|
|
|
|
|
|
|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวรัฐสภา  |
ประธานรัฐสภา เป็นวิทยากรบรรยายพิเศษหัวข้อ ผู้นำธรรมาภิบาลและประชาธิปไตยในการขับเคลื่อนประเทศ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ให้แก่ผู้เข้ารับการศึกษาอบรมหลักสูตรประกาศนียบัตรธรรมาภิบาลของผู้บริหารระดับกลาง รุ่นที่ 23 ของสถาบันพระปกเกล้า ๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 16 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2564 |
|
|
|
|
|
|
|
วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม 2564 เวลา 13.00 15.00 นาฬิกา ณ ห้องทำงานประธานรัฐสภา ชั้น 3 อาคารรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นวิทยากรบรรยายพิเศษหัวข้อ ผู้นำธรรมาภิบาลและประชาธิปไตยในการขับเคลื่อนประเทศ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ให้แก่ผู้เข้ารับการศึกษาอบรมหลักสูตรประกาศนียบัตร ธรรมาภิบาลของผู้บริหารระดับกลาง รุ่นที่ 23 ของสถาบันพระปกเกล้า โดย นายชวน หลีกภัย ได้กล่าวถึงผู้นำและภาวะผู้นำ ซึ่งผู้นำมีบทบาทมากขึ้นในโลกยุคใหม่ เนื่องจากการที่องค์กรจะขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็วนั้นขึ้นอยู่กับผู้นำซึ่งถือเป็นกลไกสำคัญในทุกองค์กร ผู้นำที่ดีควรพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง หมั่นศึกษาหาความรู้ใหม่ ๆ รวมทั้งปรับปรุงภาวะความเป็นผู้นำให้ดียิ่งขึ้น ต้องทำตนเป็นแบบอย่างให้กับผู้ปฏิบัติ สร้างจิตสำนึก ความซื่อสัตย์สุจริต และสร้างค่านิยมร่วมของสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี ซึ่งผู้นำที่มีความน่าเชื่อถือ สร้างความเชื่อมั่น และได้รับการยอมรับจะทำให้คนอื่นพร้อมที่จะปฏิบัติตามและสามารถบรรลุเป้าหมายในภารกิจต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งได้กล่าวถึงหลักธรรมาภิบาลของการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีที่ใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน เพื่อประโยชน์สุขของประเทศชาติและประชาชน โดยต้องยึดหลักนิติธรรม นิติรัฐ และหลักธรรมาภิบาล ในการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี และขอให้ทุกท่านนำหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีหรือหลักธรรมาภิบาลมาปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ประกอบด้วย 1. หลักนิติธรรม คือ การปฏิบัติตามกฎหมาย และกฎระเบียบต่าง ๆ 2. หลักคุณธรรม คือ การยึดมั่นในคุณธรรม ความถูกต้อง เที่ยงตรง 3. หลักความโปร่งใส คือ การสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันของคนในชาติ ปรับปรุงกลไกการทำงานให้เกิดความโปร่งใส และเปิดเผยข้อมูล 4. หลักการมีส่วนร่วม คือ เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนรับรู้และเสนอความเห็นในการตัดสินใจในปัญหาสำคัญ 5. หลักความรับผิดชอบคือ ความรับผิดชอบในงานของตน การกระทำของตน รวมถึงการตระหนักและสำนึกในสิทธิและหน้าที่ 6. หลักความคุ้มค่า คือ การบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์สูงสุด ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่จำกัดให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่าที่สุด รวมทั้งต้องเพิ่มหลักความไม่เกรงใจต่อสิ่งที่ไม่ถูกต้องอีกข้อหนึ่ง เพราะมีข้าราชการดี ๆ หรือนักการเมืองดี ๆ หลายคนต้องติดคุก เพราะมาจากความเกรงใจ มีการแก้ระเบียบกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือนักการเมืองให้ได้ประโยชน์แต่ทำให้ประเทศชาติเสียหาย โดยความเกรงใจนั้นไม่ใช่สิ่งเลวร้ายแต่ต้องเกรงใจให้ถูกเรื่อง ดังนั้น จึงต้องให้ความสำคัญกับ "หลักธรรมาภิบาล" อย่างจริงจัง โดยการใช้หลักธรรมาภิบาลทำให้องค์กรสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารงานได้ อีกทั้งยังเป็นกลไกในการควบคุมติดตามและตรวจสอบ โดยมีประชาชนหรือองค์กรภายนอกมีส่วนร่วม ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายแก่การบริหารองค์กร เพราะการสร้างธรรมาภิบาลให้เกิดขึ้นในองค์กร เป็นการสร้างสำนึกที่ดีในการบริหารงาน และการทำงานในองค์กร และจัดระบบที่สนับสนุนให้มีการปฏิบัติตามสำนึกที่ดี ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการบริหารงานอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่สิ้นเปลือง การติดตามการทุจริต และความโปร่งใส โดยคำนึงถึงผู้เกี่ยวข้องที่จะได้รับผลกระทบ นอกจากนี้ ได้กล่าวถึงการส่งเสริมคนดีให้ได้เข้ามาปกครองบ้านเมือง ดังเช่นที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรได้ทรงมีพระบรมราโชวาทว่า ....ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใครทำทุกคนให้เป็นคนดีได้ทั้งหมด การทำบ้านเมืองมีความปกติสุขเรียบร้อยจึงไม่ใช่อยู่ที่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี หากอยู่ที่การส่งเสริมคนดีได้ปกครองบ้านเมือง และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้... การปกครองที่ดีจริงไม่ใช่เพียงผู้ปกครองดีเท่านั้น แต่ต้องมีหลักการปกครองที่ดีควบคู่ไปด้วย ดังนั้น ตนจึงได้ริเริ่มโครงการบ้านเมืองสุจริตขึ้น โดยมีความสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และเป็นสิ่งที่สังคมไทยคาดหวัง เพราะการได้มาซึ่งสิทธิเสรีภาพตามระบอบประชาธิปไตยนั้นจะต้องได้มาด้วยความชอบธรรมหรือได้มาด้วยความสุจริต และนอกจากจะเป็นคนเก่งแล้ว ประเทศชาติยังต้องการคนดี ทั้งคนดีที่เข้ามาบริหารประเทศ และคนดีที่เป็นประชากรของชาติ เพราะจะเป็นส่วนช่วยให้การเมืองภาคพลเมืองมีความเข้มแข็ง สามารถคานอำนาจซึ่งกันและกัน ทำให้บ้านเมืองมีความเจริญก้าวหน้า พัฒนาได้อย่างเป็นธรรม เท่าเทียม และลดความเหลื่อมล้ำในสังคมได้ อีกทั้งต้องฝึกฝนในเรื่องของระเบียบวินัยเพราะคุณภาพของอนาคตของชาตินั้นอยู่ที่การอยู่ในสังคมได้โดยไม่เบียดเบียนหรือสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น ซึ่งการปูพื้นฐานการมีระเบียบวินัยตั้งแต่ยังเด็กจะเป็นการวางรากฐานที่สำคัญสำหรับการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและจะช่วยให้สังคมเราดีขึ้นได้ สำหรับหลักสูตรดังกล่าว สำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับบริบทการเมือง การปกครองในระบอบประชาธิปไตยและเป็นกลไกในการขับเคลื่อน สนับสนุน การพัฒนาประชาธิปไตยอย่างเป็นระบบ รวมทั้งแนวคิด ความสำคัญ หลักการธรรมาภิบาล และการใช้หลักธรรมาภิบาลในบริบทต่าง ๆ และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการบริหารงานที่ยึดมั่นในคุณธรรม จริยธรรม เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ตอบสนองความต้องการของประชาชนและรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติโดยรวม ตลอดจนมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารองค์กรในสภาวะการเปลี่ยนแปลง และทราบถึงเครื่องมือการบริหารสมัยใหม่ เพื่อใช้เป็นกลไกในการนำไปปรับใช้ให้เกิดการบริหารงานที่มีหลักธรรมาภิบาลในองค์กรได้อย่างเหมาะสม |
|
|
วีดิทัศน์
|
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐ e-Mail : webmaster@parliament.go.th [คลิกดูแผนที่]
|
|
