|
|
วันพฤหัสบดีที่ 4 กรกฎาคม 2567 เวลา 10.00 นาฬิกา ณ ห้องแถลงข่าว ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร มอบหมายให้ นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเห็นชอบและแจ้งให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการให้มีการออกเสียงประชามติเพื่อสอบถามความเห็นของประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จาก นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส. พรรคก้าวไกล สำหรับการยื่นญัตติด่วนครั้งนี้เพื่อเสนอคำถามประชามติเรื่องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามกลไกของ พ.ร.บ. ประชามติ มาตรา 9 (4) ซึ่งหลังจากวันที่ 23 เม.ย.67 รัฐบาลมีมติให้ทำประชามติเพื่อไปสู่การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งวางแผนจะทำประชามติ 3 ครั้ง และในครั้งแรกจะจัดขึ้นระหว่างเดือน ก.ค. ส.ค. 67 โดยใช้คำถามว่า ท่านเห็นชอบหรือไม่ ที่จะมีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยไม่แก้ไขหมวด 1 บททั่วไป หมวด 2 พระมหากษัตริย์ เครือข่ายประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ มีความเห็นว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะไม่สำเร็จ โดยมีเหตุผล ดังนี้ 1. คำถามประชามติที่คณะรัฐมนตรีเสนอ เป็นการถาม 2 ประเด็นใน 1 คำถาม โดยมีการบรรจุเงื่อนไขหรือรายละเอียดปลีกย่อยในตัวคำถาม ซึ่งอาจทำให้ประชาชน ที่เห็นด้วยกับบางส่วนของคำถาม แต่ไม่เห็นด้วยกับอีกบางส่วนของคำถาม (เช่น เห็นด้วยกับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แต่ไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขเรื่องหมวด 1 และ หมวด 2 มีความลังเลใจว่าควรจะลงมติเช่นไรที่สะท้อนเจตจำนงหรือจุดยืนของตนเอง โดยทำให้ในบรรดาประชาชนที่อยากเห็นรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อาจไม่ใช่ทุกคนที่จะลงคะแนน"เห็นชอบ " เหมือนกันอย่างเป็นเอกภาพ 2. คำถามประชามติที่คณะรัฐมนตรีเสนอ เพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ประสบปัญหาในเชิงกฎหมาย เพราะในเมื่อเนื้อหาของรัฐธรรมนูญในแต่ละหมวดมีความสัมพันธ์กัน การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อาจมีการยกร่างเนื้อหาบางส่วนในหมวด 3 เป็นต้นไป ที่ทำให้เกิดความจำเป็นทางกฎหมายที่จะต้องแก้ไขบางข้อความในหมวด 1 และ หมวด 2 ให้สอดคล้องกันกับหมวดอื่น ๆ แต่การแก้ไขดังกล่าวไม่สามารถกระทำได้ในกระบวนการดังกล่าว หากไม่เปิดให้มีการแก้ไขข้อความในหมวด 1 และ หมวด 2ในกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ 3. คำถามประชามติที่คณะรัฐมนตรีเสนอ เพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ไม่สามารถแก้ปัญหาความเห็นที่แตกต่างทางการเมืองในบริบทปัจจุบันได้ เพราะในเมื่อเป้าหมายสำคัญอย่างหนึ่งของรัฐธรรมนูญคือ การออกแบบกติกาการเมืองที่เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายท่ามกลางความเห็นที่แตกต่าง การบิดกั้นข้อเสนอจากประชาซนเกี่ยวกับการปรับปรุงเนื้อหาในหมวด 3 และ หมวด 2 (ซี่งไม่เป็นการเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองหรือรูปแบบรัฐ) อาจเพิ่มความเสียงที่รัฐธรรมนูญฉบับใหม่จะไม่ถูกมองว่าสะท้อนฉันทามติใหม่ของประชาชนทุกคนได้อย่างแท้จริง ดังนั้น เพื่อเสนอคำถามประชามติที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าว ขออาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2565 มาตรา 9 (4) ในการเสนอญัตติด่วนให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเห็นชอบและแจ้งให้คณะรัฐมนตรีดำเนินการให้มีการออกเสียงประชามติเพื่อสอบถามความเห็นของประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ขอยืนยันว่า เครือข่ายประชาชนร่างรัฐธรรมนูญต้องการรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่มาจากประชาชน ไม่ต้องการอยู่กับรัฐธรรมนูญ 2560 ฉบับของ คสช. ต่อไป โดยกระบวนการได้มาซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับใหม่จำเป็นต้องมีความชอบธรรม เปิดกว้างให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจตั้งแต่ต้นจนจบ หากมีเงื่อนไขปิดกั้นตั้งแต่ต้นก็สุ่มเสี่ยงที่กระบวนการข้างหน้าจะมีเงื่อนไขตลอดเส้นทางและทำให้กลายเป็นรัฐธรรมนูญฉบับของผู้มีอำนาจในยุคสมัยนั้นๆ |
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐
โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐ e-Mail : webmaster@parliament.go.th [คลิกดูแผนที่]
|
|
|
|