กสม.แจง 4 ข้อค้ามนุษย์คลาดเคลื่อน
Source - เดลินิวส์ (Th)

Wednesday, July 04, 2018  05:00
44222 XTHAI XPOL MIDD DAS V%PAPERL P%DND

          เมื่อวันที่ 3 ก.ค. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ได้ออกคำชี้แจงกรณีการรายงานการดำเนินการด้านสิทธิมนุษยชนของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่ง กสม. เห็นว่า รายงานฉบับดังกล่าวได้ระบุข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยบางส่วนที่ไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม รวม 4 ประเด็น คือ 1. กรณีที่มีการกล่าว อ้างว่า กลุ่มสิทธิมนุษยชนรายงานว่า ไม่มีการตรวจสอบเรือนจำในเชิงระบบ ซึ่งรวมถึงเรือนจำในมณฑลทหารบกที่ 11 นั้น กสม.ชี้แจงว่า ในปี 2559-2560 กสม.ได้ดำเนินโครงการตรวจเยี่ยมสถานที่เสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั้งห้องขังของสถานีตำรวจและเรือนจำของกรมราชทัณฑ์ ซึ่งรวมถึงเรือนจำชั่วคราวที่ตั้งอยู่ในมณฑลทหารบกที่ 11 โดยข้อมูลจากการตรวจเยี่ยมทั้งหมดจะถูกนำไปวิเคราะห์ เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะนโยบายและหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายเพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนจากสถานที่เสี่ยงต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนต่อไป
          นอกจากนี้ กสม. ยังชี้แจงในประเด็นที่ 2  ต่อกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่า กสม. ได้รับ คำร้องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกกล่าวหา ว่าเป็นผู้กระทำ ละเมิดเพิ่มขึ้นนั้น กสม.ชี้แจงว่า จากการตรวจสอบในฐานข้อมูลเรื่องร้องเรียนในปี 2560 พบว่า จำนวนเรื่องร้องเรียนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกกล่าวหาว่า เป็นผู้กระทำละเมิดนั้น มีจำนวนลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2559 ส่วนประเด็นที่ 3 กรณีที่มีการกล่าวอ้างว่า กสม. ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่สามารถฟ้องคดีเมื่อมีการละเมิดสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้นนั้น กสม. ชี้แจงว่า ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ไม่ปรากฏว่ามีบทบัญญัติที่ให้อำนาจ กสม. ในการเสนอเรื่องและฟ้องคดีต่อศาล แต่สามารถร้องทุกข์หรือกล่าวโทษแทนผู้เสียหายได้ ในกรณีที่การละเมิดสิทธิมนุษยชนเรื่องใดเป็นความผิดอาญา และประเด็นที่ 4 กรณีที่มีการกล่าวอ้างว่า องค์กรพัฒนาเอกชนระบุว่าการกำหนดนิยามของการคุกคามทางเพศที่คลุมเครือ ส่งผลให้การฟ้องร้องเป็นไปได้ยากและนำไปสู่การใช้บังคับกฎหมายที่ไม่มีประสิทธิภาพนั้น กสม.ชี้แจงว่า ประเทศไทยได้ให้ความคุ้มครองผู้ถูกกระทำส่อไปในเรื่องเพศกว้างขวางและครอบคลุมมากขึ้น โดยแบ่งเป็น ระดับการละเมิดต่อจริยธรรม และการกระทำที่เป็นความผิดต่อกฎหมายอาญา.
--จบ--

          --เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 5 ก.ค. 2561 (กรอบบ่าย)--