สนช.ลุยพื้นที่จ.ประจวบฯ แก้ปัญหาประปาขาดแคลน
Source - กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (Th)

Saturday, March 12, 2016  17:04
17350 XTHAI XPOL POL V%WIREL P%KTO

          สนช.ลุยพื้นที่จ.ประจวบฯ หารือส่วนราชการ แก้ปัญหาประปาขาดแคลนหัวหิน ด้าน “คำนูณ” แจงเหตุต่อเวลาปีเศษดันยุทธศาสตร์ชาติฯฉบับที่12
          ที่ห้องประชุมเกาะหลัก ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ คณะสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) นำโดยนายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช. คนที่ 2 นพ.เจตน์ ศิริธรานนท์ พล.อ.อ.ชาลี จันทร์เรือง พล.อ.สิงห์ศึก สิงห์ไพร พล.ท.ชัยยุทธ พร้อมสุข นายสนิท อักษรแก้ว นางกาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์ ได้ลงพื้นที่ตามโครงการสนช.พบประชาชน เพื่อเข้าหารือข้อราชการกับหัวหน้าส่วนราชการจังหวัด โดยมีนายทวี นริสศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดฯให้การต้อนรับ นอกจากนี้มีตัวแทนในส่วนต่างๆเข้าร่วม โดย นายวรพันธ์ เย็นทรัพย์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนครม. นายคำนูณ สิทธิสมาน รองเลขานุการและโฆษกกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(วิปสปท.) ทั้งนี้นายทวีได้บรรยายสรุปปัญหาในพื้นที่ อาทิ ปัญหาการคมนาคม โดยเฉพาะเมืองหัวหินมีปัญหาการจราจรคับคั่งหัวหิน และขอให้สนช.ผลักดันสร้างถนน 4 ช่องจราจรเส้นทางหัวหิน-ราชภักดิ์-ปราณบุรี การขาดแคลนน้ำประปา ปัญหาภัยแล้ง และสิ่งแวดล้อม การพัฒนาจุดผ่อนปรนทางการค้าด่านสิงขร การสาธารณูปโภค การท่องเที่ยว และอื่นๆ
          นายพีระศักดิ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ของสนช.ซึ่งจะรับฟังปัญหาของประชาชน ซึ่งขณะนี้ลงพื้นที่ไปกว่า 40 จังหวัด ซึ่งภาพรวมของปัญหาก็มีความคล้ายคลึงกัน เรื่องภัยแล้ง สิ่งแวดล้อม สาธารณูปโภค และคมนาคมและการจราจร ซึ่งเราก็จะรวบรวมเพื่อเสนอให้กับครม.เพื่อช่วยขับเคลื่อนปัญหาให้กับประชาชน อย่างไรก็ตามเดิมคสช.และครม.คิดว่าจะอยู่ได้แค่เพียง 1 ปี 6 เดือน หรือปีเศษ แต่เวลานี้สถานการณ์เปลี่ยนเพราะจะต้องอยู่ไปถึงปลายปี 60 โดยแม่น้ำ 5 สายช่วยกันขับเคลื่อนการปฏิรูปให้สำเร็จ
          นางกาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์ ที่ปรึกษากรรมการร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราวของสนช.ที่ผ่านมาว่า เป็นการแก้ไขในเรื่องการทำประชามติ โดยเสียงที่ผ่านประชามติคือโดยใช้เสียงข้างมากที่เห็นชอบมากกว่าเสียงผู้ที่ไม่เห็นชอบ โดยไม่นับรวมบัตรเสียหรือผู้ที่ไม่ลงคะแนน นอกจากนี้แก้ไขคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์ออกเสียงประชามติต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ณ วันที่ออกเสียงประชามติคือต้นเดือนส.ค. จากเดิมที่ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ณ ต้นปีคือ 1 ม.ค. ตลอดจนได้มีการลดค่าใช้จ่ายในการเผยแพร่ร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งเดิมจะต้องพิมพ์แจกจ่ายให้ได้ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ ต้องใช้เงินหลายพันล้านบาท แต่แก้ไขให้เผยแพร่ให้ประชาชนเข้าใจ รวมทั้งใช้สื่ออิเลคทรอนิกส์ต่างๆส่วนความคืบหน้าในการร่างรัฐธรรมนูญขณะนี้อยู่ในระหว่างการพิจารณาความคิดเห็นจากทุกฝ่าย ซึ่งต้องรอดูร่างสุดท้ายในวันที่ 29 มี.ค.
          ด้านนายคำนูณ กล่าวว่า สถานการณ์ของประเทศเวลานี้ดูเหมือนจะมีความสงบ แต่จริงๆแล้วมีคลื่นใต้น้ำอยู่ เพราะความคิดเห็นทางการเมืองของกลุ่มบุคคลทั้งสองฝั่งที่เคยมีความแตกต่างกันอย่างไรก็ยังคงมีความแตกต่างอยู่เช่นนั้น ดังนั้นการจะทำให้ทุกอย่างราบรื่นจะต้องพาประเทศไทยพ้นจากกับดัก 3 ประการคือทางเศรษฐกิจ ทางสังคม และการเมือง ทำให้ประเทศเดินหน้าไม่ได้ ดังนั้นการที่จะทำให้ประเทศเดินหน้าได้จะต้องมีการปฏิรูปในระยะเปลี่ยนผ่าน ในระยะเวลาอีก 1 ปี 6 เดือนนับจากนี้จะมีการดำเนินการที่สำคัญ 3 ประการ ประกอบด้วย การจัดทำยุทธศาสตร์ชาติ จัดทำแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 ที่จะเริ่มบังคับใช้ในปี 2560 และแผนพัฒนาระดับชาติเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งจะมีกฎหมายเกี่ยวกับการตั้งกระทรวงเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อสังคม รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องอีก 8 ฉบับเพื่อเข้าสู่สนช.พิจารณา ทั้งหมดนี้เป็นการดำเนินการเพื่อปฏิรูปประเทศในระยะเปลี่ยนผ่านก่อนที่ประเทศจะเข้าสู่การเลือกตั้งและมีรัฐบาลใหม่ในปี 2560 ซึ่งถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ
          ต่อมาในช่วงบ่ายคณะสนช.ได้เดินทางไปรับฟังปัญหาและความคิดเห็นของประชาชน ที่ห้องประชุมสามอ่าว แกรนด์บอลรูม โรงแรมประจวบแกรนด์

          ที่มา: www.bangkokbiznews.com