“วิระชัย” นำทีมบุกตรวจ รง.หลอมแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ใน จ.ฉะเชิงเทรา พบผิดหลายข้อหา
Source - MGR Online (Th)

Tuesday, May 22, 2018  20:25
62483 XTHAI XGEN V%WIREL P%ASMO

          กรุงเทพฯ--22 พ.ค.--ASTVผู้จัดการออนไลน์

          ฉะเชิงเทรา - “วิระชัย” นำทีมบุกตรวจโรงงานหลอมคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ใน จ.ฉะเชิงเทรา หลังชาวบ้านร้องเรียนสร้างผลกระทบ ด้านสิ่งแวดล้อม พบแรงงานกว่า 262 ชีวิตทำงานอยู่ในสภาพแวดล้อมไม่ปลอดภัย ทั้งยังกระทำความผิด พ.ร.บ.โรงงาน นำขยะรีไซด์เคิลมา กองไว้นอกตัวอาคาร เบื้องต้นสั่งปิดให้เร่งปรับปรุงใน 30 วันพร้อมดำเนินคดีหลายข้อหาหนัก
          วันนี้ ( 22 พ.ค.) พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พร้อมกำลัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกว่า 100 นาย บุกจู่โจมตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลขยะอิเล็กทรอนิกส์ ของบริษัท ดับบลิว เอ็ม ดี ไทย รีไซคลิ้ง จำกัด ตั้งอยู่เลขที่ 33 ม.12 ต.แปลงยาว อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา โดยพบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนม่า ,กัมพูชา และลาว กว่า 251 คน รวมทั้งคนงานไทยอีก 11 คน ที่กำลังคัดแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ และหลอมละลายตะกั่วเพื่อถอดคัดแยกอุปกรณ์ออกจากแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์
          โดยได้สั่งให้โรงงานหยุดเครื่องจักรและยุติการทำงาน ก่อนนำคนงานทั้งหมดไปทำการตรวจเลือด และเก็บตัวอย่างปัสสาวะ เพื่อหาสารโลหะหนักในกระแสเลือดกว่าค่ามาตรฐานหรือไม่ ขณะเดียวกันยังทำการตรวจสอบใบอนุญาตในการก่อตั้งโรงงาน และเอกสารเกี่ยวกับการจ้างงานแรงงานต่างด้าว ซึ่งก็พบว่ามีแรงงานต่างด้าวบางส่วน เข้ามาทำงานโดยไม่ถูกต้อง ส่วนการนำเข้าเศษขยะกากอิเล็กทรอนิกส์ก็ไม่มีที่มาอย่างชัดเจน
          พล.ต.อ.วิระชัย กล่าวว่าโรงงานแห่งนี้มี นายเหยา (YAO) อายุ 40 ปี ชาวจีน รับเป็นผู้จัดการโรงงาน โดยมี นายจี้หยิน อายุ 62 ปี ชาวฮ่องกง เป็นเจ้าของอยู่ในต่างประเทศ โดยได้แอบลักลอบนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งเป็นขยะต้องห้ามซึ่งในหลายประเทศไม่อนุญาตให้นำเข้าประเทศ แต่กลับมีการลอบนำเข้ามาในประเทศไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต
          ทั้งนี้ โรงงานแห่งนี้เคยถูกเพลิงไหม้ที่บริเวณเตาหลอมโลหะ (ตะกั่ว) ที่มีการติดตั้งไว้ที่บริเวณด้านหลังจำนวน 22 เตาเผา เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา จนเกิดมลพิษรั่วไหลออกไปโดยรอบโรงงานและมีชาวบ้านเข้าร้องเรียนยังหน่วยงานของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศูนย์อำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัย และได้มอบหมายให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมกระทรวงทรัพยากรแห่งชาติและสิ่งแวดล้อม ,กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงสาธารณสุข ผนึกกำลังปฏิบัติการกวาดล้างกิจการทำลายชาติในครั้งใหญ่
          สำหรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าว มีทั้งสารโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว สารปรอท แคดเมียม ซึ่งเป็นพิษต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบประสาท ระบบสืบพันธุ์ ทำลายระบบเลือด และก่อมะเร็ง ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งให้ปิดดำเนินการในทันที เพื่อให้จัดเก็บขยะอิเล็กทรอนิกส์นอกตัวอาคารให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน
          ขณะเดียวกันยังแจ้งข้อกล่าวหาต่อผู้ประกอบการโรงงาน คือ นำเข้ามาซึ่งวัตถุดิบอันตรายชนิดที่ 3 คือ ขยะอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ได้รับอนุญาตอันเป็นความผิดตามมาตรา 23 แห่ง พ.ร.บ.วัตถุอันตราย มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ , สร้างความเดือดร้อนรำคาญแก่ชุมชน ตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข ม.25 และ 28/1 มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 25,000 บาท , ประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับแจ้ง ตามพ.ร.บ.โรงงาน 2535 ม.13 ปรับไม่เกิน 20,000 บาท
          ส่วนกองขยะอันตรายกลางแจ้ง เป็นการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานและวิธีการควบคุมการปล่อยของเสียมลพิษหรือสิ่งใดๆ ที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้นจากการประกอบกิจการของโรงงาน คือ การเก็บขยะนอกโรงงาน อันเป็นความผิดตามมาตรา 8 (5) พ.ร.บ.โรงงาน มีโทษปรับไม่เกิน 200,000 บาท
          พล.ต.อ.วิระชัย ยังกล่าวถึงการดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวว่า เป็นความผิดตาม ม.54 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ที่พักพิงช่วยเหลือซ่อนเร้นคนต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมือง มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ,รับคนงานต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาตทำงานเข้าทำงาน เป็นความผิดตามมาตรา 27 พ.ร.บ.การทำงานของแรงงานต่างด้าว มีโทษปรับ 10,000 - 100,000 บาท ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาทั้งหมดที่แจ้งแก่โรงงานแห่งนี้--จบ--