ประธานรัฐสภา ให้การรับรอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐคอซอวอ ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะ เพื่อแนะนำตัวและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภาไทยและสาธารณรัฐคอซอวอ

เมื่อวันศุกร์ที่ 8 มีนาคม 2567 เวลา 16.00 นาฬิกา ณ ห้องรับรองพิเศษ 205 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การรับรอง นายเครชนิก อาห์เมตี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศสาธารณรัฐคอซอวอ ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและคอซอวอ โดยมี นายดำรง พุฒตาล ที่ปรึกษาประธานรัฐสภา (กิตติมศักดิ์) นายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร นายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร นายมีชัย ออสุวรรณ คณะทำงานประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และนายอาพล นันทขว้าง ผู้อำนวยการสำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ร่วมให้การรับรอง

ประธานรัฐสภา กล่าวต้อนรับและชื่นชมรัฐมนตรีช่วยฯ ที่เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถและมีประสบการณ์ทางการเมืองหลายด้าน แม้ว่าไทยและคอซอวอมีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันมาไม่นาน แต่ก็ดำเนินมาด้วยดี คอซอวอมีประวัติศาสตร์ด้านการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่ยาวนานและมีวัฒนธรรมที่งดงาม ซึ่งประเทศไทยได้ให้การสนับสนุนและรับรองเอกราชของคอซอวอตามมติของสหประชาชาติเช่นเดียวกับหลายประเทศทั่วโลก และขอขอบคุณที่คอซอวอได้ตั้งสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยขึ้นโดยมีเขตอาณาครอบคลุมหลายประเทศ ซึ่งในอนาคตหวังเป็นอย่างยิ่งว่าประเทศไทยจะสามารถจัดตั้งสถานเอกอัครรราชทูตที่คอซอวอเช่นกัน ในส่วนของความสัมพันธ์ด้านรัฐสภา จะพยายามดำเนินการให้มีการจัดตั้งกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย – คอซอวอ ขึ้น เช่นเดียวกับที่รัฐสภาคอซอวอได้จัดตั้งกลุ่มมิตรภาพฯ ขึ้นแล้ว เพื่อที่จะให้เกิดการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันในอนาคต พร้อมกันนี้ ขอฝากความระลึกถึงไปยังประธานรัฐสภาและประธานาธิบดีของตอซอวอด้วย โดยรัฐสภาไทยยินดีให้การสนับสนุนด้านการพัฒนาประชาธิปไตยของคอซอวอให้ประสบความสำเร็จภายใต้กรอบการเจรจาของสหประชาชาติและสหภาพรัฐสภา และพร้อมให้การต้อนรับการเดินทางเยือนของฝ่ายคอซอวอในทุกโอกาส

ด้านรัฐมนตรีช่วยฯ กล่าวขอบคุณและเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสหารือกับประธานรัฐสภา ทั้งนี้ แม้ว่าคอซอวอเป็นประเทศเกิดใหม่และไทยกับคอซอวอมีทำเลที่ตั้งอยู่ไกลกัน แต่โลกของเทคโนโลยีและการสื่อสารในปัจจุบันทำให้ระยะทางแคบลง จึงทำให้ทั้งสองประเทศสามารถที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ซึ่งคอซอวอมีความประสงค์ที่จะพัฒนาและขยายความร่วมมือกับไทยในหลายด้าน โดยเฉพาะในด้านวัฒนธรรมและเศรษฐกิจ รวมทั้งด้านความสัมพันธ์ในระดับรัฐสภาโดยผ่านกลไกของกลุ่มมิตรภาพฯ ของทั้งสองประเทศ ในด้านเศรษฐกิจ คอซอวอมีจุดเด่นในการเป็นแหล่งกระจายสินค้าไปสู่ยุโรปและกำลังพัฒนาขึ้นมาก โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมามีอัตราเติบโตเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 6 ในขณะที่ภาคการส่งออกและการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) เพิ่มขึ้น 2 เท่า ดังนั้น จึงเป็นโอกาสอันดีที่นักลงทุนชาวไทยจะเข้าไปลงทุนในคอซอวอเพิ่มขึ้น ซึ่งแนวทางการพัฒนาประเทศที่สำคัญของคอซอวอนั้นยึดมั่นในหลักของพหุวัฒนธรรมที่เปิดกว้างให้ทุกศาสนาและชาติพันธุ์มีส่วนร่วมในการบริหารประเทศ และแก้ไขปัญหาด้วยการเจรจาเป็นสำคัญ ทั้งนี้ รัฐมนตรีช่วยฯ ได้เรียนเชิญประธานรัฐสภาฯ ให้นำคณะผู้แทนรัฐสภาไทยเดินทางไปคอซอวอในโอกาสต่อไปด้วย

เครดิตข่าว : กลุ่มงานข้อมูลข่าวสารระหว่างประเทศ สำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร