อวสาน...ความงาม-สุขภาพ ไร้มาตรฐาน สวยเสี่ยงตาย ขายเสี่ยงคุก
Source - เดลินิวส์ (Th)

Wednesday, May 09, 2018  02:39
57915 XTHAI DAS V%PAPERL P%DND

          ทีมข่าวเฉพาะกิจ รายงาน

          กรณี "เมจิก สกิน" เจ้าของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมในเครือนับร้อยรายการที่ คณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีประกาศยุติการผลิตและโฆษณา  เนื่องจากถูกร้องเรียนพฤติกรรมอวดอ้าง โฆษณาเกินจริง  และเข้าข่ายหลอกระดมทุน จนนำไปสู่การเข้าตรวจค้นแหล่งผลิต จับกุมเครือข่าย ตัวการหลัก  และที่คาดไม่ถึงคือการตรวจสอบความผิดไปถึง "คนรีวิว" ที่เป็นกลไกสำคัญในการขยายฐานลูกค้าอย่างรวดเร็ว  อาศัยความน่าเชื่อถือของผู้รีวิวที่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงอย่างดารา  เน็ตไอดอล ไปจนถึงบุคคลากรทางการแพทย์บางรายที่มีชื่อร่วมในกลไกสร้างความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์
          กลายเป็นปรากฏการณ์ที่สร้างบทเรียนให้กับหลายฝ่ายไม่เฉพาะตัวเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่ต้องมีความรับผิดชอบกับผู้บริโภค  แต่ยังรวมถึงบทเรียนของการรับ, รีวิวสินค้า ที่ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม, ผู้บริโภคที่ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตามคุณภาพไม่ใช่แค่คำโฆษณา และ อย.ต้นทางหลักที่ต้องคัดกรองผลิตภัณฑ์สร้างมาตรฐานการตรวจสอบก่อนอนุญาตจดแจ้งให้เข้มงวดขึ้น
          ทั้งนี้ นอกจากเมจิก สกิน ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารยี่ห้อ "ลีน" เป็นอีกผลิตภัณฑ์ชื่อดัง ซึ่งถูกหยิบยกเป็นตัวอย่างที่ตอกย้ำถึงผลลัพธ์ของการใช้ผลิตภัณฑ์ไม่ได้คุณภาพว่าไม่เพียงส่งผลกระทบภายนอก  แต่การอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง หากหลงเชื่ออาจอันตรายถึงชีวิต  เช่น ผลิตภัณฑ์ลดความอ้วน ลีน ที่อย.ตรวจพบสารต้องห้าม ไซบูทรามีน-บิซาโคดิล ที่อาจเชื่อมโยงกับผู้บริโภคอย่างน้อย 4 ราย ที่เสียชีวิต
          ที่ผ่านมาแม้จะเคยเห็นข่าวคราวการจับกุมตรวจค้นแหล่งผลิตสินค้าประเภทอาหารเสริม หรือเครื่องสำอางไม่ได้คุณภาพมาหลายต่อหลายครั้ง แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นล่าสุดน่าจะเป็น "ครั้งแรก" ที่ปฏิบัติการขยายผลทำให้เห็นภาพใหญ่และส่งสัญญาณถึงเวลาที่สังคมรวมถึงหน่วยงานต้องตื่นตัวกับผลิตภัณฑ์ลักษณะนี้ที่มีขายกันอยู่เกลื่อนเมือง  คล้ายภัยใกล้ตัวที่ถูกมองข้ามเพราะความเคยชิน
          การเข้าตรวจค้นแหล่งผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแหล่งใหญ่ อย่าง ตลาดใหม่ดอนเมือง หรือ ตลาดแอร์พอร์ต เป็นอีกตัวอย่างที่ชุดปฏิบัติการตำรวจ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ อย. กรมสรรพากร  สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมโรงงานอุตสาหกรรม นำร่องกวาดล้างผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผิดกฎหมาย
          ผลปฏิบัติการต่อเนื่อง 4 วัน ( 2-6 พ.ค.) สามารถตรวจค้นร้านค้า 259 ร้าน ปรากฏว่ามีร้านที่กระทำผิดกฎหมาย 186 ร้าน ในจำนวนนี้มีผลิตภัณฑ์ของกลางที่ยึดไว้มากถึง 2,868 รายการ  หรือ 320,783 ชิ้น และเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตอีก 7 เครื่อง
          จำนวนของกลางที่ได้อาจไม่มากมาย เมื่อเปรียบเทียบกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้บริโภค เพราะสิ่งที่พบจากการตรวจค้นครั้งนี้คือภาพที่แสดงให้เห็นถึงขั้นตอนการผลิตผลิตภัณฑ์ทั้งเครื่องสำอาง และอาหารเสริมที่ไม่ได้มาตรฐานจำนวนมาก โดยเฉพาะลักษณะของการแบ่งขายวัตถุดิบที่ใส่ถุงพลาสติกชั่งขายเป็นกิโลกรัม การกวนครีมขาย การลักลอบใส่สารต้องห้ามต่าง ๆ  ตลอดจนการบรรจุหีบห่อที่ไม่ได้มาตรฐานการผลิต
          ยกตัวอย่างผลิตภัณฑ์อาหารผิดกฎหมายที่พบ  มีทั้ง เครื่องดื่มลดน้ำหนัก ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารลดน้ำหนัก ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมปลอม ขณะที่ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง พบทั้ง เครื่องสำอางปลอม ครีมกิโล ครีมหัวเชื้อ สเต็มเซลล์ โลชั่นตัวขาว หัวนมชมพู นมโตสูตรแน่น ครีมไฮเตอร์ ครีมไข่มุกหน้าเงา สบู่ฟอกตัวขาวเร่งด่วน
          จากข้อมูลข้างต้นนพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการ อย. ย้ำหากพบว่าการโฆษณาผลิตภัณฑ์สุขภาพว่าช่วยรักษาโรค ลดความอ้วน หรือมีผลทางยา  ให้สันนิษฐานไว้เลยว่าอาจมีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อชีวิต ขณะที่การโฆษณาชวนเชื่อของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่โอ้อวดสรรพคุณผิวขาวเร็วใน 3 วัน 7 วัน  ลดไขมันกระชับสัดส่วน ล้วนเป็นการโฆษณาที่ไม่น่าเชื่อถือทั้งสิ้น
          ข้อหาที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดตามที่ตรวจสอบแบ่งเป็น ในส่วนของสถานที่ผลิต และสถานที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เข้าข่าย ผลิต นำเข้า รับจ้างผลิตเครื่องสำอางโดยไม่จดแจ้ง มีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, ขายเครื่องสำอางที่ไม่ได้จดแจ้ง มีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท, ผลิตเพื่อขาย นำเข้าเพื่อขาย รับจ้างผลิตเครื่องสำอางที่ใช้ฉลาก แจ้งชื่อผู้ผลิต ผู้นำเข้าหรือแหล่งผลิตที่ไม่ใช่ความจริง โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          ขายเครื่องสำอางที่ใช้ฉลากแจ้งชื่อผู้ผลิต นำเข้า หรือแหล่งผลิตที่ไม่ใช่ความจริง จำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, ขายเครื่องสำอางที่รัฐมนตรีประกาศ ตามมาตรา 6 (1) ชื่อประเภท ชนิดหรือคุณลักษณะของเครื่องสำอางที่ห้ามผลิต นำเข้า หรือขาย โทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, ขายเครื่องสำอางที่ไม่ได้จดแจ้ง โทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท และขายเครื่องสำอางที่ฉลากระบุข้อความไม่ครบถ้วน จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
          ขณะที่การจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร อาจเข้าข่าย 2 ฐานความผิด คือ จำหน่ายอาหารปลอม โทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 5,000-100,000 บาท, จำหน่ายอาหารที่แสดงฉลากไม่ถูกต้อง ปรับไม่เกิน 30,000 บาท
          หลายสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ในลักษณะสวยทันใจ ผอมเร็ว ขาวไว ผลิตภัณฑ์เหล่านี้น่าห่วง เพราะหลายยี่ห้อตรวจสอบแหล่งที่มาไม่ได้  แต่การรับรู้ของประชาชนกลับเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากช่องทางสื่อสารในโลกออนไลน์
          ขณะนี้จึงมีการจับตาไปที่ท่าทีของอย. ในฐานะหน่วยงานควบคุมผลิตภัณฑ์ และคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ที่ต้องเข้ามามีส่วนรับผิดชอบตรวจสอบการโฆษณาที่มีมากขึ้น โดยสองหน่วยงานนี้ถือว่ามีบทบาทสำคัญในการเพิ่มความปลอดภัยตั้งแต่ต้นทางให้กับผู้บริโภค ล่าสุดในส่วนมาตรการคุมเข้มผลิตภัณฑ์สุขภาพให้มีทั้งคุณภาพและปลอดภัยภายในเดือน มิ.ย. นี้ อย.เตรียมออกประกาศกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับการตรวจสุขลักษณะของสถานที่ผลิตเครื่องสำอาง เพื่อสร้างหลักประกันของสถานที่ผลิต หากพบไม่ผลิตตามสถานที่จดแจ้ง อย.ต้องเพิกถอนเลขจดแจ้งทันที ขณะที่หากพบแหล่งผลิตไม่ได้มาตรฐานก็ต้องถูกดำเนินคดี
          สำหรับการจัดระเบียบการโฆษณา เพื่อไม่ให้มีการโฆษณาหลอกลวง ลดความเสี่ยงในการรับข่าวสารผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ไม่ถูกต้อง ต้องให้ตรวจสอบเนื้อหาโฆษณาก่อนขออนุญาตจากอย. โดยอย.จะร่วมกับกสทช.ส่งเจ้าหน้าที่เข้าประจำการศูนย์ตรวจสอบเนื้อหาวิทยุ โทรทัศน์ และ สื่อออนไลน์ เฝ้าระวังการโฆษณาที่ไม่ได้รับอนุญาต เพื่อระงับการออกอากาศด้วย
          หน่วยงานต้นทางเริ่มตื่นตัวแล้ว  ถึงเวลาผู้บริโภคปลายทางก็ต้องปรับตัว เลือกผลิตภัณฑ์ด้วยคุณภาพมากกว่าคำโฆษณา เพราะสุดท้ายผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือตัวผู้บริโภคเอง.

          บรรยายใต้ภาพ 
          ขนสินค้าให้จนท.ไปตรวจสอบ
          ผนึกกำลังค้นแหล่งผลิต จำหน่ายครั้งใหญ่--จบ--

          ที่มา: หนังสือพิมพ์เดลินิวส์