อย.ลั่นไม่เคยให้ขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ "ฉีดสลายไขมัน"
Source - MGR Online (Th)

Thursday, June 07, 2018  10:50
49648 XTHAI XETHIC V%WIREL P%ASMO

          กรุงเทพฯ--7 มิ.ย.--ASTVผู้จัดการออนไลน์

          อย. ลั่นไม่เคยให้ขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ "ฉีดสลายไขมัน" เตือนอย่าหลงเชื่อ เผยฉีดเมโสแฟตมักใช้ยา 2 กลุ่ม คือสเตียรอยด์ เข้าข่ายใช้ผิดวัตถุประสงค์ และยาจากต่าประเทศที่ยังไม่ผ่านการรับรอง อย.ไทย
          นพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กล่าวว่า อย.ได้รับข้อมูลการโฆษณาชวนเชื่อจากเน็ตไอดอลเชิญชวนสาวๆ ฉีดสารบางชนิดเพื่อลดไขมันทั้งนี้ ขอย้ำว่า อย.ไม่เคยรับขึ้นทะเบียนตำรับยาผลิตภัณฑ์ฉีดสลายไขมันใดๆ และเทคนิคการสลายไขมันด้วยการฉีดเฉพาะจุด ยังไม่เคยมีการรับรองมาตรฐานหรือมีงานวิจัยทางการแพทย์ที่รองรับอย่างชัดเจนว่าได้ผลในการสลายไขมันทั้งนี้ ยาที่มีการนำมาใช้ฉีดเพื่อสลายไขมันตามโฆษณาที่เรียกว่าการฉีดเมโสแฟต แบ่งเป็น 2 กลุ่มคือ ยากลุ่มสารสเตียรอยด์ ใช้สำหรับรักษาโรคที่มีการอักเสบภายในร่างกาย หากนำสารสเตียรอยด์มาฉีดเพื่อสลายไขมันถือว่านำมาใช้ผิดวัตถุประสงค์ ทำให้เกิดผลข้างเคียงและอันตราย เช่น เกิดผิวหนังบุ๋ม เกิดการติดเชื้อ หรือมีการบวมน้ำตามร่างกายได้
          นพ.วันชัย กล่าวว่า ส่วนยากลุ่มที่ 2เป็นยาที่ใช้กันในต่างประเทศ ยังไม่ผ่านการรับรองเพื่อการฉีดจาก อย. ถือเป็นการฉีดที่ไม่ปลอดภัยหากวิธีการฉีดไม่สะอาดพอ ก็อาจเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และอาจเกิดผลร้ายแรงตามมา หรือทำให้ผิวหนังเป็นลูกคลื่นจากการสลายไขมันเป็นหย่อม ๆ เนื่องจากเวลาฉีดไม่ได้ฉีดเพียงจุดเดียว อาจฉีดเป็นสิบหรือเป็นร้อยจุดทั้งนี้ การฉีดสารใด ๆ เข้าสู่ร่างกาย สารที่ฉีดต้องได้รับการรับรองจาก อย. และผู้ฉีดต้องเป็นแพทย์เท่านั้น
          "ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ที่พบจะเป็นการลักลอบนำเข้ามาใช้และนำมาโฆษณาขายและฉีดในราคาถูก ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงขอเตือนหญิงสาวที่รักสวยรักงามอย่าหลงเชื่อโฆษณาอวดสรรพคุณที่พบมากทางสื่อออนไลน์หรือจากพรีเซ็นเตอร์หรือเน็ตไอดอลเด็ดขาด ให้ศึกษาถึงผลดีผลเสียก่อน เพราะนอกจากเสียเงินทองแล้ว อาจได้ของแถมเป็นรอยตำหนิ หากรายใดที่ถูกฉีดไปแล้ว และเกิดผลข้างเคียง ขอให้ไปพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับการรักษาโดยด่วน ซึ่งวิธีที่ปลอดภัยและมีหุ่นสวยเพรียวขอให้เน้นการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร หากพบการโฆษณาฉีดสารสลายไขมันทางสื่อใดๆ ก็ตาม ขอให้แจ้งร้องเรียนมายัง สายด่วน อย. 1556 หรือOryor Smart Applicationหรือสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด เพื่อเจ้าหน้าที่จะรีบตรวจสอบและดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำผิดต่อไป" นพ.วันชัย กล่าว--จบ--