ปลัดสำนักนายกฯหญิงโชว์วิสัยทัศน์ แนวทางทำงานในมิติใหม่ หนุนงานราชการนายกฯ
Source - มติชนออนไลน์ (Th)

Friday, November 17, 2017  14:08
30684 XTHAI XPOL POL V%WIREL P%MTCO

          พัชราภรณ์ อินทรียงค์
          ปลัด สปน.หญิงคนที่ 2 โชว์วิสัยทัศน์ น้อมนำพระราชดำริในหลวง ร.10 สืบสานในหลวง ร.9 หนุน งานราชการนายกฯ
          วันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 ที่ทำเนียบรัฐบาล นางพัชราภรณ์ อินทรียงค์ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ในฐานะเข้าดำรงตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ผู้หญิงคนที่ 2 ว่า ตนจะกำหนดกรอบแนวทางการทำงานในมิติใหม่ ด้วยการปรับแนวคิดเปลี่ยนกลยุทธ์ในการทำงานให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ ยุคสมัย และเป็นเชิงรุกมากยิ่งขึ้น โดยจะน้อมนำศาสตร์พระราชาและวิถีการทรงงานในพื้นที่ของในหลวง รัชกาลที่ 9 มาเป็นเข็มทิศในการทำงานเพื่อประชาชน เน้นการก้าวเข้าหาประชาชน สะท้อนความต้องการที่แท้จริง เพื่อนำมาเป็นโจทย์ในการปรับปรุงแก้ไขการทำงาน เร่งเดินหน้าทำความเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนในท้องถิ่น โดยจะเสริมสร้างและพัฒนาบุคลากรให้มีองค์ความรู้และเทคนิควิธีการใหม่ๆ สร้างสรรค์แนวทางการทำงานที่หลากหลาย รวมทั้งนำอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่มีอยู่มาใช้ในการปฏิบัติงานอย่างเต็มศักยภาพ เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าและประโยชน์สูงสุด และเปิดช่องทางให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นหรือร่วมขับเคลื่อนงานในมิติที่สามารถจัดให้ได้มากที่สุด
          นางพัชราภรณ์กล่าวว่า ??การดำเนินงานในส่วนของการตรวจราชการ การกำกับและติดตามการปฏิบัติราชการในภูมิภาค เป็นการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การดำเนินงานด้านโฉนดชุมชน การขับเคลื่อนการพัฒนาตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง การจัดตั้งศูนย์ข้อมูลข่าวสารของราชการ ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล และการเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ ซึ่งอยู่ในอำนาจหน้าที่ของ สปน. ได้เป็นไปตามแนวทางเดิม แม้ว่าปัจจุบันโลกได้มีวิวัฒนาการ จึงจำเป็นต้องพัฒนาไปตามยุคสมัยในเชิงรุก ด้วยการลงไปยังพื้นที่ รับฟังปัญหาระดมสมองกับชุมชน เน้นเข้าใจ เข้าถึงความต้องการที่แท้จริงของประชาชนในแต่ละพื้นที่ รวบรวมรายละเอียด นำมาวิเคราะห์หาวิธีการแก้ไข เติมเต็มในส่วนที่ขาด เพื่อส่งต่อให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่โดยตรงรับไปดำเนินการ ซึ่งจะทำให้การบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ประชาชนมีความชัดเจน ตรงประเด็น และรวดเร็วยิ่งขึ้น
          “สปน.เชื่อมั่นว่าการเร่งรัดช่วยกันเสริมให้ชุมชนมีความเป็นอยู่ที่ดี มีภูมิคุ้มกัน พร้อมที่จะรับมือกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ยิ่งทำให้ได้มากเท่าไหร่จะมีส่วนช่วยให้ประเทศก้าวไปอย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เช่นเดียวกับที่หน่วยงานต่างๆ มีการทำพันธกิจการสร้างเครือข่ายผู้ปฏิบัติงานเรื่องร้องทุกข์ (Contact point) ศูนย์ดำรงธรรม ซึ่งมีกระจายอยู่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และศูนย์ราชการสะดวก (GECC) เป็นต้น ซึ่งสอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 โดยจะทำระบบในการตรวจสอบ ติดตาม เร่งรัดการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว ซึ่งกำลังเร่งดำเนินการ หากมีเรื่องจำเป็นเร่งด่วนที่มองว่าจะส่งผลต่อการบริหารราชการแผ่นดิน จะสามารถนำกราบเรียนนายกรัฐมนตรีได้อย่างทันท่วงทีด้วย” นางพัชราภรณ์กล่าว
          นางพัชราภรณ์กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างจัดวางระบบการทำงานในภารกิจที่มีความเกี่ยวข้องอื่นๆ อาทิ การแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียน ปัญหาความทุกข์ร้อนของประชาชน ได้มีการกำหนดขอบเขตการทำงานให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้น มีการแบ่งแยกหน้าที่ระหว่างศูนย์บริการประชาชน ศูนย์ดำรงธรรมในส่วนภูมิภาค และกรุงเทพมหานคร เรื่องร้องเรียนใดอยู่ในอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานใดจะส่งเรื่องให้หน่วยงานนั้นๆ รับเรื่องไปดำเนินการโดยตรง โดยจะกำหนดแบบฟอร์มการรับเรื่องร้องเรียนที่สามารถใช้ได้กับทุกหน่วยงานให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน สปน.จะทำหน้าที่ในการประสานงาน อำนวยการ ติดตาม และรายงานผล เพื่อให้งานการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาของประชาชนมีความคล่องตัว ไม่ล่าช้า และตรงตามความต้องการของประชาชน โดยจะใช้เทคโนโลยีเข้ามาจัดการข้อมูล และใช้ในระบบการติดตามทวงถามขับเคลื่อนให้สุดทางของแต่ละเรื่อง
          นางพัชราภรณ์กล่าวว่า จะทำงานตามแนวพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 10 ??เรื่องการสืบสาน รักษา ต่อยอด พระราชดำรัสในหลวงรัชกาลที่ 9 เปรียบเสมือนแสงสว่างนำทาง สปน.จะได้น้อมนำหลักการทรงงาน “ระเบิดจากข้างใน” และ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” และปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและเสริมสร้างความอยู่ดีมีสุขของประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล โดยคำนึงถึงปัญหาและความต้องการของประชาชนเป็นสำคัญ

          ที่มา: www.matichon.co.th