ยธ.ตั้งศูนย์คดีสำคัญ แก้ปัญหา-สอบสวน
Source - เว็บไซต์ไทยรัฐ (Th)

Wednesday, June 07, 2017  08:20
60007 XTHAI XLOCAL XGEN LOC V%NETNEWS P%WTR

          “สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ” รมว.ยุติธรรม เผยที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ (กพยช.) เตรียมตั้งศูนย์อำนวยการติดตามและแก้ไขปัญหาการสอบสวนคดีสำคัญ มีปลัดยุติธรรมเป็นประธานศูนย์ฯ ทำงานร่วมกับหลายหน่วยงาน ไม่ทับซ้อนงานสอบสวนของตำรวจ ด้านรองโฆษกดีเอสไอ เผยคดีอดีตประธานเครือแลนด์แอนด์เฮ้าส์และคดีรถหรู อยู่ระหว่างดำเนินการ ส่วนเรื่องฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายถือเป็นสิทธิ์ที่พึงมีตามกฎหมาย
          ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 6 มิ.ย. นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์กรณีการประชุมคณะกรรมการพัฒนาการบริหารงานยุติธรรมแห่งชาติ (กพยช.) ที่มีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ เป็นประธาน เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. ว่า ที่ประชุมหารือถึงเรื่องการตั้งศูนย์อำนวยการติดตามและแก้ไขปัญหาการสอบสวนคดีสำคัญ มีปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานศูนย์ฯ ทำงานร่วมกับตัวแทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการสอบสวนมาร่วมเป็นคณะกรรมการ อาทิ ตำรวจ นิติวิทยาศาสตร์ อัยการ กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานศาลยุติธรรม ขณะนี้นายวิษณุรับเรื่องไปพิจารณาดูตัวคำสั่งให้เหมาะสม ก่อนเสนอ ครม. ทั้งนี้ศูนย์ดังกล่าวจะไม่ก้าวล่วง แทรกแซงงานของตำรวจ แต่จะทำหน้าที่ประสานงานติดตามความคืบหน้า แก้ปัญหาด้านการสอบสวน รวมทั้งการรับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ตามที่นายกรัฐมนตรีสั่งการ
          “ส่วนกรณีนายอนันต์ อัศวโภคิน อดีตประธานเครือแลนด์แอนด์เฮ้าส์ ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาในคดีร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงินนั้น กรมสอบสวนคดีพิเศษยังคงเดินหน้าสอบสวนคดีนี้ตามพยานหลักฐาน รวมถึงการรอรับฟังคำชี้แจงประเด็นต่างๆจากนายอนันต์ด้วย ทั้งหมดเป็นไปตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรม” นายสุวพันธุ์กล่าว
          ขณะที่ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ฐานะรองโฆษกดีเอสไอ กล่าวว่า นายอนันต์สามารถนำหลักฐานมาให้พนักงานสอบสวนภายใน 60 วัน ถือเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหาพิสูจน์ความผิด นำเอกสารมาหักล้างข้อกล่าวหา หากไม่มาตามกำหนดเวลาพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนคดีตามหลักฐานที่มีเพื่อส่งต่อให้อัยการพิจารณา ขั้นตอนนี้อยู่ระหว่างรอนายอนันต์จะนำเอกสารหลักฐานมาชี้แจงภายใน 60 วันหรือไม่
          “สำหรับกรณีที่นายภาณุศักดิ์ เตชธีรสิริ หรือบอย ยูนิตี้ เจ้าของบริษัท ยูนิตี้ ออโต้ เซอร์วิส จำกัด แถลงข่าวยื่นฟ้องร้องดีเอสไอต่อศาล เพื่อเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงิน 50 ล้านบาท หลังจากดีเอสไออายัดรถหรูในโชว์รูมรวม 7 คันนั้น ขอยืนยันว่าการฟ้องร้องเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ตามขั้นตอนกฎหมาย หน่วยงานภาครัฐมีหน้าที่ในการอธิบายข้อเท็จจริง สำหรับประเด็นการอายัดรถของกลาง หากพิจารณาตามกฎหมายจะพบว่าดีเอสไอมีอำนาจอายัดของกลางไว้ตรวจสอบ ถ้าพบของกลางไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดก็จะรีบคืนให้ แต่ถ้าพบความผิดต้องถูกยึดไว้เพื่อขยายผล ส่วนจะฟ้องร้องกลับหรือไม่ ต้องขอตรวจสอบประเด็นคำร้องที่นายภาณุศักดิ์ฟ้องว่าทำให้ดีเอสไอเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือไม่ หากเข้าข่ายก็อาจจะต้องดำเนินการ แต่หากประเด็นที่ฟ้องเป็นการร้องเรียนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ดีเอสไอต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการการร้องเรียนตามกฎหมาย” พ.ต.ต.วรณันกล่าว

          ที่มา: www.thairath.co.th