|
|
เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 67 เวลา 15.00 น. ณ ห้องรับรองพิเศษ 205 ชั้น 2 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การรับรอง H.E Mr. Nassereddin Heldari (นายนอเศเรดดีน ฮัยแดรี) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านประจำประเทศไทย โดยมี นายอารีเพ็ญ อุดรสินธุ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร นายมุข สุไลมาน เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่าที่ร้อยตำรวจตรี อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นางสาวฟารีดา สุไลมาน คณะทำงานประธานสภาผู้แทนราษฎร และนาย อาพล นันทขว้าง ผู้อำนวยการสำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ร่วมให้การรับรอง นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎรกล่าวต้อนรับด้วยความยินดี พร้อมทั้งชื่นชมที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยอยุธยา โดยเฉกอะหมัด กุมมี ชาวอิหร่านได้มาตั้งรกรากและรับราชการในราชสำนักไทยจนได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าพระยาบวรราชนายกเป็นจุฬาราชมนตรีคนแรกของประเทศไทย และมีลูกหลานสืบเชื้อสายมาจนปัจจุบันในสายสกุลบุนนาค ซึ่งเป็นนามสกุลสำคัญจนในปัจจุบัน นอกจากนี้ ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศครอบคลุมทั้งในด้านการทูต เศรษฐกิจ การค้า และการท่องเที่ยว สำหรับความสัมพันธ์ด้านรัฐสภา ประธานรัฐสภาเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภาครั้งแรกเคยได้มีโอกาสเดินทางเยือนอิหร่านและได้พบปะหารือกับประธานรัฐสภาอิหร่านในขณะนั้นด้วย และเมื่อประธานรัฐสภาอิหร่านเดินทางเยือนประเทศไทยก็ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 (พระอิสริยยศในขณะนั้น) โอกาสนี้ ประธานรัฐสภาได้กล่าวกับเอกอัครราชทูตฯ ฝากแสดงความยินดีไปยังประธานาธิบดีอิหร่านคนใหม่ พร้อมทั้งขอเชิญประธานรัฐสภาอิหร่านเดินทางเยือนไทย เพื่อเป็นการกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พร้อมทั้งได้แสดงความขอบคุณเอกอัครราชทูตฯ ที่ได้เชิญเดินทางเยือนอิหร่าน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านประจำประเทศไทย กล่าวขอบคุณประธานรัฐสภาที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น แสดงความเห็นว่าความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศมีความแน่นแฟ้นและมีมิตรภาพที่ดีต่อกันมาตลอด ทั้งสองประเทศมีการหารือประเด็นที่สนใจร่วมกันมาและมีความร่วมมือในหลาย ๆ ด้าน ทั้ง ด้านเศรษฐกิจ การค้า เทคโนโลยี และการท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวจากสาธารณรัฐอิสลามอิหร่านเดินทางมาประเทศไทยจำนวน 150,000 ถึง 200,000 คน ภายหลังสถานการณ์โควิด 19 คลี่คลายลง เอกอัครราชทูตฯ ยังได้แสดงความประทับใจที่สังคมไทย ซึ่งทั้งชาวพุทธและชาวมุสลิมสามารถอยู่ร่วมด้วยกันอย่างสงบสุข นอกจากนี้ เอกอัครราชทูตฯ ยังได้เดินทางไปเยี่ยมเยียน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ตามโครงการของกระทรวงการต่างประเทศ อันทำให้ได้รู้จักวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวมุสลิมในภาคใต้ของไทย โอกาสนี้ เอกอัครราชทูตฯ ได้แจ้งว่าประธานรัฐสภาอิหร่านได้ฝากความระลึกมายังประธานรัฐสภา และแสดงความขอบคุณที่ประธานรัฐสภาได้เชิญประธานสภารัฐสภาอิหร่านเดินทางเยือนไทย เครดิต : ข่าวโดยกลุ่มงานข้อมูลข่าวสารระหว่างประเทศ สำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร |
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐
โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐ e-Mail : webmaster@parliament.go.th [คลิกดูแผนที่]
|
|
|
|