ ขอขอบคุณผู้เข้าร่วมประชุม ที่ให้ความสนใจและติดตามสถานการณ์ปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลาง และขอขอบคุณคณะผู้จัดการประชุมวิชาการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสำนักงานคณะกรรมการกลางอิสสามแห่งประเทศไทยสภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรี ศูนย์มุสลิมศึกษา สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และองค์กรภาคี ที่ร่วมกันผลักดันให้เกิดกิจกรรมทางวิชาการขึ้นในวันนี้ ขอให้การจัดประชุมวิชาการระดับนานาชาติครั้งนี้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการจัดงานทุกประการ บัดนี้ ถึงเวลาอันสมควรแล้ว ขอเปิดงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติว่าด้วยปาเลสไตน์ ภายใต้หัวข้อ "ปาเลสไตน์ : โมงยามแห่งความจริง Palestine: Moment of Truth" ณ บัดนี้

จากนั้น ประธานสภาผู้แทนราษฎร มอบโล่เกียรติคุณแก่องค์กรผู้สร้างคุณประโยชน์ด้านมนุษยธรรม

การสัมมนาดังกล่าวจัดโดย สภาเครือข่ายช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม สำนักจุฬาราชมนตรี และศูนย์มุสลิม สถาบันเอเชียศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องด้วยข้อมูล “จริง” ของหนึ่งความขัดแย้งที่ซับซ้อน รุนแรง และยาวนานที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์โลก ผ่านการนำเสนอข้อมูลวิชาการ เปิดเวทีปรึกษาหารือและแลกเปลี่ยนความรู้เพื่อแสวงหาแนวทางสร้างสันติภาพ เสถียรภาพ และความมั่นคงต่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติบนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของกลุ่มศาสนาอับราฮัม