เตือนลวงขุดทองผ่านโซเชียลระบาดหนัก
Source - เดลินิวส์ (Th)

Friday, May 05, 2017  03:12
63376 XTHAI DAS V%PAPERL P%DND

          เมื่อวันที่ 4 พ.ค.นายวรานนท์ ปีติวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กกจ.ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากคนหางานจำนวนหลายรายว่า มีการชักชวนทางเฟซ บุ๊กหรือไลน์จากบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่อ้างว่าเป็นบริษัทจัดหางานจัดส่งคนหางานไปทำงานในต่างประเทศให้ไปทำงานตำแหน่งพนักงานเกษตรเก็บผลผลิต พนักงานนวด แม่บ้านที่ประเทศแคนาดา นิวซีแลนด์ ไอซ์แลนด์ และสเปน มีรายได้ 60,000-150,000 บาทต่อเดือน และยังมีสวัสดิการที่พักฟรี อาหารฟรี ทำงานวันละ 8 ชั่วโมง มีค่าล่วงเวลา มีวันหยุดตามกฎหมายกำหนด โดยต้องเสียเงินค่าบริการและค่าใช้จ่ายจำนวน 30,000 - 100,000 บาทต่อคน แต่ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ไม่ได้รับการจัดส่งไปทำงานตามที่ตกลงแต่อย่างใด ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์ทางทะเบียนคอมพิวเตอร์ออนไลน์ของกกจ.พบว่า บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่แอบอ้างดังกล่าวไม่ได้รับอนุญาตจัดหางานให้คนหางาน เพื่อไปทำงานในต่างประเทศ และไม่ได้จดทะเบียนเป็นลูกจ้างหรือตัวแทนจัดหางานของผู้รับอนุญาตจัดหางานให้คนหางาน เพื่อไปทำงานในต่างประเทศแต่อย่างใด
          นายวรานนท์ กล่าวว่าปัจจุบันพฤติการณ์ในการหลอกลวงคนหางานไปทำงานต่างประเทศเปลี่ยนรูปแบบจากการเข้าพื้นที่ในหมู่บ้านเป็นหลอกลวงผ่านทางสื่อโซเชียล ทาง กกจ.จึงได้ตรวจสอบเฟซบุ๊กที่มีพฤติการณ์ โพสต์ข้อความชักชวนคนหางานไปทำงานในต่างประเทศที่อาจเข้าข่ายกระทำความผิดตามพ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 โดยจัดตั้งชุดเฝ้าระวัง และใช้สายตรวจออนไลน์คอยตรวจสอบ เฝ้าระวังพฤติการณ์ของขบวนการค้ามนุษย์และกลุ่มมิจฉาชีพอย่างเข้มงวด  ซึ่งผู้ที่หลอกผู้อื่นโดยการหลอกลวง ได้ซึ่งเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากผู้ถูกหลอกลวงจะมีความผิดตามพ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2528 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพ.ร.บ.จัดหางานและคุ้มครองคนหางาน (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2537 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 3-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 60,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          "ตั้งแต่ต้นเดือนม.ค.-มี.ค.ที่ผ่านมา มีผู้ร้องทุกข์จำนวน 392 ราย โดยประเทศที่ร้องทุกข์มากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ สาธารณรัฐเกาหลี ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย ขอเตือนคนหางานคิดให้รอบคอบก่อนตัดสินใจ หรือโทร.สายด่วนกรมการจัดหางาน 1694" นายวรานนท์ กล่าว.--จบ--

          ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์