คอลัมน์: เล่นกับไฟ: ผู้บริโภคต้องคุ้มครองตัวเองก่อน
Source - เดลินิวส์ (Th)

Wednesday, May 17, 2017  03:04
34446 XTHAI DAS V%PAPERL P%DND

          แมงเม่าmangmoa49@gmail.com
          ธุรกิจหากินกับความอยากรวยทางลัดความหูเบาเชื่อง่ายมีอยู่ทุกยุคสมัย ยิ่งภาวะเศรษฐกิจเหนื่อยหอบเช่นปัจจุบันแก๊งต้มตุ๋นหลอกลวงลักษณะแชร์ลูกโซ่ระบาดไปทั่ว
          เวลาเห็นเหยื่อถูกต้มมาร้องทุกข์ก็ได้แต่สงสาร มีบางส่วนโวยวายเดือดร้อนเรียกร้องภาครัฐช่วยถ้าโดนหลอกจากธุรกิจขายตรงบังหน้าก็ขอสนง.คุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.)ยื่นมือมาดูแล ก็อยากพูดกันตรงไปตรงมาแรกสุดพวกท่านต้องคุ้มครองตัวเอง
          ว่าไปแล้ว ลูกไม้หลอกลวงต้มตุ๋นมิได้วิจิตรพิสดารซับซ้อนเลยก็ยังหากินกับกลเม็ดเดิมๆ
          การต้มระบบอนาล็อกมีมานานอ้างลงทุนโน่นนี่ซึ่งไม่ได้มีจริง วางเป็นเครือข่ายหาสมาชิกล่อเหยื่อด้วยผลตอบแทนสูงจนยอมปิดหูปิดตาตัวเอง แล้วก็แบบดิจิตอลผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
          แบบแรกเลียนแบบแชร์ชม้อยอ้างลงทุนค้าน้ำมัน เพียงปรับเปลี่ยนสินค้าเอาขายตรงเป็นม่านบังตา มักเป็นกลุ่มเครื่องสำอาง,อาหารเสริมซึ่งมีโรงงานรับจ้างผลิตเต็มไปหมดอยากได้แบบไหนพะยี่ห้ออะไรบอกมา ธุรกิจจริงคือการหาสมาชิกและรายได้จากการเพิ่มเครือข่ายสมาชิก
          พักหลังพวกเราเห็นข่าวจับแชร์ลูกโซ่รูปแบบต่างๆแทบทุกวัน ทั้งอ้างธุรกิจเป็นรูปธรรมอย่างลงทุนบริษัททัวร์ ลงทุนในสหกรณ์ หรืองงๆอย่างลงทุนคอร์สสัมมนาซื้อหุ้น
          จะแบ่งปันข้อมูลความคิดเห็นวันนี้ก็หลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต ฟังดูแปลกประหลาดมีผู้หลงเชื่อโดยไม่รู้จักผู้เชิญชวนไม่เห็นหน้าค่าตากันมาก่อน แพ้ภัยความโลภ
          บริบทลงทุนหลากหลายมาก พื้นๆซื้อขายสินค้ายอดนิยมตามยุคสมัยซึ่งเหยื่อมักเป็นกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน อ้างสามารถจัดหาของมาให้ได้ในราคาถูกเพื่อผู้ซื้อนำไปขายต่อฟันกำไรงาม แรกๆเงินมาของไป ฝ่ายปลายทางย่ามใจสั่งซื้อมากขึ้นพร้อมลากญาติสนิทมิตรสหายร่วมตามคำเชิญชวนต้นทางแลกผลประโยชน์ตอบแทน สุดท้ายปิดตัวเผ่นป่าราบ
          ไฮโซหน่อยก็หลอกระดับบนอ้างลงทุนอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ เมื่อเหยื่อหลงกลก็อ่อยให้เป็นตัวแทนลงทุนได้ประโยชน์เพิ่มต่างหาก ตอนจบคือปิดเพจหนี
          แชร์ลูกโซ่ทางเน็ตที่สินค้าเป็น "บุญ" ก็มี ชวนร่วมสร้างพระพุทธรูปใหญ่สุดด้วยการจัดเครือข่ายหาเงินบริจาค ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ คำโฆษณาคือบริจาคหมื่นได้คืนสองหมื่นนับเป็นวิธีทำบุญที่พิสดารมากแต่ก็มีคนเชื่อและถูกต้มเปื่อย
          ผู้บริโภคควรคุ้มครองตัวเองในชั้นแรก เมื่อไหร่ผลตอบ แทนสูงเกินความน่าจะเป็น เช่น ปันผล 10% ทุกเดือนเท่ากับดอกเบี้ย 120% ต่อปี ขณะที่ดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร 2% อันนี้งานเข้าชัวร์
          หัวเด็ดตีนขาดคืออย่าเชื่อคนง่าย รวมถึงเพื่อนหรือญาติที่เขาตกเป็นห่วงโซ่เหยื่อเช่นกัน
          พวกเราส่วนหนึ่งอยู่ห่างข้อมูลเรียนรู้กลโกงพอเห็นข้อเสนอดีๆมักตาโตจนมองข้ามความเป็นเหตุเป็นผล ยิ่งอ้าง คนมีชื่อเสียงหรือมีอิทธิพล ข้อแนะนำเสนอท่านอ่านเดลินิวส์และสื่อต่างๆสะสมความรู้เพื่อเอาชนะความโลภ และฝากไว้ว่าแวดวงเงินๆทองๆอย่ามองโลกสวย.--จบ--

          ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์