จนท.ขนส่ง ลงพื้นที่ฟิวเจอร์ฯรังสิตพบแท็กซี่หมดอายุให้บริการจำนวนมาก
Source - ศูนย์ข่าวแปซิฟิค (Th)

Thursday, May 03, 2018  19:20
1101 XTHAI XETHIC V%WIREL P%PACI

          การลงพื้นที่ตรวจรถโดยสารสาธารณะ บริเวณหน้าฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต นาย โฆษิต เอี่ยมละออ เจ้าพนักงานขนส่งชำนาญงาน กรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เน้นดูรถโดยสารสาธารณะ 4 ประเภท คือ รถแท็กซี่, รถมอเตอร์ไซด์รับจ้างป้ายดำ, รถตู้โดยสาร และรถทัวร์ สำหรับรถแท็กซี่ จะเน้นดูรถแท็กซี่หมดอายุ ซึ่งสังเกตได้จากตัวอักษรสุดท้ายของแผ่นป้ายทะเบียนรถ โดยรถแท็กซี่ที่เป็นรถเช่าจากอู่ที่หมดอายุ และห้ามนำออกมาวิ่งแล้ว คือรถแท็กซี่ที่ป้ายทะเบียนลงท้ายด้วยตัวอักษร ย,ร,ล,วส่วนรถเเท็กซี่ส่วนบุคคลที่หมดอายุแล้ว คือรถแท็กซี่ที่ลงท้ายด้วยป้ายทะเบียน จ และ ฉ หมายเลข 1000-3500
          นอกจากนี้จะตรวจจับรถแท็กซี่ที่ปฏิเสธผู้โดยสาร, ตรวจใบขับขี่ว่ามีถูกต้องตามประเภทหรือหมดอายุหรือไม่, ตรวจรอบมิเตอร์ว่าหมดอายุหรือไม่ รวมไปถึงการตรวจสภาพส่วนควบและความพร้อมของรถด้วย โดยตลอดการตรวจวันนี้พบรถแท็กซี่ทำผิดกฎหมายกว่า 10 คัน แบ่งเป็น นำรถที่หมดอายุมาวิ่งรับผู้โดยสารจำนวน 4 คัน ปฏิเสธผู้โดยสาร 3 คัน ไม่ชำระภาษี 1 คัน กระจกแตก 1 คัน และนำรถป้ายแดงมาวิ่งรับผู้โดยสารอีก 1 คัน
          ส่วนของรถแท็กซี่ป้ายแดงนั้น นาย โฆษิต ระบุว่า ไม่สามารถนำมาวิ่งรับผู้โดยสารได้ เพราะยังไม่ผ่านการตรวจสภาพมิเตอร์จากกรมการขนส่งทางบก และยังไม่มีการชำระภาษี จึงถือเป็นรถผิดกฎหมาย เมื่อนำมาวิ่งแล้วกรมการขนส่งทางบกตรวจพบมีโทษปรับ 1,000 บาท ส่วนรถแท็กซี่ที่หมดอายุ 4 คันในวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้ทำการถอดป้ายทะเบียนรถทันที พร้อมปรับ 1,000 บาท และออกคำสั่งผู้ตรวจการให้ไปรายงานตัวที่กรมการขนส่งทางบกภายใน 7 วัน เพื่อให้นำรถแท็กซี่ที่ถูกยึดไปเปลี่ยนประเภทเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลธรรมดา ส่วนอีกสองคันที่กระจกแตกและไม่ชำระภาษี ก็ได้ปรับไปคันละ 1,000 บาทเท่ากันเช่นเดียวกับรถแท็กซี่ที่ปฏิเสธผู้โดยสารก็ปรับคันละ 1,000 บาทเช่นกัน ทั้งนี้จากการลงพื้นที่ตรวจรถแท็กซี่ของกรมการขนส่งทางบกเฉลี่ยต่อสัปดาห์จะพบรถแท็กซี่หมดอายุประมาณ 20 คัน ส่วนการปฏิเสธผู้โดยสารยอมรับว่าเมื่อเจ้าหน้าที่ลงตรวจ มักไม่ค่อยพบ เพราะแท็กซี่จะรู้และหลบหลีกการปฏิเสธ
          สำหรับการลงพื้นที่วันนี้ยังพบรถแท็กซี่ที่ปฏิเสธผู้โดยสารสองคันต่อรองเจ้าหน้าที่ขอจ่ายค่าปรับลดลงจาก 1,000 บาท โดยเจ้าหน้าที่ได้ปฏิเสธและยืนยันว่าถ้าไม่จ่ายจะต้องไปจ่ายที่กรมการขนส่งทางบก หมอชิต พร้อมเข้ารับการอบรม 3 ชั่วโมง รถแท็กซี่ทั้งสองคันจึงเปลี่ยนเป็นขอจ่ายค่าปรับแทนทันที ทั้งนี้ยังพบรถแท็กซี่คันหนึ่งที่หมดอายุที่ขอให้เจ้าหน้าที่ต่อเวลาให้นำรถมาวิ่งได้อีก 1 เดือน เพราะรถตัวเองยังผ่อนไม่หมด แต่เจ้าหน้าที่ได้ปฏิเสธ เพราะต้องทำตามกฎหมาย
          นาย โฆษิต ยังระบุว่า บริเวณขาเข้ากรุงเทพฯ หน้าห้างฟิวเจอร์ฯ รังสิตนี้ กรมการขนส่งทางบกได้รับเรื่องร้องเรียนมาว่ามีการนำรถแท็กซี่หมดอายุมาวิ่งกันจำนวนมาก ส่วนฝั่งตรงกันข้ามก็มีเรื่องรถตู้โดยสารต่างจังหวัดแอบมารับผู้โดยสารในช่วงเย็นกันจำนวนมาก ซึ่งรถตู้ที่วิ่งต่างจังหวัดไม่มีสิทธิรับผู้โดยสาร เพราะพื้นที่นี้มีรถตู้ร่วมของขสมก.วิ่งรับอยู่แล้ว โดยทำได้แค่ส่งผู้โดยสารเท่านั้น หากตรวจพบก็จะปรับทันที ในส่วนของรถตู้ยังจะตรวจเรื่องการบรรทุกผู้โดยสารเกินกว่า 13 ที่นั่งตามที่กฎหมายกำหนดด้วย ซึ่งถ้าเจอก็จะปรับ 5,000 บาท ตามพระราชบัญญัติขนส่งทางบก 2522 ซึ่งส่วนมากจะพบในช่วงเช้าที่เป็นชั่วโมงเร่งด่วน บางคันพบว่ามีการบรรทุกผู้โดยสารมาถึงคันละ 15-16 คน โดยการให้ยืนบนรถตู้
          ส่วนรถมอเตอร์ไซด์จะตรวจจับรถมอเตอร์ไซด์ป้ายดำ เนื่องจากไม่สามารถนำมารับผู้โดยสารได้ เพราะถือว่าเป็นการนำรถมาใช้งานผิดประเภท ทั้งนี้วันนี้พบรถมอเตอร์ไซด์ป้ายดำ 1 คัน โดยรถคันดังกล่าว เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกก็พยายามขับหลบ แต่สุดท้ายถูกสกัดจับไว้ได้ โดยเจ้าหน้าที่ได้ปรับไป 1,000 บาท ส่วนรถทัวร์ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจวัดแอลกฮอลล์และตรวจใบขับขี่ โดยหากพบแอลกฮอลล์จะสั่งให้เปลี่ยนคนขับทันที แต่วันนี้ไม่พบรถทัวร์ทำผิดกฎหมายแต่อย่างใด
          ส่วนสภาพการจราจรบริเวณถ.พหลโยธิน หน้าฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิต ในขณะนี้คล่องตัวไม่มีปัญหาเช่นเดียวกับฝั่งขาออกก็เคลื่อนตัวได้สะดวกเช่นกัน แต่ทั้งนี้พบว่ามีรถทัวร์และรถสองแถวมักมาจอดรับส่งผู้โดยสารที่เลนสองอยู่เป็นระยะ--จบ--

          ที่มา: เว็บไซต์ศูนย์ข่าวแปซิฟิก