สพฉ. เปิดข้อมูลศูนย์ประสานคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต 3 วัน พบประชาชนขอใช้สิทธิ์เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ แล้วกว่า 200 ราย โทรเข้ามาขอคำปรึกษา 3 ร้อยกว่าราย
Source - สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ (Th)

Wednesday, April 05, 2017  16:00
52428 XTHAI XETHIC XGOV SOC V%WIREL P%PRD

          ร.อ.นพ.อัจฉริยะ แพงมา เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวถึงโครงการตามแนวนโยบาย เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต มีสิทธิทุกที่ หรือ UCEP การดำเนินมาแล้ว 4 วัน ได้มีการเก็บรวบรวมสถิติข้อมูลการดำเนินการของศูนย์ ตั้งแต่วันที่ 1-3 เม.ย.ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยที่เข้ามาในระบบแล้ว 235 ราย แต่เข้าเกณฑ์ UCEP จำนวน 113 ราย  โดยเป็นผู้ป่วยจากสิทธิกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 70 ราย ผู้ป่วยจากกองทุนประกันสังคม 16 ราย ผู้ป่วยจากกองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ 20 ราย และสิทธิ์จากกองทุนอื่นๆ อีก 7 ราย สำหรับการให้คำปรึกษา ช่วง 3 วัน มีประชาชนโทรขอคำปรึกษากว่า 300 สาย  ส่วนใหญ่ถามถึงขั้นตอนการใช้สิทธิ และอาการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตที่สามารถใช้สิทธิ UCEP ได้ ซึ่งขอย้ำว่า ผู้ที่จะใช้สิทธิ UCEP ได้ต้อง เป็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต คือถ้าไม่ได้รับการรักษาทันทีจะถึงแก่ชีวิตเท่านั้น ที่จะเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลทุกสังกัด ที่ใกล้ที่สุดได้ ซึ่งรวมถึงโรงพยาบาลเอกชนโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย 72 ชม.แรก และรับประกันมีเตียงรับย้ายคืนหลังวิกฤต 72 ชั่วโมง ประชาชนจะได้หมดห่วงกรณีจะถูกเรียกเก็บเงินเพิ่มจากโรงพยาบาลเอกชน แต่สิทธิ์นี้จะครอบคลุมผู้อยู่ใน 3 กองทุนสุขภาพก่อน คือ กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กองทุนประกันสังคม กองทุนสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ
          ส่วนกลุ่มอาการที่เข้าข่ายใช้สิทธิ์ได้นั้น ประชาชนจำได้ง่ายๆ มี กลุ่ม 6 อาการ คือ 1.หมดสติ ไม่หายใจ 2.หายใจเร็ว หอบเหนื่อยรุนแรง หายใจติดขัดมีเสียงดัง 3.ซึมลง เหงื่อแตก ตัวเย็น หรือมีอาการชักร่วม 4.เจ็บหน้าอกรุนแรง เฉียบพลัน 5.แขนขาอ่อนแรงครึ่งซีก พูดไม่ชัดแบบปัจจุบันทันด่วน หรือชักต่อเนื่องไม่หยุด 6.อาการอื่นที่มีผลต่อการหายใจ ระบบไหลเวียนโลหิตและระบบสมองที่เป็นอันตรายต่อชีวิต ขอให้ประชาชนจำ 6 อาการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤตไว้ให้แม่น และหากพบเห็นผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต  ตาม 6 อาการเจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤต ให้รีบโทรสายด่วน 1669 เพื่อเข้าให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลที่เหมาะสมทันที

          ที่มา: www.thainews.prd.go.th