ที่ปรึกษา อ.ยักษ์ นำทีมเคลียร์ปมสวนป่าสักทับที่ป่า วาง 3 แนวทางปลดตรวนคน“ปางมะโอ”
Source - MGR Online (Th)

Thursday, March 15, 2018  15:20
59572 XTHAI XGEN V%WIREL P%ASMO

          กรุงเทพฯ--15 มี.ค.--ASTVผู้จัดการออนไลน์

          แพร่ - ที่ปรึกษา รมช.เกษตร นำตัวแทนกระทรวงทรัพย์-กระทรวงเกษตร-ผู้ว่าฯแพร่ ลงพื้นที่จับเข่าคุยชาวปางมะโอ เคลียร์ปัญหาปลูกสวนป่าสักที่ สปก. สุดท้ายเจอประกาศที่ป่าทับ-ตัดขายไม่ได้ วาง 3 แนวทางแก้อย่างเป็นรูปธรรม พร้อมเดินหน้าแก่กฤษฎีกาเขตป่าทับที่ทำกิน
          วันนี้(15 มี.ค.) นายธีระ วงษ์เจริญ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , พล.อ.ธนศักดิ์ เก่งถนอมม้า คณะทำงานรัฐมนตรีช่วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , นางสมพร ทองทั่ว รองเลขาธิการ สปก. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ , นายจเรศักดิ์ นันตะวงษ์ รองอธิบดีกรมป่าไม้ , นายภูษิต พรหมมาณพ ผอ.ส่วนกำหนดเขตที่ดินป่าไม้ , นายจรัญ มากสมบูรณ์ ผอ.ส่วนอนุญาตไม้และของป่า สำนักการอนุญาต กรมป่าไม้ , นายพงษ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้เดินทางลงพื้นที่บ้านปางมะโอ หมู่ 12 ต.แม่พุง อ.วังชิ้น จ.แพร่
          เพื่อดูข้อมูล-หาทางออก ปัญหาการถือครองที่ดิน และการทำสวนป่าไม้สัก-สวนผลไม้ แล้วเกิดอุปสรรคทางกฎหมาย โดยเฉพาะสวนป่าไม้สัก ที่ปลูกตามนโยบายการส่งเสริมของหน่วยงานรัฐ มาได้ 24 ปี แต่ไม่สามารถตัดไม้สักจำหน่ายได้ เนื่องจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ออกใบอนุญาต เพราะเอกสารสิทธิ์ สปก.4-01 ทับซ้อนกับที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ
          โดยคณะที่ปรึกษา รมช.กระทรวงเกษตรฯ ได้เข้าดูพื้นที่เกษตรที่ชาวบ้านถือครองมานาน ซึ่งมีการปลูกไม้สักเป็นจำนวนมาก รวมทั้งทำสวนไม้ผล-นาข้าว จากนั้นได้พบประชาชนนับ 1,000 คนที่ลานวัดปางมะโอ
          ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ได้พยายามให้ข้อมูลต่อคณะที่เดินทางมารับฟัง โดยเฉพาะปัญหาที่ดินที่ออกเอกสารสิทธิ์ สปก.4-01 และการส่งเสริมปลูกป่าไม้สักเป็นพืชเศรษฐกิจโดยกรมป่าไม้ แต่พออายุได้ 24 ปี ไม่สามารถตัดได้ โดยนายรณเกียรติ คำน้อย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 15 บ้านแม่พุงหลวง ต.นาพูน อ.วังชิ้น กล่าวว่า ปัญหาดังกล่าวไม่เพียงเกิดขึ้นที่บ้านปางมะโอ เท่านั้น แต่ลุกลามไปทั้งภาคเหนือ ขอให้ทางราชการแก้ไขอย่างจริงจังและเป็นระบบ
          ด้านนายพงษ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้สรุปแนวทางให้เกิดการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าคือ เรื่องการปลูกไม้สักสวนป่าแล้วตัดไม่ได้โดยเร่งด่วนว่า พื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ สปก.4-01 สามารถขออนุญาตได้โดยตรง ทางจังหวัดจะกำชับให้เจ้าหน้าที่ทำงานให้อย่างรวดเร็ว
          ส่วนพื้นที่ ที่มีเอกสารสิทธิ์ สปก. 4-01 แต่มีแนวป่าไม้ที่ออกกฤษฎีกาในปี 2552 ทับซ้อน จะมีการเดินสำรวจในรูปกรรมการ เพื่อดูพื้นที่จริง แล้วจึงนำไปสู่การอนุญาต สำหรับพื้นที่ปลูกไม้สักของชาวบ้านที่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ แต่อยู่ในพื้นที่ทำกินที่ทำมานานก่อนกฎหมายออก ก็จะใช้มาตรการตรวจสอบโดยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้น แล้วนำไปสู่การแก้ไขเป็นกรณีไป
          “กรณีกฎหมายป่าไม้ที่ทับซ้อน จะมีการยกเลิกกฤษฎีกา โดยเฉพาะแนวเขตป่าไม้ในปี 2552 ที่มีการกำหนดแนวเขตอย่างผิดพลาดจะทำการยกเลิก และอนาคตจะมีการใช้แผนที่เดียวกันทุกหน่วยงานทั้งประเทศต่อไป”
          ทั้งนี้หลังการหารือ ชาวบ้านปางมะโอ ต่างรู้สึกพอใจกับข้อตกลงที่เกิดขึ้นในวันนี้ แต่ในมุมมองของสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ ที่เข้ามาร่วมหนุนเสริมชาวบ้านในด้านข้อมูล ระบุว่า ยังคงต้องติดตามแนวทางการทำงานของทางราชการที่อาจไปไม่ถึงเป้าหมาย จะด้วยสาเหตุใดก็ตาม ประชาชนต้องตั้งคณะทำงานติดตามต่อเนื่องต่อไปด้วย--จบ--