วันศุกร์ที่ ๒๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ เวลา ๐๙.๐๐ นาฬิกา ณ ห้องประชุม ชั้น ๖ อาคารรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร
ให้การต้อนรับ พลตรี ชำนาญ ช้างสาต ผู้อำนวยการสถาบันจิตวิทยา ความมั่นคงสถาบันวิชาการป้องกันประเทศ พร้อมด้วยคณาจารย์ เจ้าหน้าที่ และผู้เข้ารับการอบรมหลักสูตรพัฒนาสัมพันธ์ระดับผู้บริหาร กองบัญชาการกองทัพไทย (พสบ.บก.ทท.) รุ่นที่ ๑๒
ในโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะ และศึกษาดูงานรัฐสภา โดยมี นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายปรีชา ชวลิตธำรง ที่ปรึกษาประธานรัฐสภา น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร ผู้ช่วยเลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ และ นายแทนคุณ จิตต์อิสระ คณะทำงานทางการเมือง ของประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมในงานดังกล่าว
ในโอกาสนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร บรรยายสรุป เรื่อง "บ้านเมืองสุจริต" แก่คณะ ใจความสำคัญว่า
ที่มาของโครงการบ้านเมืองสุจริต มาจากความคิดที่ว่า องค์ประกอบของ บ้านเมืองที่จะทำให้ประเทศมีความมั่นคงอย่างแท้จริง คือ แต่ละฝ่ายทำหน้าที่ ของตนเองด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ดังพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราชบรมนาถบพิตร ในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช ๒๕๕๒
และพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช ๒๕๕๓ ที่ทรงให้หลักการ ทำงานในบ้านเมือง
"โดยขอให้ท่านทั้งหลายซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่สำคัญอยู่ในสถาบันหลักของ ประเทศ และชาวไทยทุกคน ทุกหมู่เหล่าทำความเข้าใจในหน้าที่ของตน ให้กระจ่าง แล้วตั้งจิตตั้งใจให้เที่ยงตรง หนักแน่น ที่จะปฏิบัติหน้าที่ของ ตนให้ดีที่สุด เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวมอันไพบูลย์ คือ ชาติ บ้านเมือง อันเป็นถิ่นที่อยู่ ที่ทำกินของเรา มีความเจริญ มั่นคง ยั่งยืนไป" พระราชดำรัสของพระองค์ท่าน เป็นข้อสรุปการทำงาน จากบุคคลที่มี ประสบการณ์สูงสุดบุคคลหนึ่งของโลก เป็นแนวทางในการทำงานให้กับพวกเรา ทุกคน ทุกคนมีหน้าที่ทำอะไร ควรรับผิดชอบต่อหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด
และหากทุกคนทำหน้าที่ที่รับผิดชอบอย่างเต็มที่ จะช่วยแก้ไขปัญหา ต่าง ๆ ได้อย่างแน่นอน เพราะความรับผิดชอบ คือ หัวใจสำคัญของ บ้านเมือง
พร้อมกันนี้ ยังได้กล่าวถึงความตั้งใจตั้งแต่วัยเด็กที่อยากเป็นนักการเมือง เพื่อเป็นตัวแทนประชาชน และเป็นปากเสียงให้กับประชาชน ช่วยทำให้เด็ก และคนที่ลำบากได้มีโอกาสทัดเทียมกับคนอื่น จึงมีความตั้งใจอยากเป็น นักการเมือง เพื่อสร้างโอกาสให้กับคนที่ด้อยโอกาส คนยากจน คนชนบท เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และด้วยระบอบประชาธิปไตย จึงทำให้ตนได้รับ โอกาสเข้ามาเป็นนักการเมือง โดยถือหลักความซื่อสัตย์ สุจริต ไม่ซื้อเสียง และด้วย ระบอบประชาธิปไตย ทำให้ตนได้รับเลือกจากประชาชน ได้มาเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และมาทำงานการเมืองและเมื่อ ปี พ.ศ. ๒๕๒๖ ๒๕๒๙ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ริเริ่มนโยบาย เพื่อกระจายโอกาสทางการศึกษาในหลาย ๆ เรื่อง เช่น
ในปี พ.ศ. ๒๕๒๘ ได้เริ่มโครงการอนุบาลชนบท เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษา ปี พ.ศ.๒๕๓๕ ได้เริ่มนโยบายเด็กดื่มนม เพื่อให้เด็กทุกคนได้มีโอกาสดื่มนม
เพื่อพัฒนาศักยภาพทางสมองและการเติบโต รวมทั้งได้ริเริ่มโครงการกองทุนเงิน ให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กที่ไม่มี ทุนทรัพย์ ลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา สร้างโอกาสให้กับทุกคน นี้คือส่วนหนึ่งของการสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนหัวใจอันสำคัญยิ่ง ของระบบการเมือง คือ ความซื่อสัตย์ สุจริต ปราศจากการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ปราศจากการโกง การได้มาซึ่งสิทธิ เสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยนั้น จะต้องได้มาด้วยความชอบธรรม หรือได้มาด้วยความสุจริต ไม่ใช่ได้มาด้วยการ ซื้อสิทธิ ขายเสียง การทุจริตหรือโกงการเลือกตั้ง การสร้างการเมืองสุจริต
เพื่อแก้ปัญหาธุรกิจการเมืองที่ยั่งยืนจำเป็นต้องเสริมสร้างให้ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม ภาคการเมือง เห็นความสำคัญของการเมืองที่ยึดหลัก ธรรมาภิบาล ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของการเมืองสุจริต ในส่วนของนักการเมืองต้องเป็น คนดี มีความรู้ ความสามารถกล้าทำในสิ่งที่ถูกต้อง ยึดมั่นผลประโยชน์ของประชาชน และประเทศชาติเป็นสำคัญ |