หนุน'รัฐต่อรัฐ'แก้ปัญหาค้ามนุษย์

Source - กรุงเทพธุรกิจ (Th)

Tuesday, October 13, 2015 05:32

25003 XTHAI XEDU XENV DAS V%PAPERL P%KT

ธนิสา ตันติเจริญ

ปลายปีนี้ไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(เออีซี)ที่จะต้อง เตรียมความพร้อมในทุกด้าน โดยเฉพาะด้านแรงงาน ที่ปัจจุบันยังคงมีปัญหามากมาย โดยเฉพาะปัญหาที่สหรัฐ ระบุไว้ในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์(TIP Report) ประจำปี 2558 ที่คงอันดับไทยอยู่ใน Tier 3 จึงจำเป็นต้องแก้ไขและวางมาตรการดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการบริหารจัดการแรงงานต่างด้าว

นายธีรพล ขุนเมือง รองอธิบดีกรมการจัดหางาน(กกจ.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ไทย มีฐานะเป็นทั้งประเทศต้นทาง ทางผ่านและปลายทาง ที่มีแรงงานจากประเทศต่างๆ อพยพโยกย้ายถิ่นเข้ามาทำงานเป็นจำนวนมากและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องมีการบริหารจัดการที่ดี ปัจจุบันแรงงานต่างด้าว เป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับประเทศไทย แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎกติกาที่กำหนด โดยมีจำนวน ที่พอเพียงต่อการทำงานของภาคธุรกิจ และพอเหมาะกับฝ่ายความมั่นคงที่สามารถควบคุมดูแลได้ ตลอดจนสังคมไทยยอมรับได้และไม่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตคนไทย

ดังนั้น สิ่งที่จะต้องทำต่อไปเพื่อแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวอย่างทั่วถึงในอนาคตคือ จะต้องมีการวางมาตรการในการเข้าเมืองอย่างถูกกฎหมาย ซึ่งกระทรวงแรงงาน ได้ปรับกฎระเบียบและกฎหมายให้เกิดความสะดวก ง่าย รวดเร็ว และประหยัด เมื่อแรงงานเข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ก็ควรที่จะให้เขาเสียเงินทองน้อยที่สุด และมีความสะดวก รวดเร็ว ซึ่งก็จะทำให้แรงงานที่กระทำผิดกฎหมายมีจำนวนที่ลดลงตามลำดับ ขณะเดียวกัน การนำเข้าแรงงานต่างด้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ จะเป็นการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างด้าวแบบยั่งยืนเมื่อนายจ้างได้ดำเนินการขออนุญาตและรับแรงงานเข้ามาทำงานในสถานประกอบการแล้ว นายจ้างจะจัดอบรมให้แรงงานสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการแจ้งให้ทราบถึงชั่วโมงการทำงาน อัตราจ้าง การหยุดงาน การลา สิทธิและสวัสดิการการรักษาพยาบาลต่างๆ ที่จะได้รับ การจ้างแรงงานต่างด้าวที่ถูกต้องตามกฎหมาย จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาแรงงานลักลอบเข้าทำงานแบบผิดกฎหมายในระยะยาว ดังนั้นภาครัฐในส่วนของประเทศผู้ส่ง (Sending Country) และประเทศผู้รับ (Receiving Country) จะต้องร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหา เพื่อเป็นแรงจูงใจให้กับนายจ้าง สถานประกอบการ และแรงงานต่างด้าว ได้เข้าสู่ระบบการจ้างงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้เกิดความเหมาะสม ตลอดจนทำให้แรงงานมีความปลอดภัย ทั้งก่อนเดินทางเข้ามาทำงานและเมื่อเดินทางกลับประเทศ เมื่อแรงงานต่างด้าวเดินทางมาทำงาน ควรที่จะได้รับสิทธิแรงงานขั้นพื้นฐานและสิทธิทางสังคมขึ้นพื้นฐานอย่างเท่าเทียมกับแรงงานในประเทศไทยภายใต้รัฐบัญญัติ

ที่เกี่ยวข้องกับด้านแรงงานและกฎหมายอื่นๆ โดยแรงงานจะได้รับการอบรมเรื่อง กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ ที่แรงงานต่างด้าวจะต้องรับรู้ และปฏิบัติตัวให้ถูกต้องตามกฎหมาย สิทธิ ประโยชน์ ต่างๆ ได้แก่ สิทธิด้านประกันสังคม การประกันสุขภาพ การคุ้มครองแรงงาน และการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขและสวัสดิการต่างๆ

หากแรงงานไม่ได้รับการดูแล หรือการจ้างงานของนายจ้างไม่เป็นไปตามที่สัญญาจ้างระบุไว้ แรงงานต่างด้าวต้องมีช่องทางการร้องเรียน หรือร้องทุกข์ได้ ทั้งนี้ ในการอบรมแรงงานต่างด้าวจะต้องให้แรงงานอ่านและทำความเข้าใจสัญญาจ้างก่อนที่จะลงนามในสัญญาจ้าง โดยกรมการจัดหางาน จัดให้มีสายด่วน 1694 มีล่ามแปลทุกสัญชาติในการดำเนินการ

ทั้งนี้ประเทศผู้รับและประเทศผู้ส่ง จะต้องมีการเจรจา และหารือร่วมกัน เพื่อช่วยเหลือให้แรงงานต่างด้าวได้กลับคืนสู่ประเทศต้นทาง และอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข โดยไม่ตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์หรือการจ้างแรงงานผิดกฎหมาย

นอกจากนี้ เราต้องสนับสนุนการดำเนินธุรกิจในอนาคต จะให้มีการเพิ่มจำนวนแรงงานเรื่อยๆ คงไม่ได้ แต่ควรที่จะเพิ่มความสามารถในการผลิต โดยการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ให้มากขึ้น เพื่อลดการทำงานที่ใช้แรงงานแบบเข้มข้นให้หมดไป!!!

บรรยายใต้ภาพ

ธีรพล ขุนเมือง--จบ--

ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ