ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้เกียรติเป็นองค์ปาฐก ในการสัมมนาวิชาการ เรื่อง “แนวทางการร่วมบูรณาการเพื่อพัฒนา EEC สู่เมืองน่าอยู่อัจฉริยะ” (Virtual Seminar EEC toward smart livable city)

FONTSIZE

ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวรัฐสภา

ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้เกียรติเป็นองค์ปาฐก ในการสัมมนาวิชาการ เรื่อง “แนวทางการร่วมบูรณาการเพื่อพัฒนา EEC สู่เมืองน่าอยู่อัจฉริยะ” (Virtual Seminar EEC toward smart livable city)

๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 16 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2564

วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม 2564 เวลา 13.30 นาฬิกา ณ ห้องทำงานประธานรัฐสภา ชั้น 10 อาคารรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา และประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้เกียรติเป็นองค์ปาฐก ในการสัมมนาวิชาการ เรื่อง “แนวทางการร่วมบูรณาการเพื่อพัฒนา EEC สู่เมืองน่าอยู่อัจฉริยะ” (Virtual Seminar EEC toward smart livable city) จัดโดย คณะบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยเทคโนโลยี พระจอมเกล้าพระนครเหนือ วิทยาเขตระยอง ในการนี้ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ร่วมในการดังกล่าว

โดยนายชวน หลีกภัย ได้ปาฐกถาพิเศษเกี่ยวกับ การเป็น EEC เมืองน่าอยู่อัจฉริยะ เพื่อยกระดับประเทศไทยก้าวไกลสู่ระดับโลก รวมถึงการเตรียมความพร้อมและแนวทางการบูรณาการและความร่วมมือของทุกภาคส่วน โดยแนวทางการบูรณาการ EEC สู่เมืองน่าอยู่อัจฉริยะนั้น ไม่ใช่แค่ตัวเลขเรื่องเศรษฐกิจที่ดีอย่างเดียว แต่ประชาชนต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี และต้องมีการพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืนควบคู่กันไปด้วย มีการกระจายอำนาจและความเจริญครอบคลุมทุกพื้นที่ ไม่ใช่กระจุกตัวอยู่เพียงจุดเดียว ตลอดจนมีความเจริญทั้งทางด้านวัตถุและจิตใจ เมื่อมีความขัดแย้งเกิดขึ้น กลไกของรัฐสามารถเข้าไปควบคุมดูแลและให้ความยุติธรรมกับทุกคนได้ นอกจากนี้จะต้องมีสภาพแวดล้อมที่ดี ควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านอุตสาหกรรม มีสังคมที่ดีและมีความสุจริต โดยจะต้องเป็นเมืองอัจฉริยะที่มีความเป็นบ้านเมืองสุจริต ส่งเสริมคนดี คนสุจริต มีความรู้ และไม่โกง สร้างคนที่มีคุณภาพ มีความสุจริต เพื่อส่งต่อบ้านเมืองที่ดีน่าอยู่อัจฉริยะไปสู่รุ่นลูกรุ่นหลานต่อไป ซึ่งต้องสร้างความอัจฉริยะควบคู่ไปกับการพัฒนาชุมชนและพื้นที่อย่างยั่งยืน ทั้งนี้ เมืองน่าอยู่สำหรับคนทุกกลุ่มในสังคม คือ การมีคุณภาพชีวิต สภาพแวดล้อม เศรษฐกิจและการบริหารจัดการที่ดี ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะด้านการสื่อสาร การขนส่งและพลังงาน จะเป็นโอกาสในการพัฒนาเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจในภูมิภาคให้เป็นเมืองอัจฉริยะ ซึ่งจะต้องใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัยและชาญฉลาดในการยกระดับการบริหารจัดการเมืองในมิติต่าง ๆ อาทิ การพัฒนาเศรษฐกิจ การคมนาคมขนส่ง การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การอนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม การใช้ชีวิต และการบริหารจัดการเมือง ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายในยุทธศาสตร์ชาติ ที่ต้องการให้มีการกระจายศูนย์กลางความเจริญทางเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งต้องลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติให้กับคนในสังคมนั้นด้วย