วันอังคารที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๐๐ นาฬิกา ณ ห้องประชุม ๔๐๔ ชั้น ๔ อาคารรัฐสภา เกียกกาย นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การต้อนรับ
พลเอก พัชรพงษ์ อินทรสุวรรณ ประธานยุทธศาสตร์มูลนิธิครอบครัวพอเพียง นางอริยสิริ พิพัฒน์นรา ประธานกรรมการมูลนิธิฯ และคณะกรรมการมูลนิธิฯ
พร้อมด้วยผู้แทนแกนนำเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการครอบครัวพอเพียงสู่สถานศึกษาและชุมชน
จากศูนย์ครอบครัวพอเพียง จำนวน ๕ แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียนบดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี) ๒ โรงเรียนเบญจมราชาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โรงเรียนวัดราชาธิวาส โรงเรียนราชวินิต และโรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย ในโอกาส เข้าขอรับพรและรับฟังโอวาทเนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่
โอกาสนี้ ประธานรัฐสภา ได้กล่าวต้อนรับและให้โอวาทแก่คณะ โดยกล่าวถึงแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเป็นแนวพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ที่สามารถนำไปใช้ในชีวิต ได้อย่างแท้จริง โดยยึดหลัก ๓ ประการ คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล และ การมีภูมิคุ้มกันที่ดี รวมทั้งยกตัวอย่างการเกิดวิกฤติเศรษฐกิจไทยเมื่อปี ๒๕๔๐ มีเหตุมาจากการใช้จ่ายเกินตัว และต่อมาได้เกิดแนวทางการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดี หรือ ธรรมาภิบาล ประกอบด้วยหลักสำคัญ ๖ ประการ คือ หลักนิติธรรม คุณธรรม ความโปร่งใส การมีส่วนร่วม ความรับผิดชอบ และความคุ้มค่า รวมทั้งได้เล่าถึงประสบการณ์การใช้ชีวิตและการศึกษาในวัยเด็กจนเข้าสู่ มหาวิทยาลัย และประสบการณ์การทำงานในสมัยดำรงตำแหน่ง นายกรัฐมนตรีที่ได้ริเริ่มกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา
ทั้งนี้ ได้ขอให้เยาวชนทุกคนรู้จักบริหารเวลาให้เกิดประโยชน์ และคุ้มค่าที่สุดในวัยนี้ และต้องหมั่นฝึกฝนเรียนรู้ในสิ่งต่าง ๆ โดยเฉพาะ อย่างยิ่ง ในยุคดิจิทัลที่จะต้องเรียนรู้ให้มากขึ้นกว่าเดิม และให้ความสำคัญกับ
การเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เพราะการเรียนเพียงอย่างเดียวไม่สามารถทำให้ ประสบความสำเร็จได้เสมอไป ดังนั้น จึงต้องทำกิจกรรมควบคู่กันไปด้วย
ทั้งนี้ ได้อวยพรให้เยาวชนประสบความสำเร็จในการศึกษาและสิ่งที่ตั้งใจ โดยขอให้ตระหนักว่านอกจากจะเป็นผู้ที่มีความรู้แล้ว เหนือสิ่งอื่นใดคือ จะต้องเป็นคนดี และมีความซื่อสัตย์สุจริต โดยยึดพระบรมราโชวาท ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ใจความตอนหนึ่งว่า ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครที่จะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ ทั้งหมด การทำให้บ้านเมืองมีความปกติสุข เรียบร้อยจึงมิใช่การทำให้ทุกคน เป็นคนดี หากแต่อยู่ที่การส่งเสริมความดีให้คนดีปกครองบ้านเมือง และคุมคน ไม่ดี ไม่ให้มีอำนาจไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้ จึงขอให้ทุกคน เป็นคนดี เป็นกำลังสำคัญของครอบครัวและประเทศชาติต่อไปในอนาคต |