โยง'ตร.-ทหาร-ที่ดิน-อปท.' เอี่ยวเงินเด็กรับโอนเข้าบัญชีสะพัด ศธ.เดินหน้าคุ้ยเอาผิดสอบเส้นทางเงิน96ชื่อ
Source - แนวหน้า (Th)

Tuesday, April 10, 2018  08:27
36082 XTHAI XOTHER XFRONT XPOL XGEN DAS V%PAPERL P%NND

          ประธานสอบข้อเท็จจริงทุจริตกองทุนเสมาฯชงให้ รมว.ศึกษาธิการแจ้งความเอาผิดข้าราชการส่อทุจริตเพิ่ม พบ 52 บัญชี 34 คน โยง 4 กลุ่มเจ้าของ บัญชี"ตร.-ทหาร-ที่ดิน-อปท."รับโอนเงินโกงเด็ก หิ้วส่ง ป.ป.ท.เค้นสอบ ขณะที่พม.-ป.ป.ช.-ป.ป.ท.-ปปง.แห่ตบเท้า รายงานคืบหน้าทุจริตเงินคนจนลอตแรก 96 ชื่อ เร่งสอบเส้นทางเงินระบุเกษียณแล้วก็ไม่รอด
          เมื่อวันที่ 9 เมษายน ความคืบหน้า การตรวจสอบข้อเท็จจริงการทุจริตกองทุนเสมาพัฒนาชีวิต สำนักปลัดกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) โดยได้มีการประชุม คณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงฯชุดซึ่งมี นายอรรถพล ตรึกตรอง ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานฯ
          โดยนายอรรถพลเผยว่า ช่วงบ่าย เตรียมเอกสารความคืบหน้าการตรวจสอบ ส่งให้นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศึกษาธิการเพื่อรายงานผลการตรวจสอบ รวมถึงเสนอข้อมูลข้าราชการที่เข้าไปเกี่ยวข้องว่าข้าราชการดังกล่าวเข้าไปเกี่ยวข้องในขั้นตอนใดเพื่อให้ รมว.ศึกษาธิการใช้ดุลพินิจพิจารณาว่า จะใช้มาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบในระบบราชการของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) หรือไม่ ที่กำหนดให้กรณีมีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการทุจริตให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง เบื้องต้นให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน และให้ดำเนินการทางวินัยหรือทางอาญาให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
          นอกจากนี้ได้เตรียมข้อมูลเสนอ นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด กระทรวง ศธ.พิจารณา แจ้งความเพิ่มเติม ต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.)ด้วย เนื่องจากที่ผ่านมาพบผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมแต่ยังไม่ได้แจ้งความต่อ ป.ป.ท. ส่วนการแจ้งความที่ สน.ดุสิต ก่อนหน้านี้ ขณะนี้ สน.ดุสิต ได้โอนคดีมูลฐานให้ ป.ป.ท.ทั้งหมดแล้ว
          โยง4กลุ่มเจ้าของบัญชีรับโอนเงิน
          ก่อนหน้านี้ได้ส่งรายงานผลการสืบสวนข้อเท็จจริงฯเบื้องต้นผ่านปลัดศธ. เพื่อนำเสนอต่อนพ.ธีระเกียรติ รับทราบแล้ว โดยได้รายงานถึงการตรวจสอบพบบัญชีการรับโอนเงินจำนวน 52 บัญชีพร้อมชื่อเจ้าของบัญชี จำนวน 34 คน และจำแนกบุคคลออกเป็น 4 กลุ่ม มีทั้งข้าราชการสังกัดกระทรวงศึกษาฯ ข้าราชการ ตำรวจ ทหาร กทม. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสังกัดกรมที่ดินที่ได้รับโอนเงินจากกองทุนเสมาฯ รวมถึง รายงานจำนวนผู้ที่เดินทางมาให้ปากคำกับทางคณะกรรมการสืบสวนฯในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา
          ส่วนนางรจนา สินที อดีต นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญ การพิเศษ สำนักกิจการการศึกษา สำนักงานปลัด ศธ.ที่รับสารภาพกรณีทุจริต เงินกองทุนเสมาฯและถูกไล่ออกจากราชการ ไปแล้วนั้น ก็ยังไม่ได้เดินทางมาตาม ที่คณะกรรมการเชิญมาให้ปากคำ
          เตรียมหิ้วส่ง ปปท.เค้นสอบต่อ
          "ในวันที่ 10 เม.ย.นี้ เวลา 11.00 น. ผมจะเดินทางไปยื่นเอกสารหลักฐานเพิ่มเติม ให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) และจะมีเจ้าของบัญชีผู้รับโอนเงินเดินทางไปที่ป.ป.ท.ด้วยเพื่อไปให้ข้อมูลกับ ป.ป.ท.ถึงกรณีที่ ได้รับโอนเงินจาก นางรจนา หลายครั้ง" นายอรรถพล ย้ำ
          ส่วนความคืบหน้าการทำหนังสือถึง ผู้บริหารระดับสูง ที่เกี่ยวข้องกับกองทุนฯทั้งปลัดกระทรวงฯอดีตปลัด รองปลัดฯ อดีตรองปลัดฯจำนวนกว่า 10 ราย เพื่อขอให้ชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรและ ส่งข้อมูลกลับมาภายในวันที่ 10 เม.ย.นั้น ส่วนใหญ่ได้ขอขยายเวลา บางคนขอขยายไปเป็นวันที่ 20 เม.ย. และ 25 เม.ย. ซึ่งคณะกรรมการฯเห็นใจเนื่องจากเรื่อง ซับซ้อนและผ่านมานานเป็น 10 ปี จึงต้องใช้เวลาในการค้นเอกสาร
          พม.-ป.ป.ช.-ป.ป.ท.-ปปง.รายงาน
          วันเดียวกันที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประสาท สุขเกษตร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เป็นประธาน การประชุมความคืบหน้ากรณีทุจริตเงิน สงเคราะห์ผู้มีรายได้น้อยของศูนย์คุ้มครอง คนไร้ที่พึ่ง โดยมี นางนภา เศรษฐกร อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ(พส.)กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์(พม.) นายวิทยา นิติธรรม ผู้อำนวยการกองกฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เข้าร่วมประชุมด้วย
          ชง!ขรก.โกงเงินคนจนลอตแรก96ชื่อ
          โดยนางนภากล่าวว่าได้รับรายชื่อข้าราชการที่ทุจริตในสังกัด พม.ลอตแรก จำนวน 96 รายชื่อ ซึ่งมี 10-20 กว่ารายชื่อ ที่ข้อมูลตรงกัน แต่จะต้องดูให้ชัดเจนอีกครั้ง ส่วนที่เหลือก็จะดำเนินการ ทางวินัยต่อหรือว่าย้ายออกจากพื้นที่ ขณะนี้อยู่ระหว่างดูข้อมูลอยู่ จากนั้น จะนำข้อมูลของ ป.ป.ท.มาดูร่วมกันว่าข้อมูลตรงไหน ที่ได้ดำเนินการไปแล้ว ข้อมูลในส่วนไหนที่ยังไม่ได้ดำเนินการ ก็จะดำเนินการต่อ ส่วนจะต้องมีการเรียกมาชี้แจงก่อนอีกหรือไม่ ทาง ป.ป.ท.ได้ส่งข้อมูลมาแล้ว ถือว่าข้อมูลนั้นสมบูรณ์แล้ว ส่วนผลการสอบสวนข้อเท็จจริงในส่วนของ จ.ขอนแก่น ภายในเดือน เม.ย.น่าจะทราบผลว่าจะมีความผิดทางวินัยหรือจะลงโทษในระดับไหนบ้าง
          เมื่อถามว่า จะมีการสั่งย้ายเพิ่มอีก หรือไม่ นางนภาระบุว่า กำลังรอส่วนที่เหลือ ของ ป.ป.ท.อยู่ ยังไม่มีการพักราชการเพิ่ม มีเพียงผู้ที่พักราชการก่อนหน้านี้ 5 คน ต้องรอผลของเราให้ชัดเจนอีกครั้งว่าจะสอบเพิ่มอีกกี่คน ถึงจะดำเนินการต่อได้ ต้องใช้เวลาดูข้อมูลก่อน แต่จะเร็วขึ้น เพราะป.ป.ท.ได้ส่งข้อมูลให้เราแล้วส่วนหนึ่ง ตอนนี้ เราก็คุยกันว่าข้อมูลทั้งของ ป.ป.ท. ป.ป.ช. พม.จะร่วมกันดำเนินการ แต่หาก เป็นข้าราชการในระดับ ซี 8 ที่อยู่ในตำแหน่ง บก.ชำนาญการ จะให้ป.ป.ช.ดำเนินการ แต่ ถ้าเป็นซี 8 ปกติก็จะให้ ป.ป.ท.ดำเนินการ ส่วน พศ.ก็จะดูภาพรวมและดำเนินการในทุกหน่วยงานเพื่อนำข้อมูลมารวมกันอีกครั้ง
          เร่งสอบเส้นทางเงิน/คืบเกิน60%
          ด้าน นายวิทยา ให้สัมภาษณ์หลังประชุมว่าได้มารายงานความคืบหน้า และลำดับกระบวนการ ส่วนเรื่อง รายละเอียดคดีนั้น บางเรื่องยังไม่ อยากให้ข้อมูลเช่นเรื่องของ ปปง.ในการ ตรวจสอบทรัพย์สิน เพราะเป็นเรื่องของความลับ ขณะนี้แต่ละหน่วยมีความคืบหน้า เกิน 60 เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนความยาก ในกระบวนการนำเงินกลับคืนมานั้น เรื่องดังกล่าว มีกระบวนการทางกฎหมายตรวจสอบอยู่ขอให้เจ้าหน้าที่ทำงานก่อน ส่วนเรื่องการสอบเส้นทางเงินของข้าราชการนั้น เป็นความลับ หากพยานหลักฐาน ไปถึงใครก็ต้องตรวจสอบทั้งหมดในภาพรวมของกฎหมาย ส่วนการโยกย้ายทรัพย์สินนั้น เราต้องใช้เวลาตรวจสอบให้ ชัดเจนว่าเงินดังกล่าว เป็นเงินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดหรือไม่ เพราะหาก ดำเนินการกับเงินที่ไม่เกี่ยวข้องก็จะมีประเด็นขึ้นมาอีก
          ลั่นถึงเกษียณไปแล้วก็ไม่รอด
          เมื่อถามว่าเป็นระดับผอ.ศูนย์ฯหรือไม่ นายวิทยากล่าวแน่นอนอยู่แล้ว ในะดับปลัดและข้าราชการระดับสูงนั้น ยังไม่แน่ใจ ส่วนข้าราชการที่เกษียณอายุไปแล้วนั้น ตามกฎหมาย ปปง.สามารถตรวจสอบได้หมดอยู่แล้ว หากทรัพย์สินไปที่ใครก็สามารถตรวจสอบได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานข้อมูลร่วมกันทั้ง ปปง. ป.ป.ช.และ ป.ป.ท.หากเป็นข้าราชการระดับสูง ก็ต้องส่งให้ป.ป.ช.พิจารณา หากเป็นระดับซี 8 ลงมา ป.ป.ท.จะทำหน้าที่พิจารณา กรอบเวลาในการพิจารณา จะเร็วกว่าเดิมที่กำหนดไว้ในเดือนพ.ค.--จบ--

          ที่มา: หนังสือพิมพ์แนวหน้า