จ่อคลอดกก.ยุทธศาสตร์ศาลวินิจฉัยกม.ผู้ตรวจฯ
Source - ไทยโพสต์ (Th)

Thursday, August 24, 2017  03:07
15946 XTHAI XGEN XOTHER XFRONT DAS V%PAPERL P%TPD

          ไทยโพสต์ * "บิ๊กตู่" ไม่ได้โม้ ลั่นคนแห่ร่วม กก.ยุทธศาสตร์เพียบ แต่ขอช่วยข้างหลัง ไม่อยากแจงทรัพย์สิน "วิษณุ" เร่งคัดชื่อที่มีผลงานโดนใจนายกฯ กกต.สาธิตลงคะแนนเลือกตั้งแบบใหม่ ได้ทีขย่ม กรธ. ชี้ยุ่งยากปลอมบัตรง่าย บี้ทบทวนก่อนพาคนไปตาย ศาล รธน.รับคำร้อง 36 สนช.ตีความ กม. ผู้ตรวจฯ
          ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 23 สิง หาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติว่า ขั้นตอนกำลังแต่งตั้ง ต้องนำรายชื่อมาพิจาร ณา เพราะมีคนมาสมัครเยอะ แต่พอจะให้มาขึ้นชื่อเขาก็ไม่อยากมีชื่อ  อยากอยู่ข้างหลัง อยากช่วยทุกอย่าง วันนี้ที่ตนทำงานได้มีคนมาช่วยเยอะมาก เป็นร้อยๆ คน แต่ไม่อยากออกหน้า บางคนจะออกมาเป็นกรรมการ ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน เขาบอกว่าวุ่นวาย เพราะประกอบการถูกต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว แต่ไม่อยากเอาออกมาเผยแพร่ให้คนด่าว่า บางทีจริงหรือไม่จริงก็ไม่รู้ ซึ่งก็เสียหาย
          "อย่าไปตีความว่าเพราะผมเป็นรัฐ บาลอย่างนี้เลยไม่มีคนอยากจะช่วย หรือคนมาช่วยน้อย แสดงว่า คสช.เริ่มถอยหลัง ไม่มีถอยหลัง มีแต่เดินหน้า มีคนเยอะแยะไป มีรายชื่อเป็นร้อย แต่เวลาจะคัดมันจะเหลือน้อย เพราะว่าเขาอยากอยู่เบื้องหลัง มีดอกเตอร์หลายคน นี่ไม่ได้โม้นะ เดี๋ยวหาว่าโม้อีก" พล.อ.ประยุทธ์ระบุ
          อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมารู้ปัญหาหมด แล้ว เป็นร้อยเป็นพันปัญหา และสรุปปัญ หาเป็นประเด็น 11 วาระ 31 กิจกรรม และมีอีก 188 เรื่องที่ต้องทำ ใน 188 เรื่องมีกฎหมายอีกเป็นพันฉบับ พอเสร็จแล้วจะเป็นแผนแม่บทออกมา ทั้งหมดนี้จะต้องตอบโจทย์ว่าประเทศไทยจะต้องเป็นไปตามวิสัยทัศน์มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ใน 20 ปี และจะตีกรอบด้วยแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้ปฏิบัติคือรัฐบาลและประชาชน ต้องเข้าใจให้สอดคล้องกันหน่อย หากไม่มีคณะนี้จะมาที่รัฐบาลอย่างเดียว
          "คณะทำงานเป็นเพียงคณะที่ติดตาม ถ้าไปมองว่าใช้รายจ่ายมาก ค่าจ้างค่าประชุมเยอะ แต่ถ้าเขาทำสำเร็จ ประเทศไทยจะมีรายได้เพิ่มขึ้น จาก 20 ล้านล้าน เป็น 200 ล้านล้าน คิดอย่างนี้สิ อย่าไปคิดต้นทุนว่า ไอ้นี่ทำเพื่อไอ้นี่ ทำรถไฟคนขึ้นน้อย ขาดทุน แบบนี้เรียกว่าคิดแบบเด็กๆ เอาตังค์ไปซื้อ ขนม อย่างการซื้อของ ผมเห็นว่า 1.เอาเงินที่ เรามีส่วนตัวซื้อเขา ให้เขา ให้คนที่มีรายได้น้อยมีความสุข 2.ของที่ผมซื้อคนประกอบ การก็มีแรงผลิต เพราะมีคนซื้อ" นายกฯ กล่าว
          ด้านนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐ มนตรี กล่าวถึงการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติ 17 คนว่า ยังไม่ขอพูดถึงรายชื่อที่เป็นข่าวออกมา และรายชื่อมีจำนวนมากกว่าที่เป็นข่าว มีทั้งคนที่ เป็นและไม่เป็นคณะกรรมการขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ที่สำคัญคือต้องมีความรู้ มีเวลา และเต็มใจทำงาน อย่างไรก็ตาม มีเงื่อนไขอีกจุด คือเรื่องอายุ เพราะ พ.ร.บ.จัดทำยุทธศาสตร์ชาติกำหนดว่าผู้ที่จะมาเป็นกรรมการต้องมีอายุไม่เกิน 75 ปี หลายคนที่มีความพร้อมและสังคมยอมรับ แต่กลับมีอายุเกิน หรือบางคนอายุ 74 ปีแล้ว สามารถทำงานได้แค่ปีเดียว ขณะที่ภาคประชาชน 3-4 วันที่ผ่านมามีการส่งรายชื่อมาหลายสิบคน ซึ่งจะรวบรวมและเสนอ นายกฯ พิจารณาว่าเคยทำอะไร มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันอย่างไรที่โดนใจนายกฯ
          ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านบริหารกลาง จัดสาธิตการลงคะแนนเลือกตั้ง ส.ส.รูปแบบแยกเบอร์รายเขตตามแนวคิดของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) โดยจำลองหน่วยเลือกตั้งกลางนอกเขตเลือกตั้ง และบัตรเลือกตั้ง 350 แบบ ซึ่งจะพิมพ์ทั้งชื่อ นามสกุลผู้สมัครรับเลือกตั้ง หมายเลขผู้สมัคร ชื่อพรรคและโลโก้พรรค พร้อมสาธิตขั้นตอนการลงคะแนนตั้งแต่การลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์โดยใช้คิวอาร์โค้ด การใช้สมาร์ทการ์ด การพิมพ์ซองใส่บัตรเลือกตั้ง ที่ผู้ใช้สิทธิจะต้องนำบัตรลงคะแนนของตนใส่ลงไปในซองก่อนหย่อนในหีบเลือกตั้ง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้มีสิทธิเลือกตั้ง รวมทั้งการจ่ายบัตรเลือกตั้ง 350 แบบ
          โดยในการสาธิตครั้งนี้ไม่ปรากฏว่านายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ., นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภาบัญญัติแห่งชาติ (สนช. ) และนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการเมืองของรัฐบาล เข้าร่วมสังเกตการณ์ตามคำเชิญของนายสมชัย มีเพียงนายพงศ์กิตติ อรุณภักดีสกุล  รองเลขาธิการสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ตัวแทนพรรคการเมืองขนาดเล็ก ตัวแทนมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย มาร่วมสังเกตการณ์เท่านั้น โดยส่วนใหญ่สะท้อนว่าระบบใหม่ที่ กรธ.กำหนดจะสร้างความยุ่งยากให้ประชาชน อาจเกิดปัญหาในเรื่องการรวมคะแนน และอยากให้ กรธ.ทบทวนแนวคิดนี้
          หลังการสาธิต นายสมชัยแถลงว่า บัตรเลือกตั้งที่ใช้แต่ละเขตจะมีความแตกต่างกัน อาจต้องแยกพิมพ์ในโรงพิมพ์ต่างจัง หวัดแทนโรงพิมพ์ส่วนกลางที่เดียว เกิดผลเสียเรื่องมาตรฐานของบัตร ระดับการรักษาความปลอดภัยของบัตร ส่งผลให้อาจเกิดปัญหาบัตรปลอมในวันเลือกตั้งจริงได้ ซึ่ง กกต.เกรงปัญหาบัตรปลอมมากที่สุด การโกงเลือกตั้งจากบัตรปลอมเพียงใบเดียวทำได้ง่ายมาก นอกจากนี้ ภายในบัตรจะต้องเอื้อประโยชน์ต่อการเลือกตั้งของผู้มีสิทธิ ซึ่งจะมีเพียงหมายเลขผู้สมัครเพียงอย่างเดียวไม่ได้ ดังนั้น กกต.ชุดใหม่ต้องระวัง หรือถ้าวันหนึ่งใครอาจหาญพิมพ์แค่เบอร์ผู้สมัครเพียงอย่างเดียว เตรียมถูกฟ้องแพ่งให้รับผิดชอบต่อค่าเสียหายในการจัดการเลือกตั้งที่จะถูกศาลรัฐธรรมนูญชี้ว่าเป็นโมฆะ
          "สาธิตในช่วงที่กฎหมายยังไม่ออก เพราะต้องการให้สร้างเครื่องบินเสร็จแล้วบินได้ ไม่ใช่บินแล้วพาคนไปตาย แนวคิดนี้มีปัญหาในหลายจุด และสร้างภาระให้ประชา ชน รวมทั้งไม่มีใครรับประกันได้ว่าระบบนี้จะป้องกันการซื้อเสียงได้ เมื่อสะท้อนปัญหาแล้ว กรธ.จะปรับปรุงหรือไม่ ไม่อาจคาดการณ์ได้ เพราะถ้าทำสาธิต รู้ปัญหาขนาดนี้หูหนวก ตาบอด ไม่รับฟัง ก็เท่ากับสะท้อนความพิการในการรับรู้ของท่านเอง" นายสมชัย ระบุ
          ที่รัฐสภา นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทดลองระบบเลือกตั้ง ส.ส.ด้วยบัตรเลือกตั้งใบเดียว ตามแนวคิดที่ กรธ.ออกแบบ ไว้เพื่อจัดทำร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐ ธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ว่า ไม่ทราบว่า กกต.ได้ทำถูกต้องหรือไม่ เนื่องจากแนวทางดังกล่าวยังไม่ เข้าสู่การนำไปบัญญัติเป็นร่างกฎหมาย แต่ เมื่อ กกต.ทดลองแล้วพบปัญหาหรืออุปสรรคต่อการปฏิบัติงาน สามารถส่งเป็นข้อเสนอมายัง กรธ.ได้ ขณะที่ กรธ.ไม่จำเป็นต้องไปร่วมสังเกตการณ์ด้วย
          นายมีชัยกล่าวถึงร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ที่ผ่านวาระ 3 ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้วว่า กรธ.จะไม่ทำความเห็นแย้งใดๆ ส่วนที่ กสม.มีความเห็นแย้งและท้วงติงใน 6 ประเด็นนั้น หาก สนช.ลงมติตั้งคณะกรรมาธิการ 3 ฝ่ายพิจารณา กรธ.จะส่งบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม อย่างไรก็ ตาม ยอมรับว่าการที่ กสม.ไทยถูกลดเกรดจากองค์กรสากล เป็นเพราะ กสม.ชุดก่อนหน้าจริง แต่ปมปัญหาคือการสรรหาที่มีกรรม การสรรหาไม่หลากหลาย และไม่ครอบคลุมสังคมวงกว้าง กรธ.จึงจำเป็นต้องแก้ไขในประเด็นดังกล่าว
          ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับคำร้องกรณีที่ประธาน สนช.ส่งความเห็นของสมาชิก สนช.จำนวน 36 คน ที่ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยผู้ตรวจการแผ่นดิน มาตรา 56 มีข้อความขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ เพราะคุ้มครองผู้ตรวจการแผ่นดินชุดปัจจุบันให้อยู่จนครบวาระไว้พิจารณา เนื่องจากเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญมาตรา 148 วรรคหนึ่ง พร้อมกับแจ้งให้ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบ เพื่อพิจารณามอบหมายให้สมาชิก สนช. ซึ่งเป็นผู้แทนของฝ่ายเสียงข้างน้อยที่เป็นผู้ส่งความเห็นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย 1 คน และผู้แทนจาก สนช.เสียงข้างมากที่ลงมติเห็นชอบร่างดังกล่าว 1 คน มาชี้แจงพร้อมทำความเห็นเป็นหนังสือต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 30 ส.ค.นี้ เวลา 13.30 น.--จบ--

          ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์