รายงานพิเศษ: 'ผู้ว่าฯอัศวิน'ออนไลน์เชิงรุกแกปัญหาคนกรุง
Source - ข่าวสด (Th)

Saturday, July 15, 2017  03:27
1861 XTHAI XGEN DAS V%PAPERL P%KSD

          คัดคนานต์ ดลประสิทธิ์

          หลังการเปิดตัวเฟซบุ๊ก พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม. ที่ให้ทีมงานจัดทำขึ้น ภายใต้ชื่อ FB : "ผู้ว่าฯอัศวิน" (www.facebook.com/aswinkwanmuang) เมื่อ วันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อที่จะได้ใช้เป็น ช่องทางในการแจ้งข่าวสารและรับข้อมูลเรื่องต่างๆ จากพี่น้องประชาชน จากนั้นอีกไม่กี่เดือนก็เปิดตัวเว็บบล็อก "ตะลุยกทม. กับผู้ว่าฯกทม." (www.aswinbkk.com) ต่อด้วยช่องทางไลน์ (Line@) "อัศวินคลายทุกข์" โดยพิมพ์ @aswinbkk  หรือเข้าไปที่ลิงก์line://ti/p/@kvs7879j
          นางจินดารัตน์ ชโยธิน โฆษกกทม. ซึ่งเป็นหัวหน้าทีมงานโซเชี่ยล กล่าวถึงที่มาของ "อัศวิน ออนไลน์" ว่า ผู้ว่าฯ อยากให้ประชาชนทุกเพศทุกวัยสามารถติดต่อสื่อสาร กับ กทม.และตัวท่านได้รวดเร็วและโดยตรง จะได้ทราบถึงปัญหาและความต้องการของผู้คน เพราะท่านอยากให้ยุคนี้ทุกอย่างต้องรวดเร็ว เข้าถึง และเข้าใจ ตามนโยบาย NOW ที่ท่านอยากทำให้เกิดขึ้นอย่างเป็น รูปธรรม และจับต้องได้
          ผู้ว่าฯกทม.จึงมอบหมายให้ทีมงานไปหาช่องทางการติดต่อสื่อสารกับประชาชน ที่ง่าย และรวดเร็ว โดยเน้นเรื่องของการมีปฏิสัมพันธ์ สามารถตอบกลับ แจ้งผลได้ทันที และเป็นช่องทางที่ท่านบอกกล่าวเรื่องราวต่างๆ ไปสู่สาธารณะได้อย่างรวดเร็ว
          เว็บบล็อกจะเชื่อมโยงไปยังสื่อโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ เช่น เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ที่ประชาชนนิยมใช้ในปัจจุบัน โดยเว็บบล็อกตะลุย กทม.กับผู้ว่าฯ อัศวิน แบ่งการนำเสนอเป็น 2 ส่วน ได้แก่ "ผู้ว่าฯ พาชม"เป็นการนำเสนองานตามนโยบาย NOW รวมถึงภารกิจ โครงการต่างๆ ของดี 50 เขต และกิจกรรมดีๆ ของหน่วยงานในสังกัดกรุงเทพมหานครที่จัดทำขึ้นเพื่อพี่น้องประชาชน
          ส่วน "ผู้ว่าฯ พาชิลล์" อาจเป็นภาษาวัยรุ่น นิดๆ เพื่อให้เข้ากับยุคสมัย โดยบอกเล่าสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่สำคัญของกรุงเทพฯ ย่านการค้า และอาหาร ทั้งที่มีชื่อเสียงอยู่แล้ว และที่ยังไม่เป็นที่รู้จักมากนัก
          นอกจากนี้ยังมีอีกช่องทางหนึ่งคือไลน์แอท (Line@) "อัศวิน คลายทุกข์" เพื่อให้ประชาชนสามารถส่งภาพและแจ้งเรื่องร้องทุกข์ได้สะดวกขึ้น โดยได้เตรียมทีมงานรับเรื่องและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาของประชาชนให้รวดเร็วที่สุด เพื่อร่วมกันเป็นหูเป็นตาและร่วมกันพัฒนากรุงเทพมหานครให้ดียิ่งๆ ขึ้นต่อไป
          ขณะที่นายณัฐนันท์ กัลป์ยาศิริ ผู้ช่วยเลขานุการผู้ว่าฯกทม.และรองโฆษกกทม. แกนหลักด้านโซเชี่ยลของพล.ต.อ.อัศวิน อีกคน มีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรงในช่องทางไลน์ กล่าวว่า นับจากที่ได้เปิดตัวช่องทางไลน์ไปเมื่อประมาณวันที่ 24 มิ.ย. - 10 ก.ค.ที่ผ่านมา มียอดคนเข้ามาทางไลน์ ทั้งสิ้น 3,819 คน โดยส่วนใหญ่เป็นการร้องเรียนแจ้งทุกข์ประมาณ 760 เรื่อง ซึ่ง กทม. สามารถ แก้ไขไปได้ประมาณ 351 เรื่อง
          จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ที่แจ้ง เข้ามาจะเป็นประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เขตกรุงเทพฯชั้นใน อาทิ สาทร ยานนาวา วัฒนา คลองเตย ฯลฯ พื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอกน้อยมาก และปัญหาส่วนใหญ่ที่ร้องเรียนมามักเป็นเรื่องทางกายภาพ อาทิ ไฟฟ้าดับ ถนนชำรุด ฝาท่อแตก ขยะเน่าเหม็น ฟุตปาธพัง ฯลฯ ซึ่งหากเป็นปัญหาเฉพาะหน้าจะมีทีมงานเข้าไปแก้ปัญหาแล้วเสร็จภายใน 24 ช.ม. แต่ถ้าเป็นปัญหาขนาดใหญ่ มีพื้นที่ เสียหายมาก ต้องใช้งบประมาณสูง หรือเป็น ปัญหาที่อยู่ในพื้นที่ที่ไม่ได้เป็นพื้นที่ กทม.จึงต้องใช้เวลาประสานกับหน่วยงานหรือเอกชนที่เป็นเจ้าของ
          อย่างไรก็ตามขณะนี้ยอดประชาชน ร้องเรียนผ่านช่องทางไลน์ ถือว่าสูงมาก เพราะช่องทางการสื่อสารอย่างง่ายและสะดวก รวมทั้งสามารถส่งรูปหรือคลิปสถานที่ที่ร้องทุกข์มาได้ จึงทำให้เจ้าหน้าที่กทม.รับทราบข้อมูลอย่างเข้าใจง่ายกว่า ช่องทางอื่น
          ด้านพล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า การจัดตั้ง ทีมงานโซเชี่ยลไม่ได้หวังสร้างความนิยม ให้กับตัวเองแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการเพิ่มช่องทางเข้าถึงตัวให้มากขึ้น ง่ายขึ้น กว่าเดิม และเป็นการตามสมัยปัจจุบันที่คนทั่วไปมักสื่อสารด้วยโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก
          ขณะเดียวกันประชาชนทั่วไปไม่สามารถ ยกหูโทรศัพท์ร้องทุกข์สายตรงได้ง่าย จึงต้อง มีช่องทางสื่อสารที่หลากหลาย เพื่อรับรู้ปัญหา ของคนกรุงเทพฯ และแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วขึ้นแก้ไขไปได้ประมาณ 351 เรื่อง
          จากการตรวจสอบพบว่าพื้นที่ที่แจ้ง เข้ามาจะเป็นประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เขตกรุงเทพฯชั้นใน อาทิ สาทร ยานนาวา วัฒนา คลองเตย ฯลฯ พื้นที่กรุงเทพฯ รอบนอกน้อยมาก และปัญหาส่วนใหญ่ที่ร้องเรียนมามักเป็นเรื่องทางกายภาพ อาทิ ไฟฟ้าดับ ถนนชำรุด ฝาท่อแตก ขยะเน่าเหม็น ฟุตปาธพัง ฯลฯ ซึ่งหากเป็นปัญหาเฉพาะหน้าจะมีทีมงานเข้าไปแก้ปัญหาแล้วเสร็จภายใน 24 ช.ม. แต่ถ้าเป็นปัญหาขนาดใหญ่ มีพื้นที่ เสียหายมาก ต้องใช้งบประมาณสูง หรือเป็น ปัญหาที่อยู่ในพื้นที่ที่ไม่ได้เป็นพื้นที่ กทม.จึงต้องใช้เวลาประสานกับหน่วยงานหรือเอกชนที่เป็นเจ้าของ
          อย่างไรก็ตามขณะนี้ยอดประชาชน ร้องเรียนผ่านช่องทางไลน์ ถือว่าสูงมาก เพราะช่องทางการสื่อสารอย่างง่ายและสะดวก รวมทั้งสามารถส่งรูปหรือคลิปสถานที่ที่ร้องทุกข์มาได้ จึงทำให้เจ้าหน้าที่กทม.รับทราบข้อมูลอย่างเข้าใจง่ายกว่า ช่องทางอื่น
          ด้านพล.ต.อ.อัศวินกล่าวว่า การจัดตั้ง ทีมงานโซเชี่ยลไม่ได้หวังสร้างความนิยม ให้กับตัวเองแต่อย่างใด เพียงแต่ต้องการเพิ่มช่องทางเข้าถึงตัวให้มากขึ้น ง่ายขึ้น กว่าเดิม และเป็นการตามสมัยปัจจุบันที่คนทั่วไปมักสื่อสารด้วยโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ก
          ขณะเดียวกันประชาชนทั่วไปไม่สามารถ ยกหูโทรศัพท์ร้องทุกข์สายตรงได้ง่าย จึงต้อง มีช่องทางสื่อสารที่หลากหลาย เพื่อรับรู้ปัญหา ของคนกรุงเทพฯ และแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วขึ้น

          บรรยายใต้ภาพ
          จินดารัตน์ ชโยธิน--จบ--

          ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด