ดีเดย์ส.ค.คุมเข้มแท็กซี่ ติดGPSพ่วงปุ่มฉุกเฉิน
Source - เว็บไซต์ไทยโพสต์ (Th)
Saturday, May 06, 2017 06:56
914 XTHAI XPOL POL V%NETNEWS P%WTP
บิ๊กป้อมป่วยแต่ยังลุยงาน ประชุมแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมายก่อนอียูมาตรวจเดือนหน้า จัดระเบียบแรงงานต่างด้าวเปลี่ยนใบอนุญาตเป็นสมาร์ทการ์ด แก้กฎกระทรวงแท็กซี่ต้องติดจีพีเอส พร้อมซีซีทีวี มีปุ่มกดฉุกเฉินสำหรับผู้โดยสารแจ้งศูนย์ควบคุม เพิ่มแท็กซี่โอเค และแท็กซี่วีไอพีมีกรมธรรม์ประกันภัยคุ้มครองผู้โดยสาร ตรวจสอบประวัติอาชญากรรมคนขับ บี้ "อูเบอร์" เรียกได้ด้วยสมาร์ทโฟน
ที่ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 5 พฤษภาคม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนและปฏิรูปการบริหารราชการแผ่นดิน คณะที่ 5 โดยมี พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม, พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก, พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตรได้ใส่หน้ากากอนามัยบอกว่าแม้มีอาการป่วยแต่ก็ต้องมาประชุม เพราะเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งคนใกล้ชิดเปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตรเป็นไข้หวัด มีอาการเจ็บคอ ไอ จามมา 2-3 วัน ไปพบแพทย์แล้ว แต่ไม่ได้นอนโรงพยาบาล สาเหตุน่าจะมาจากการเดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เมื่อวันจันทร์ และเผชิญกับอากาศเปลี่ยนแปลง
หลังการประชุม พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงว่า ที่ประชุมได้พูดคุยถึงการแก้ปัญหาในหลายๆ เรื่อง อาทิ การแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมายไร้การควบคุม ขณะนี้ประเทศไทยมีการปรับปรุงกฎหมายภายใน ทั้งพระราชกำหนดการเดินเรือในน่านน้ำไทย พระราชกำหนดเรือไทย ที่จะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 9 พ.ค.นี้ พร้อมทั้งได้เข้าร่วมเป็นภาคีว่าด้วยเรื่องการประมงกับนานาชาติด้วย คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จก่อนที่สหภาพยุโรป (อียู) จะเดินทางมาตรวจไทยอีกครั้งในเดือนมิถุนายนนี้
พล.ต.คงชีพกล่าวว่า ที่ประชุมยังได้พูดคุยเรื่องการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าว ที่จะมีพระราชกำหนดการจัดการแรงงานต่างด้าว ให้การบริหารจัดการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จากนี้ทางกระทรวงแรงงานจะทำบัตรอนุญาตการทำงานให้กับแรงงานต่างด้าวในรูปแบบของสมาร์ทการ์ด ที่จะมีข้อมูลแรงงานในบัตรเพียงใบเดียว ช่วยให้เจ้าหน้าที่มีความสะดวกในการตรวจสอบข้อมูลโดยใช้สมาร์ทโฟน
ขณะที่ ร.ต.หญิงพรชนก อ่ำพันธุ์ ทีมงานโฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงว่า ที่ประชุมยังได้พูดถึงการจัดระเบียบรถแท็กซี่ ในเบื้องต้นจะให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการเกี่ยวกับกฎระเบียบและกฎหมายต่างๆ การควบคุมจุดจอดรับ-ส่งผู้โดยสารตามสถานที่จราจรคับคั่งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย สุ่มตรวจการปฏิบัติตามกฎหมายและการให้บริการ ขณะนี้ดำเนินการไปแล้ว โดยออกเป็นกฎกระทรวงเพื่อปรับปรุงการให้บริการแท็กซี่สาธารณะต้องมีระบบจีพีเอส ติดตั้งจอซีซีทีวีภายในรถ มีปุ่มกดฉุกเฉินสำหรับผู้โดยสารเพื่อส่งข้อมูลเข้ามายังศูนย์ควบคุมที่จะมีการตั้งขึ้น ทั้งนี้ กฎกระทรวงดังกล่าวคาดว่าจะใช้ได้เดือนสิงหาคม 60 สำหรับค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงแท็กซี่จะอยู่ที่ 29,000 บาทต่อคัน และจะออกเป็นข้อกำหนดว่าแท็กซี่ใหม่ต้องติดตั้งทันที แท็กซี่ที่ใช้มาแล้ว 3-6 ปีจะขยายเวลาติดตั้ง 6 เดือนถึง 1 ปี ส่วนแท็กซี่ที่จะหมดอายุการใช้งานใน 1-2 ปีอาจจะไม่ต้องติดตั้ง
ส่วนการจัดระเบียบอื่น จะมีการจัดทำโครงการ "แท็กซี่โอเค และโครงการ แท็กซี่วีไอพี โดยผู้จดทะเบียนต้องเป็นนิติบุคคลเท่านั้น ซึ่งแท็กซี่วีไอพีจะพิเศษกว่าแท็กซี่โอเค คือประชาชนสามารถเรียกใช้บริการผ่านสมาร์ทโฟนได้
ด้านนายณันทพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า ได้รายงานความคืบหน้าการจัดระเบียบแท็กซี่ให้ที่ประชุมทราบ อย่างไรก็ตาม พล.อ.ประวิตรได้แสดงความเป็นห่วงว่าการบังคับให้แท็กซี่ต้องติดจีพีเอส อาจจะทำให้กระทบรถแท็กซี่ทั้งระบบ จึงกำชับ ขบ.ช่วยดูแลไม่ให้ได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากการติดตั้งจีพีเอสต้องมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
ส่วนนายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดี ขบ. กล่าวว่า กรมได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลที่จะยกระดับคุณภาพการให้บริการรถแท็กซี่สาธารณะ ทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด จึงได้จัดทำโครงการแท็กซี่โอเคและแท็กซี่วีไอพี เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และความมั่นใจในด้านความปลอดภัยในการเลือกใช้บริการรถแท็กซี่ในระบบ โดยได้เสนอแก้ไขกฎกระทรวงเกี่ยวกับรถแท็กซี่ทั้งสองฉบับ ซึ่งผ่านความเห็นชอบจาก ครม.แล้วเมื่อวันที่ 23 ส.ค.59 ขณะนี้อยู่ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา เพื่อส่งกระทรวงคมนาคมลงนามประกาศในราชกิจจานุเบกษาให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
สำหรับเงื่อนไขของแท็กซี่ทั้ง 2 ประเภท รถแท็กซี่ที่นำมาจดทะเบียน ต้องเป็นรถใหม่ หรือรถที่ใช้งานมาไม่เกิน 2 ปี ระยะทางไม่เกิน 20,000 กิโลเมตร มีกรมธรรม์ประกันภัยเพื่อคุ้มครองสิทธิผู้โดยสารตามกฎหมาย กรณีจดทะเบียนแท็กซี่ส่วนบุคคล อนุญาตให้มีได้เพียงคนละ 1 คันเท่านั้น และผู้ขอจดทะเบียนรถแท็กซี่จะต้องเป็นผู้ที่มีใบอนุญาตขับรถสาธารณะ กรณีที่เป็นนิติบุคคล ผู้ประกอบการจะต้องได้รับความเห็นชอบ โดยกรมจะตรวจสอบประวัติของผู้ประกอบการ เช่น จัดส่งประวัติผู้ขับรถอย่างครบถ้วน ให้ความร่วมมือในการติดตามผู้ขับรถที่มีข้อร้องเรียน นำรถเข้ารับการตรวจสภาพตามระยะเวลาที่กำหนดทุกคัน
"หากพบว่ามีประวัติการกระทำความผิด กรมจะไม่พิจารณาเพิ่มรถให้ จนกว่าจะมีการแก้ไขให้ถูกต้อง ด้านผู้ขับรถต้องผ่านการคัดกรอง โดยการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และต้องผ่านกระบวนการทดสอบใบอนุญาตขับรถสาธารณะ ผ่านการทดสอบขับรถจริงบนถนน พร้อมมีประวัติในฐานข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะของกรมการขนส่งทางบกทุกคน นอกจากนี้ ตลอดระยะเวลาการให้บริการ ต้องแสดงบัตรประจำตัวผู้ขับรถที่ออกโดยกรมการขนส่งทางบกที่ด้านหน้ารถ และจะต้องส่งชื่อผู้ขับรถและหมายเลขทะเบียนรถแท็กซี่แต่ละคนให้กรมการขนส่งทางบก หากมีการเปลี่ยนผู้ขับรถ ต้องแจ้งให้กรมการขนส่งทางบกทราบภายใน 15 วัน" นายสนิทกล่าว
ที่พัทยา พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เป็นประธานประชุมจัดระเบียบรถแท็กซี่พัทยา โดยมีเจ้าหน้าที่ขนส่งอำเภอบางละมุง เจ้าหน้าที่ทหาร และตัวแทนกลุ่มสหกรณ์แท็กซี่ในพื้นที่เมืองพัทยารวม 5 ราย ประกอบด้วย บริษัท พีเอ็มบี, สหกรณ์พัฒนาบ่อทอง, สหกรณ์เดินรถพัทยา, แท็กซี่โลมาพัทยา จำกัด และแท็กซี่ส่วนบุคคล เข้าร่วมในการประชุม เพื่อเป็นการหาแนวทางแก้ไข และบูรณาการร่วมในการจัดระเบียบการเดินรถโดยสารสาธารณะ และความขัดแย้งระหว่างกลุ่มผู้ประกอบการกับรถยนต์ส่วนบุคคลในนาม "อูเบอร์" กระทั่งเกิดความเข้าใจผิดกลุ่มแท็กซี่จำนวนหนึ่งปิดล้อมรถยนต์ส่วนบุคคลของหญิงคนหนึ่ง เพราะเข้าใจว่าเป็นรถอูเบอร์รับผู้โดยสาร ทั้งที่ไม่ใช่ ซึ่งตำรวจเตือนว่าหากเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกจะดำนินคดีเฉียบขาด
พร้อมขอความร่วมมือประชาชนและนักท่องเที่ยวใช้บริการรถแท็กซี่ที่ถูกต้องตามกฎหมาย.
ที่มา: www.thaipost.net