รมว.ศธ. ยก ขอนแก่น เป็นโมเดลในการปฏิรูปการศึกษา เตรียมแผนกระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ
Source - สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ (Th)

Monday, April 23, 2018  11:57
27585 XTHAI XETHIC XGOV SOC V%WIREL P%PRD

          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ยกจังหวัดขอนแก่นเป็นโมเดลในการปฏิรูปการศึกษา เตรียมแผนกระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ
          นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวบรรยายพิเศษตอนหนึ่งหัวข้อ “การปฏิรูปการศึกษา การปฏิรูปการเรียนรู้ เพื่อมุ่งสู่วิสัยทัศน์ THAILAND 4.0" ในงาน Smart Learning Expo ครั้งที่ 1 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติขอนแก่น มหาวิทยาลัยขอนแก่น ว่า การปฎิรูปการศึกษาจะประสบความสำเร็จได้ต้องเกิดความร่วมมือจากหน่วยงานทุกภาคส่วน ไม่ใช่ต่างคนต่างทำ ซึ่งการปฎิรูปการศึกษาไม่ใช่เรื่องของจินตนาการหรือการปรับโครงสร้าง แต่การปฎิรูปการศึกษาควรเป็นการนำข้อผิดพลาดของการศึกษาว่าอยู่ตรงจุดไหนแล้วมาช่วยกันแก้ไข และการปฎิรูปการศึกษาจะต้องทำในสิ่งที่ทำได้ไม่ใช่คิดแผนงานกันแบบลอย ๆ เหมือนนามธรรมจับต้องไม่ได้ ซึ่งที่สำคัญเมื่อปฎิรูปการศึกษาแล้วจะต้องมีการวัดและประเมินผลด้วยว่า สิ่งที่เราดำเนินการมาถูกทิศทางจนสามารถยกระดับคุณภาพการศึกษาได้หรือไม่
          ทั้งนี้ ที่ผ่านมาการปฎิรูปการศึกษาของโลกก็เกิดวิกฤตเช่นกัน แต่การแก้ปัญหาของประเทศต่าง ๆ จะต้องนำหน่วยงานภายนอกเข้ามาช่วยกระตุ้น โดยเฉพาะโครงการประเมินผลนักเรียนร่วมกับนานาชาติ (พิซา) มาช่วยวัดทักษะและจัดลำดับคุณภาพการศึกษาของแต่ละโรงเรียนให้ ซึ่ง ศธ.ก็มีการทำเช่นนั้นควบคู่ไปกับการปฎิรูปการศึกษาจากภายใน ศธ.ไปด้วย เพราะการปฎิรูปการศึกษาจะต้องทำให้ประชาชนเห็นการเปลี่ยนแปลงว่า ลูกหลานเข้าสู่ระบบการเรียนแล้วมีความสุขในห้องเรียนหรือไม่
          รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมายอมรับว่า การปฎิรูปการศึกษามีแต่โครงการต่าง ๆ และคำสั่งที่มาจากส่วนกลาง ดังนั้น เตรียมจะใช้ขอนแก่นเป็นโมเดลสำคัญของการปฎิรูปการศึกษา เพราะมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้จัดโครงการ KKU Smart Learning ขึ้น ซึ่งถือโครงการพัฒนาสมรรถนะนักเรียนด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นการจัดห้องเรียนเทคโนโลยี เนื้อหาหลักสูตรแบบออนไลน์ คู่มือการจัดการเรียนสำหรับครู นำร่องระดับมัธยมศึกษาใน 3 วิชา ได้แก่ วิชาคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ซึ่งขอให้เพิ่มวิชาภาษาไทยเข้าไปด้วย โดยเตรียมให้มีการขยายโครงการนี้ไปยังโรงเรียนมัธยมศึกษาระดับอื่น ๆ ที่ด้อยโอกาส และในอนาคตจะต้องยกระดับไปทุกระดับชั้นให้ครอบคลุมทุกภูมิภาค ซึ่งมหาวิทยาลัยอื่น ๆ ควรนำไปศึกษา เพื่อพัฒนาให้เหมาะสมตามตามสภาพของโรงเรียนในแต่ละพื้นที่ด้วย

          ที่มา: www.thainews.prd.go.th