วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2565 เวลา 09.30 นาฬิกา ณ ห้องรับรองพิเศษ 205 ชั้น 2 อาคารรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้การรับรอง เชคเอาวาฎ บิน สัฟตีย์ อัล อะนะซีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกิจการศาสนาและการเผยแพร่ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ในโอกาสมาปฏิบัติภารกิจที่ประเทศไทย และหารือข้อราชการเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างรัฐสภาไทยและซาอุดีอาระเบีย ให้กระชับแน่นแฟ้นมากขึ้น โดยมี พล.ต.ต.สุรินทร์ ปาลาเร่ นายนริศ ขำนุรักษ์ นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายวิวัฒน์ มุ่งการดี ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาผู้แทนราษฎร นางสาวสตีจิตร ไตรพิบูลย์สุข รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และนายอาพล นันทขว้าง ผู้อำนวยการสำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ร่วมให้การรับรอง นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวต้อนรับและกล่าวชื่นชมในความรู้ความสามารถและบทบาทของ รมช. ซึ่งจะช่วยเสริมความสัมพันธ์ระหว่างไทยและซาอุดีอาระเบียให้กระชับแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น โดยได้กล่าวยินดีที่ไทยและซาอุดีอาระเบียรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างกัน พร้อมชื่นชมความก้าวหน้าและ วิสัยทัศน์ซาอุดีอาระเบีย 2030 ซึ่งทำให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนในการพัฒนาประเทศของซาอุดีอาระเบีย ในส่วนของความสัมพันธ์รัฐสภา ประธานรัฐสภาได้อนุมัติให้มีการจัดตั้งกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-ซาอุดีอาระเบีย เมื่อปลายปี 2564 ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้รัฐสภาไทยและซาอุดีอาราเบียได้มีความใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น รวมทั้งจะช่วยให้เกิดความเข้าใจระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศมากยิ่งขึ้น
โอกาสนี้ ประธานรัฐสภาได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลซาอุดีอาระเบียที่ให้ทุนการศึกษาแก่นักศึกษาไทยมุสลิมเพื่อศึกษาหลักสูตรด้านศาสนาอิสลามมาอย่างต่อเนื่อง พร้อมกล่าวฝากความระลึกถึงไปยังประธานสภาที่ปรึกษา และรองนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย ตลอดจนกล่าวยินดีต้อนรับ รมช. ทุกโอกาส โดยหวังว่า รมช. จะได้กลับมาเยือนประเทศไทยอีกครั้ง
ด้าน เชคเอาวาฎ บิน สัฟตีย์ อัล อะนะซีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกิจการศาสนาและการเผยแพร่ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย กล่าวขอบคุณประธานรัฐสภาที่ให้การต้อนรับ โดยนับเป็นครั้งแรกที่ได้มาเยือนประเทศไทยและรู้สึกยินดีที่ได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมคารวะประธานรัฐสภา ซึ่งการพบปะในวันนี้สะท้อนให้เห็นถึงมิตรภาพและอัธยาศัยไมตรีอันดีงาม ที่จะเอื้อให้ทั้งสองประเทศพัฒนาความสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดียิ่ง
ทั้งนี้ รมช. ได้กล่าวถึงการที่ได้ไปพบปะกับชาวไทยมุสลิมในหลายพื้นที่ รู้สึกประทับใจที่ได้เห็นประชาชนต่างศาสนาแต่สามารถอยู่ร่วมกันอย่างสันติ ได้เห็นความใจใส่จากรัฐบาลไทย โดยเชื่อว่าการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ จะทำให้เกิดความร่วมมือมากขึ้นในทุกมิติ ซึ่งภารกิจหลักของกระทรวงกิจการศาสนา มุ่งเน้นการให้ความรู้ศาสนาอิสลามแนวทางสายกลางตามคำสอนของศาสนา ความเมตตาและความเอื้ออาทร เพื่ออยู่ร่วมกันอย่างสันติ
โอกาสนี้ รมช. กล่าวขอบคุณประธานรัฐสภาที่อนุมัติให้มีการจัดตั้งกลุ่มมิตรภาพสมาชิกรัฐสภาไทย-ซาอุดีอาระเบีย ซึ่งทางซาอุดีอาระเบียก็ได้จัดตั้งกลุ่มมิตรภาพซาอุดีอาระเบีย-ไทย ขึ้นด้วยเช่นกัน จึงหวังว่าสมาชิกรัฐสภาของทั้งสองประเทศจะได้มีโอกาสพบปะหารือกัน พร้อมกล่าวเรียนเชิญประธานรัฐสภาฯ เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียในเวลาที่สะดวกและเหมาะสม
เครดิต : ข่าว โดย กลุ่มงานข้อมูลข่าวสารระหว่างประเทศ สำนักความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร |