กทม.ทุ่มงบกว่า200ล้านบาท เปิดระบบกันน้ำท่วมดีเดย์ส.ค.
Source - เดลินิวส์ (Th)

Friday, June 16, 2017  05:10
39830 XTHAI XOTHER XFRONT MIDD DAS V%PAPERL P%DND

          อัพเกรดระบบควบคุมบริหารจัดการน้ำให้ทันสมัย กทม.เร่งพัฒนาศูนย์ป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพฯประมวลผลแม่นยำหวังช่วยจัด การแก้ไขปัญหาได้ดีขึ้น ทุ่มงบกว่า 200 ล้านเปิดใช้ระบบ ใหม่ ส.ค. นี้ พร้อมแจ้งข้อมูลน้ำท่วมผ่านสื่อโซ เชียลทุกช่องทางทั้งเว็บไซต์ เฟซบุ๊ก ไลน์ ทวิต เตอร์ เมื่อมีฝนตกจะอัพเดทข้อมูลทุก 5-15 นาที เตรียมสร้างนิทรรศการถาวรภายในศูนย์ป้องกันน้ำท่วมเทิดพระเกียรติพระอัจฉริยภาพด้านการบริหารจัดการน้ำของ "ในหลวง ร. 9"
          เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.)เปิดเผยถึงการพัฒนาระบบระบายน้ำในพื้นที่กรุงเทพฯว่า จากที่ กทม.ดำเนินการพัฒนาระบบระบายน้ำทางกายภาพทั้งการก่อสร้างเขื่อน ปรับขนาดท่อระบายน้ำ สร้างอุโมงค์ระบายน้ำ และปรับพื้นที่จุดอ่อนที่เกิดน้ำท่วมขังเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามส่วนหนึ่งของการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพคือการบริหารจัดการข้อมูลสภาพอากาศและปริมาณฝนทั้งการคาดการณ์ก่อนฝนตกและการสั่งการควบคุมการ ปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ควบคุมการปิดเปิดประตูระบายน้ำระดับน้ำในคลองต่าง ๆ ตลอดจนรับข้อมูลน้ำท่วมขังจากพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อให้การสั่งการแก้ไขเป็นไปอย่างทันสถานการณ์ก็เป็นส่วนสำคัญซึ่ง กทม.มีศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพมหานครเปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2533 เป็นศูนย์ในการบริหารจัดการข้อมูลน้ำ ปริมาณน้ำฝน ตรวจสอบเรดาร์ติดตามสภาพภูมิอากาศ
          อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพระบบซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ให้ทันสมัยมีข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน ทั้งเรื่องปริมาณน้ำฝน การรวบรวมข้อมูลจากเรดาร์ของ กทม.ที่มีการติดตั้งทั่วกรุงเทพฯ 3 จุด คือหนองแขม หนองจอก และหนองบอนให้อยู่ในระบบเดียวกัน รวมถึงระดับน้ำและปริมาณน้ำฝน หลังจากปรับปรุงศูนย์เสร็จแล้วข้อมูลทุกอย่างจะถูกจัดเข้าไปอยู่ในระบบเดียวกันเพิ่มความสะดวกให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทำให้สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ฝนตก ระดับน้ำในคลอง ปริมาณไหลเวียนของน้ำในคลองต่าง ๆ ได้และจะส่งผลให้การบริหารจัดการน้ำของกทม.ดียิ่งขึ้น
          นายจักกพันธุ์ กล่าวต่อว่า ภายหลังจากที่ดำเนินการปรับปรุงศูนย์ฯแล้วเสร็จจะสามารถเชื่อมโยงข้อมูลจากประตูระบายน้ำและสถานีสูบน้ำโดยใช้ระบบไฟเบอร์ออพติคส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งอาจจะเป็นระบบ 3 จีหรือ 4 จี ดังนั้นจึงมั่นใจได้ว่าข้อมูลต่าง ๆ ทั้งก่อนและ หลังน้ำท่วม หรือระหว่างฝนตกและก่อนฝนตก จะสามารถนำมารวบรวมเพื่อวิเคราะห์และวางแผนในการดำเนินงานได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ซึ่งศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจะสามารถบริหารจัดการข้อมูลน้ำฝน น้ำเหนือ และน้ำขึ้นน้ำลงได้อย่างชัดเจน อีกทั้งจะมีจอแสดงผลของเมฆฝนที่กำลังเคลื่อนตัวเข้ามาในพื้นที่กรุงเทพฯทำให้สามารถคาดการณ์ว่าอีกกี่ชั่วโมงฝนจะตกในจุดใดบ้าง โดยเมื่อมีข้อมูลที่แม่นยำเป็นปัจจุบันนั้น กทม.ก็จะเตรียมความพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ อีกทั้งข้อมูลต่าง ๆ กทม.ยังสามารถแจ้งต่อประชาชนเพื่อให้เตรียมความพร้อมในการวางแผนการเดินทาง รับมือสถานการณ์ฝนตกได้อีกด้วย โครงการพัฒนาปรับปรุงศูนย์ฯดังกล่าว กทม.ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล 200 ล้านบาท โดยจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือน ส.ค.นี้
          นายจักกพันธุ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันกทม.ได้เปิดช่องทางให้ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลการพยากรณ์สภาพอากาศ สถานการณ์ฝน รวมถึงพื้นที่ที่มีน้ำขังเร่งระบายของกรุงเทพฯ เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนเพื่อการเดินทางและใช้ชีวิตประจำวันได้หลายช่องทาง ได้แก่ ทางเว็บไซต์สำนักการระบายน้ำ กรุงเทพมหานคร
http://dds.bangkok.go.thและเว็บไซต์ศูนย์ป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร http://weather.bangkok.go.thซึ่งข้อมูลจะปรับปรุงเป็นปัจจุบันทุก 5-15 นาที หรือผ่านสื่อออนไลน์ ได้แก่ เฟซบุ๊กของศูนย์ป้องกันน้ำท่วม www.facebook.com/bkk.bestทวิตเตอร์ของศูนย์ป้องกันน้ำท่วม : @bkk_best แอพพลิเคชั่น Line@ (ไลน์แอท) @bkk_best หรือโทรศัพท์สอบถามศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร ศาลาว่าการกทม. 2 (ดินแดง) โทร. 0-2248-5115 รวม 5 คู่สาย ซึ่งนอกจากจะสอบถามสถานการณ์น้ำแล้วยังรับเรื่องราวร้องทุกข์เกี่ยวกับปัญหาการระบายน้ำและความช่วยเหลือได้ตลอด 24 ชั่วโมง
          นอกจากนี้ภายในศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ กทม.จะพัฒนาพื้นที่ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นพื้นที่จัดแสดงพระ อัจฉริยภาพด้านบริหารจัดการน้ำของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเป็นนิทรรศการถาวร โดยอัญเชิญพระราชดำรัส รวบรวมแนวทางพระราชดำริและพระราชกรณียกิจ ตลอดจนโครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดำริด้านการบริหารจัดการน้ำมาจัดแสดงไว้เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นที่มีต่อประชาชนชาวไทย โดยรูปแบบนิทรรศการจะมีความทันสมัยใช้ภาพระบบโฮโลแกรมเพื่อให้ผู้ที่เข้าชมได้เห็นถึงรูปแบบการบริหารจัดการน้ำต่าง ๆ ได้อย่างเสมือนจริงมากที่สุด ซึ่งศูนย์ป้องกันน้ำท่วมของ กทม.ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯทรงเปิดศูนย์ฯเมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2533 ซึ่งขณะนั้น พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นผู้กราบบังคมทูลรายงาน ในวันนั้นและพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ได้สนพระราชหฤทัยซักถามถึงปัญหาน้ำท่วม น้ำเน่าเสีย รวมทั้งปัญหาแผ่นดินไหว โดยใช้เวลาถึง 3 ชั่วโมงจึงเสด็จฯกลับ
          อีกด้านหนึ่งเมื่อวันที่ 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ เข้าช่วยเหลือราษฎรผู้เดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วมร่วมกับหน่วยงานราชการในเขตพื้นที่ทำการขุดลอกและกำจัดผักตบชวาและวัชพืชซึ่งขึ้นอยู่หนาแน่นบริเวณคูคลองทำให้กีดขวางทางระบายน้ำในบริเวณพื้นที่คลองกระเฉด หมู่บ้านบัวหลวง ซอยรามอินทรา 19 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. และพื้นที่คลองลานโตนด ซอยจัดสรรรถไฟซอย 3 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร หลังจากดำเนินการเสร็จแล้ว ทำให้น้ำสามารถไหลผ่านได้อย่างคล่องตัวและสามารถระบายน้ำออกจากพื้นที่ชุมชนได้อย่างรวดเร็ว ไม่เกิดปัญหาน้ำท่วมขัง ส่งผลให้สภาพแวดล้อมโดยรวมสะอาดไม่เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงที่จะทำให้เกิดปัญหาต่อสุขภาพอนามัยของราษฎรในชุมชนอีกด้วย.
--จบ--

          --เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 17 มิ.ย. 2560 (กรอบบ่าย)--