|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวรัฐสภา |
ประธานรัฐสภา มอบของขวัญวันเด็กให้แก่เด็กและเยาวชนเกาะสมุย เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ 2565
๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 8 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2565
|
วันเสาร์ที่ 8 มกราคม 2565 เวลา 09.30 นาฬิกา ณ โรงเรียนบ้านแหลมหอย หมู่ที่ 5 ตำบลแม่น้ำ (บ้านใต้) อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา พร้อมด้วย นายธีรภัทร พริ้งศุลกะ นายวิวรรธน์ นิลวัชรมณี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดสุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และคณะผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติสัญจร
ในการนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้มอบโอวาทในกิจกรรมวันเด็กแห่งชาติสัญจร ณ จังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมพบปะพูดคุยและมอบของที่ระลึกให้กับเด็กและเยาวชน ใจความว่า ในช่วงที่บ้านเมืองเราเกิดวิกฤตโรคระบาดโควิด 19 ทำให้ทุกคนต้องปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรก็ต้องงดการประชุม และไม่สามารถให้เด็กและเยาวชนไปเยี่ยมชมสภาได้มาถึง 2 ปีแล้ว อย่างไรก็ตาม กิจกรรมวันเด็กสัญจรที่จัดขึ้นในวันนี้มีเป้าหมายสำคัญ คือ เพื่อให้ทุกคนเห็นถึงความสำคัญของวันเด็ก และปีนี้คำขวัญวันเด็กจากประธานรัฐสภาคือ "รู้หน้าที่ มีวินัย ยึดมั่นประชาธิปไตยสุจริต" ทั้งนี้ นับตั้งแต่ตนเป็นนายกรัฐมนตรี ได้มอบคำขวัญวันเด็กโดยเน้นย้ำเรื่องประชาธิปไตยมาโดยตลอด ตั้งแต่เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีครั้งแรกได้ให้คำขวัญวันเด็กว่า "ยึดมั่นประชาธิปไตย ร่วมใจพัฒนารักษาสิ่งแวดล้อม" รวมถึงปีต่อ ๆ มา ก็ได้ให้คำขวัญไว้มาโดยตลอด อาทิ "สืบสานวัฒนธรรมไทย ร่วมใจพัฒนา รักษาสิ่งแวดล้อม" "ขยัน ประหยัด ซื่อสัตย์ มีวินัย" "มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ คู่คุณธรรม นำประชาธิปไตย" และในปี 2565 นี้ คือ "รู้หน้าที่ มีวินัย ยึดมั่นประชาธิปไตยสุจริต" จะเห็นได้ว่า คำว่ามีวินัย และสุจริต เป็นคำที่ตนให้ไว้ในทุกสมัย เพราะในสังคมประชาธิปไตยนั้น บ้านเมืองจะอยู่รอดได้ก็ต่อเมื่อคนต้องมีวินัยต้องเคารพกฎเกณฑ์กติกาบ้านเมือง
ในการนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระบรมราโชวาท เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2565 ความว่า คนเราทุกคน ย่อมมีหน้าที่ที่ต้องทำ หน้าที่ของเด็กนั้น สำคัญที่สุด ก็คือการศึกษาเล่าเรียน เพื่อให้มีวิชาความรู้ และคุณธรรมความดี จะได้สามารถพึ่งตนเองได้ สร้างความสุขความเจริญให้แก่ตนแก่ส่วนรวมได้ในอนาคต เด็กทุกคนจึงต้องตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ด้วยความอดทน และพากเพียรอยู่เสมอ ซึ่งคำขวัญวันเด็กที่ตนให้ในปีนี้ ก็ได้เน้นย้ำเรื่องหน้าที่ไว้เช่นเดียวกัน เพราะทุกคนต้องรู้จักหน้าที่ พลเมืองในระบอบประชาธิปไตย ต้องรู้จักทั้งสิทธิและหน้าที่ รู้จักใช้สิทธิ และรู้หน้าที่ที่ตนเองต้องทำ แต่หน้าที่ของเด็กและเยาวชนคือ ต้องเรียนหนังสือ เพื่อสะสมความรู้ไว้ใช้เป็นประโยชน์ต่อตนเองและเรียนต่อในอนาคต จึงขอเน้นย้ำเรื่องหน้าที่กับเด็กและเยาวชนทั่วประเทศว่า หน้าที่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในระบอบประชาธิปไตย อย่างไรก็ตาม สิทธิและหน้าที่ เป็นสิ่งคู่กัน เราจึงต้องรู้จักหน้าที่ความรับผิดชอบ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้ดำรัสในการเสด็จออกมหาสมาคมในงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช 2552 ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2552 ว่า ขอให้ท่านทั้งหลายในที่นี้ ซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่สำคัญอยู่ในสถาบันหลักของประเทศ และชาวไทยทุกคน ทุกหมู่เหล่าทำความเข้าใจในหน้าที่ของตนให้กระจ่าง แล้วตั้งจิตตั้งใจให้เที่ยงตรง หนักแน่น ที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวมอันไพบูลย์ คือ ชาติ บ้านเมือง อันเป็นถิ่นที่อยู่ ที่ทำกินของเรา มีความเจริญ มั่นคง ยั่งยืนไปสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ตนยึดมั่นและนำมาเผยแพร่ให้เยาวชนและคนไทยได้ตระหนักด้วยเช่นกัน พร้อมกันนี้ ได้เน้นย้ำเรื่องการยึดมั่นในความสุจริตในการปกครองในระบอบประชาธิปไตย คือ การให้ประชาชนมีสิทธิในการปกครองตนเอง อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ประชาชนเป็นเจ้าของประเทศ โดยผ่านระบบตัวแทน คือ การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรให้เข้าไปทำหน้าที่แทนประชาชนในรัฐสภา ฉะนั้น เราต้องเลือกตัวแทนที่เป็นคนดี มีความสุจริต ไม่โกง เพื่อให้บ้านเมืองอยู่รอด จึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่นักการเมืองจะต้องเป็นคนสุจริต จึงเป็นที่มาของคำขวัญวันเด็กที่ตนมอบในปีนี้ และขอใช้พื้นที่ตรงนี้จัดกิจกรรมเพื่อให้ความสำคัญกับเด็ก เพราะเด็กในวันนี้คือ ผู้ใหญ่ในวันหน้า ถ้าเราสร้างเด็กที่มีคุณภาพในวันนี้ เพื่อให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพในวันข้างหน้า ถ้าเราทำให้เด็กและเยาวชนในวันนี้ยึดมั่นในความซื่อสัตย์สุจริต เราก็จะมีคนที่สุจริตในวันข้างหน้า สร้างพื้นฐานที่ดีให้เยาวชน เพื่อที่วันข้างหน้าเราจะมีคนดีดูแลบ้านเมืองต่อไป
|
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐
โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐ e-Mail : webmaster@parliament.go.th [คลิกดูแผนที่]
|
|
|
|