รางวัลพานแว่นฟ้า เป็นรางวัลที่สนับสนุนให้ประชาชนได้ใช้เสรีภาพการแสดงออกทางการเมืองผ่านบทวรรณกรรม ตามระบอบประชาธิปไตย

FONTSIZE

ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวรัฐสภา

รางวัลพานแว่นฟ้า เป็นรางวัลที่สนับสนุนให้ประชาชนได้ใช้เสรีภาพการแสดงออกทางการเมืองผ่านบทวรรณกรรม ตามระบอบประชาธิปไตย

๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 30 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2565

วันศุกร์ที่ 30 กันยายน 2565 เวลา 14.00 นาฬิกา ณ บริเวณสระมรกต ชั้น 1 อาคารรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลพานแว่นฟ้า ปี 2565 โดยมี นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ สมาชิกวุฒิสภาและศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ ปี 2536 ในฐานะที่ปรึกษาและกรรมการรางวัลพานแว่นฟ้า ปี 2565 อ่านบทกวีรางวัลพานแว่นฟ้า และนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานกรรมการรางวัลพานแว่นฟ้า ปี 2565 กล่าวรายงาน ในการนี้ คณะกรรมการรางวัลพานแว่นฟ้า คณะผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ศิลปินแห่งชาติ ผู้ทรงคุณวุฒิและนักวิชาการด้านวรรณกรรม ตลอดจนคณะทำงานทางการเมืองของประธานสภาผู้แทนราษฎร ร่วมพิธี

สำหรับรางวัลพานแว่นฟ้า ประจำปี 2565 ประเภทเรื่องสั้น รางวัลชนะเลิศ ได้รับโล่รางวัลพานแว่นฟ้า เกียรติบัตรของประธานรัฐสภา และเงินรางวัล 60,000 บาท ได้แก่ผลงาน เรื่อง "ความกระจ่างที่ระยะทาง 41,057 กิโลเมตร" โดย น.ส.ณัฏฐ์ธีรตา วิทิตวิญญูชน หรือ วิญวิญญ์

รางวัลรองชนะเลิศ จำนวน 2 รางวัล ได้รับโล่รางวัลพานแว่นฟ้า เกียรติบัตรของประธานรัฐสภา และเงินรางวัล ๆ ละ 40,000 บาท ได้แก่ผลงานเรื่อง "คนหนึ่งยืน คนอื่นนั่ง" โดย อุเทน พรมแดง และผลงานเรื่อง "มูลไส้เดือน" โดย อินทร อรพัน

รางวัลชมเชย 10 รางวัล ได้รับเกียรติบัตรของประธานรัฐสภา และเงินรางวัล ๆ ละ 20,000 บาท ได้แก่

1.ผลงานเรื่อง "กระสุนนัดนั้น" โดย นรเศรษฐ์ ทับทิมทอง

2.ผลงานเรื่อง "ไก่ที่หายไป" โดย รมณ กมลนาวิน

3.ผลงานเรื่อง "คนตัวสั่น" โดย จำปาขอม

4.ผลงานเรื่อง "บนทางเดินของออร์ฟิอัส" โดย รตี รติธรณ

5.ผลงานเรื่อง "ปากกากบฏ" โดย ยุทธนา ปัญญา

6.ผลงานเรื่อง "เผ็ดกำลังพอดี" โดย พยุงศักดิ์ แบบอย่าง

7.ผลงานเรื่อง "มุมมองภายใน" โดย วัฒน์ ยวงแก้ว

8.ผลงานเรื่อง "เรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร" โดย ธารา ศรีอนุรักษ์

9.ผลงานเรื่อง "เรื่องขายหน้าของซีเนไฟล์" โดย สาโรช แซ่ซึง

10.ผลงานเรื่อง "อื่น ๆ อีกมากมาย" โดย มิ่งมนัสชน จังหาร

ประเภทบทกวี รางวัลชนะเลิศ ได้รับโล่รางวัลพานแว่นฟ้า เกียรติบัตรของประธานรัฐสภา และเงินรางวัล 60,000 บาท ได้แก่ผลงานเรื่อง "ผีถ้วยแก้ว" โดย อร่าม อินพุ่ม

รางวัลรองชนะเลิศ จำนวน 2 รางวัล ได้รับโล่รางวัลพานแว่นฟ้า เกียรติบัตรของประธานรัฐสภา และเงินรางวัล ๆ ละ 40,000 บาท ได้แก่ ผลงานเรื่อง "ชาดอกไม้ - รหัสประเทศในสวนชีวิต" โดย นายวิสุทธิ์ ขาวเนียม หรือคีตาบารัตดายา และผลงานเรื่อง "เธอกับฉันนั้นคือเรา" โดย อภิชาติ ดำดี

1.ผลงานเรื่อง "ความเงียบไม่ใช่สันติสุข" โดย ปริญญ์ สระปัญญา

2.ผลงานเรื่อง "จิ๊กซอว์ประชาธิปไตย" โดย วิสวัน

3.ผลงานเรื่อง "จุดและเส้น" โดย ปณิธิ ภูศรีเทศ

4.ผลงานเรื่อง "โต๊ะอาหารที่ใหญ่กว่าบ้านทั้งหลังของเรา" โดย เฟืองเขียว เกี้ยวบุหลัน

5.ผลงานเรื่อง "ทัวร์ลงริซึม" โดย รังสิมันต์ จุลหริก

6.ผลงานเรื่อง "พานไหว้ครูห้อง ป.5" โดย กิติศักดิ์ ศรีแก้วบวร

7.ผลงานเรื่อง "เพลงของพ่อ บทกวีของแม่" โดย นรเศรษฐ์ ทับทิมทอง

8.ผลงานเรื่อง "เพื่อนเอ๋ย....เรายังอยู่ร่วมหมู่บ้าน" โดย พรชัย แสนยะมูล

9.ผลงานเรื่อง "เลือดในเลือด (แว่วเสียงลมไร้ชื่อจากกูตูปาลอง)" โดย องอาจ สิงห์สุวรรณ

10.ผลงานเรื่อง "วันคลื่นโถมเททะเลคลั่ง" โดย เมษา ภมรทรัพย์

ประธานรัฐสภา กล่าวยินดีกับผู้ได้รับรางวัลทั้งหมดว่า คนเรามีความเก่งที่ไม่เหมือนกัน ไม่ใช่คนเก่งจะเก่งในทุกเรื่อง และคนที่เก่งบทกลอน ศิลปะ นับได้ว่าเป็นคนมีพรสวรรค์ ที่บางคนไม่มี สมัยที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ดำริให้มีการตั้งรางวัลศิลปินแห่งชาติขึ้นมา โดยรางวัลศิลปินแห่งชาติรางวัลแรก ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลแด่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเป็นองค์อัครศิลปิน หมายถึงผู้มีศิลปะอันเลอเลิศ หรือผู้เป็นใหญ่ในศิลปิน รางวัลพานแว่นฟ้า เป็นรางวัลการประกวดผลงานเขียน วรรณกรรมการเมือง เพื่อสนับสนุนการปกครองระบอบประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข และให้ประชาชนได้ใช้เสรีภาพแสดงออกทางการเมืองและสืบสานวรรณกรรมการเมืองให้มีส่วนปลุกจิตสำนึกประชาธิปไตย