|
|
วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม 2567 เวลา 11.15 นาฬิกา ณ ห้องประชุมสัมมนา (โถงกลาง) ชั้น B1 อาคารรัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวให้โอวาทต่อเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการเสริมสร้างบ้านเมืองสุจริตภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 กิจกรรมเสริมสร้างบ้านเมืองสุจริต : หัวใจของการพัฒนาประชาธิปไตย โดยมี นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายธงชาติ รัตนวิชา ผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร ผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ผู้นำศาสนา คณาจารย์ และนักศึกษา ร่วมรับฟัง โอกาสนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวให้โอวาทใจความว่า โครงการเสริมสร้างบ้านเมืองสุจริตฯ เป็นโครงการที่มีการสัมมนาอย่างต่อเนื่อง เป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการส่งเสริมการสร้างความรู้และการมีส่วนร่วมของเยาวชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา ที่ตระหนักถึงสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ดังนั้น อำนาจอธิปไตย คือ อำนาจสูงสุดในการปกครองประเทศ ซึ่งถือว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของการปกครอง โดยในวันนี้ (29 ส.ค. 67) มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างกรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้านระหว่างสหภาพยุโรปและรัฐสมาชิกฝ่ายหนึ่งกับราชอาณาจักรไทยอีกฝ่ายหนึ่ง อย่างไรก็ตาม อำนาจฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตุลาการ เป็น 3 เสาหลักของการปกครองระบอบประชาธิปไตย เยาวชนเป็นผู้ที่มีความสำคัญคือต้องเป็นผู้ที่จะรักษาประชาธิปไตยให้อยู่รอดปลอดภัยแล้วนำประเทศไทยสู่ความเจริญ รุ่งเรือง ดังนั้น ประเทศไทยอยู่ในมือของเยาวชนทุกคนนั่นเอง นิสิต นักศึกษาที่เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ในอนาคตอาจจะเป็น สส. รัฐมนตรี หรือเป็นฝ่ายตุลาการ การอบรมดังกล่าวเป็นการส่งเสริมประชาธิปไตยให้เจริญงอกงาม ดังนั้น บ้านเมืองเจริญได้ต้องมีเศรษฐกิจที่ดี มีผู้บริหารประเทศมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เป็นคนดี มีความซื่อสัตย์สุจริต นอกจากนี้ ยังมีภัยด้านยาเสพติดที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพจะเห็นได้ว่าคดีที่เกิดขึ้นจากอาชญากรรมยาเสพติดนักโทษที่อยู่ในเรือนจำประมาณ 3 แสนคน ร้อยละ 70 มาจากยาเสพติดซึ่งเป็นการทำลายอนาคตของประเทศ โครงการเสริมสร้างบ้านเมืองสุจริตฯ จึงจัดให้มีการเสวนา เรื่อง หลักธรรมทางศาสนากับการพัฒนาประชาธิปไตย ตนรู้สึกดีใจที่โครงการดังกล่าวได้นำเรื่องของ 3 ศาสนา มาเสวนาในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากทุกศาสนา สอนให้ทุกคนเป็นคนดี ซึ่งหากมีคนดี สังคม ประเทศก็จะดีตามมาด้วย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ทำให้ประชาชนห่างไกลจากสิ่งที่ไม่ดี ตลอดจนโครงการดังกล่าวยังเป็นอีกหนึ่งในการขับเคลื่อนประชาธิปไตยไปสู่ความยั่งยืน ดังนั้น บุคคลรุ่นหลังจำเป็นที่จะต้องรักษาประชาธิปไตย ผ่านการเรียนรู้และเข้าใจประชาธิปไตยอย่างเพียงพอ และถ่ายทอดความรู้แบบรุ่นสู่รุ่น เพื่อนำพาประชาธิปไตยไปสู่ การพัฒนาประเทศต่อไป ทั้งนี้ ประธานรัฐสภา ได้กล่าวเน้นย้ำว่า ขอฝากอนาคตของการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยไว้กับเยาวชนรุ่นหลัง ซึ่งปัจจัยสำคัญของการพัฒนาประชาธิปไตย คือ การรู้จักเสียสละ ทำเพื่อส่วนรวม เป็นคนดี และมีความกตัญญูรู้คุณ หากสามารถทำได้ก็จะนำพาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตามวิถีชีวิตประชาธิปไตยให้เยาวชนเป็นคนดีในการดำรงชีวิตต่อไป |
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐
โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐ e-Mail : webmaster@parliament.go.th [คลิกดูแผนที่]
|
|
|
|