นักธุรกิจกำแพงเพชร แห่ร้องศูนย์ดำรงธรรมฯ โดนเถ้าแก่โชห่วยดังเชิดเงินกว่า 500 ล.
Source - MGR Online (Th)

Friday, June 15, 2018  13:10
26689 XTHAI XGEN V%WIREL P%ASMO

          กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--ASTVผู้จัดการออนไลน์

          กำแพงเพชร – นักธุรกิจเมืองกล้วยไข่ ยกขบวนร้องศูนย์ดำรงธรรมฯ หลังถูกเถ้าแก่โชห่วยรายใหญ่กู้ยืมระดมทุนลักษณะ “แชร์ลูกโซ่” สุดท้ายถูกเชิดเงินกันระนาว เสียหายกว่า 500 ล้านบาท ล่าสุดถูกจับติดคุก แต่อ้างทรัพย์ไม่เหลือแล้ว
          วันนี้(15 มิ.ย.) นายนพพร ปานชัย เถ้าแก่ห้างหุ้นส่วนจำกัด ช่างปล้อง และเป็นรองนายกเทศมนตรีเมืองกำแพงเพชร ได้นำคณะเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกำแพงเพชร ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดกำแพงเพชร ถนนกำแพงเพชร – สุโขทัย ต.หนองปลิง อ.เมืองกำแพงเพชร
          กรณีถูกนักธุรกิจเจ้าของโกดัง และโชห่วยรายใหญ่ของกำแพงเพชร เปิดบริษัท เรียกระดมทุนในลักษณะกู้ยืมคล้ายแชร์ลูกโซ่ โดยสัญญาจะจ่ายคืนในแต่ละเดือน แต่สุดท้ายไม่เป็นไปตามสัญญา มูลค่าความเสียหายรวมกันกว่า 500 ล้านบาท แล้วหลบหนีไป ก่อนจะกลับมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกำแพงเพชร ขณะนี้ถูกฝากขังอยู่ที่เรือนจำจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งพวกตนก็ได้ไปแจ้งความดำเนินคดีไว้ด้วยเช่นกัน
          แต่จากคำให้การของผู้ต้องหารายนี้ อ้างว่าทรัพย์ทั้งหมดที่กู้ยืมไป ไม่มีเหลือแล้ว ก็ไม่ทราบว่าเอาทรัพย์สิน ซึ่งมีมูลค่าจำนวนมาก ไปไว้ไหน สอบถามเจ้าทุกข์ทั้งหมด ก็ไม่มีใครได้รับเงินคืน มีแต่จ่ายเป็นเช็ค และปรากฏว่าเป็นเช็คเด้งทั้งหมด
          “พวกเราต้องพากันมาร้องทุกข์ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกำแพงเพชร เพราะหากมีการบังคับคดี ทรัพย์สินของผู้ต้องหา จะตกเป็นของแบงก์ที่ยื่นเรื่องบังคับคดีหมด พวกตนจะไม่ได้อะไรเลย เพราะผู้ต้องหารายนี้ ได้นำที่ดินไปยื่นเรื่องขอกู้แบงก์มาด้วย”
          สำหรับข้อสังเกตเบื้องต้นของธุรกิจที่เป็นแชร์ลูกโซ่ คือ ธุรกิจมีเป้าหมายต้องการระดมเงินจากประชาชนจำนวนมาก ด้วยการชักจูงหรือเชิญชวนให้นำเงินมาลงทุน พร้อมกับให้สัญญาและการันตีผลตอบแทนที่จะจ่ายภายในระยะสั้น โดยผลตอบแทนที่ธุรกิจแชร์ลูกโซ่ใช้จูงใจจะค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากทั่วไป ทำให้ผู้ถูกชักชวนมองว่าน่าสนใจและคุ้มค่าที่จะเสี่ยง ประกอบกับมีระยะเวลาในการลงทุนที่ไม่ยาวมาก
          เมื่อลงทุนไประยะหนึ่งแล้วแชร์ลูกโซ่จะสร้างความเชื่อใจโดยการจ่ายผลตอบแทนในครั้งแรกๆ ตามที่กำหนด เพื่อทำให้ผู้ถูกชักชวนหลงเชื่อว่าธุรกิจหรือสิ่งที่ลงทุนนั้นมีผลตอบแทนดี จนยินยอมนำเงินมาลงทุนเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจจะมีการจ่ายผลตอบแทนให้อีกไม่กี่ครั้งหรือจนกระทั่งวงแชร์จ่ายผลประโยชน์ไม่ไหวหลังจากนั้นก็จะทำการหลบหนี
          ทั้งนี้ จุดสำคัญของผู้ที่ทำแชร์ลูกโซ่มักจะต้องการระดมเงินจากคนจำนวนมาก ไม่ใช่การลงทุนจากคนเพียงคนเดียวหรือไม่กี่คน ซึ่งในอดีตการแพร่ขยายของแชร์ลูกโซ่จะอาศัยการบอกต่อ โดยให้คนที่หลงเชื่อชวนเพื่อน หรือคนใกล้ชิดมาลงทุนและเพิ่มผลตอบแทนพิเศษหากสามารถชักชวนให้คนมาสมัครเป็นสมาชิกหรือลูกข่ายเพิ่มได้ แต่ในปัจจุบันด้วยช่องทาง Social Media ทำให้การแพร่กระจายของแชร์ลูกโซ่เกิดเป็นวงกว้างในระยะเวลาอันรวดเร็ว เช่น การส่งต่อข้อมูลให้เพื่อนใน Face book หรืออยู่ใน Group แอพพลิเคชั่น Line ที่แชร์ข้อมูลระหว่างกันได้ง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะภายในจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นจังหวัดเล็กๆ--จบ--