กสอ.เร่งเปิดศูนย์ITCเพิ่มอีก7แห่ง
Source - สำนักข่าว ไอ.เอ็น.เอ็น. (Th)

Thursday, June 07, 2018  14:10
26213 XTHAI XECON ECO V%WIREL P%INN

          นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ กสอ. เปิดเผยว่า กสอ. ร่วมกับ บริษัท ปตท. ตั้งอาคารต้นคูณภายในศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม Industry Transformation Center (ITC) ให้คำปรึกษาแนะนำด้านอุตสาหกรรมพลาสติกและพลาสติกชีวภาพ ขณะเดียวกันได้ขยายศูนย์ ITC ไปยังศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาค รวม 5 ศูนย์ ได้แก่ เชียงใหม่ พิษณุโลก อุบลราชธานี สงขลา และศูนย์เซรามิค จังหวัดลำปาง ซึ่งผลการให้บริการนับตั้งแต่เปิดโครงการฯจนถึงปัจจุบัน ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาคได้ให้บริการด้านการสร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบ 271 ราย บริการออกแบบผลิตภัณฑ์ 228 ราย แปรรูปการเกษตร/อาหาร 138 ราย ด้านบรรจุภัณฑ์ 61 ราย การให้บริการเครื่องจักรกลาง 59 ราย และให้บริการศึกษาดูงานและฝึกอบรม/สัมมนา รวม 4,888 ราย รวมให้บริการทุกประเภทจำนวน 5,645 ราย
          นอกจากนี้ กสอ. มีแผนเร่งดำเนินการเปิดศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรมเพิ่มอีก 7 แห่ง ภายในศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคจังหวัดพิจิตร อุดรธานี ขอนแก่น นครราชสีมา สุพรรณบุรี ชลบุรี และสุราษฎร์ธานี โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการครบทุกแห่งภายในเดือนกรกฎาคม 2561
          ทั้งนี้ นายกอบชัย เปิดเผยว่า กสอ. ได้ดำเนินโครงการ Digital Value Chain เพื่อยกระดับ SME สู่สากล โดยมุ่งหวังผลักดันผู้ประกอบการสู่ห่วงโซ่มูลค่าระดับโลก ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีผ่านเว็ปไซต์และระบบฐานข้อมูลจับคู่ธุรกิจออนไลน์ ภายใต้ชื่อ T-GoodTech เชื่อมระบบฐานข้อมูล J-GoodTech ของญี่ปุ่นที่มีฐานข้อมูลของผู้ประกอบการจาก 11 ประเทศ กว่า 17,000 ราย ปัจจุบันไทยเป็นสมาชิกอยู่ 1,365 ราย จะทำใหเกิดการจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการไทยกับผู้ประกอบการทั่วโลก
          ขณะที่การดำเนินโครงการDigital Value Chain มีเป้าหมายโครงการให้ SMEs อยู่บนระบบฐานข้อมูล J-GoodTech และ T-GoodTech รวมจำนวน 2,600 ราย ภายในปี 2561 มี SMEs สมัครภายใต้ T-GoodTech แล้วกว่า 1,100 ราย รวมแล้วกว่า 2,465 ราย และอาจจะปรับแผนขยายเป้าหมายทั้งปีเป็น 5,000 ราย
          โดยคาดว่าจะเกิดการเชื่อมโยงธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการจำนวนไม่น้อยกว่า 80 รายและเตรียมขยายการเชื่อมโยงไปยังเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาคอุตสาหกรรมของไทยกับญี่ปุ่นหรือประเทศอื่นๆ อาทิ ฮ่องกง กลุ่มประเทศ CLMV เพื่อสร้างความมั่นใจในสินค้าและบริการของ SMEsไทย สร้างภาพลักษณ์ที่ดีในสายตานานาประเทศ พร้อมทั้งทำสินค้าและบริการของไทยขยายไปสู่ระดับสากลให้มากขึ้น

          ที่มา: www.innnews.co.th