ชงแก้ก.ม.ใบอนุญาตโรงไฟฟ้า
Source - กรุงเทพธุรกิจ (Th)

Monday, July 23, 2018  05:34
45266 XTHAI XECON XCOMMER XFINSV DAS V%PAPERL P%KT

          ศึกษาธุรกิจสถานีชาร์จ รับรถยนต์ไฟฟ้าเติบโต
          กรุงเทพธุรกิจ "กกพ." เตรียมชง กระทรวงพลังงานแก้ พ.ร.บ.ประกอบกิจการพลังงาน หวังมอบอำนาจโละใบอนุญาต โรงไฟฟ้า คาดว่ามีผลบังคับใช้ปี 2563 พร้อมเดินหน้ารื้อโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่เสร็จสิ้นปีนี้
          นายพรเทพ ธัญญพงศ์ชัย ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ.เตรียมจัดทำแผนการกำกับกิจการพลังงานของประเทศในระยะต่อไป ให้รองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี อย่างรวดเร็ว และการปฏิรูปประเทศ ด้านพลังงานตามแผนปฏิรูปฯ ในระยะเร่งด่วนปี 2561-2562 โดยเตรียมเสนอกระทรวงพลังงานเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในการแก้ไข พ.ร.บ.การประกอบกิจการพลังงาน ปี 2550 ให้อำนาจ กกพ.ในการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกเลิกระบบและหลักเกณฑ์การขออนุญาตจัดตั้งโรงไฟฟ้า จากเดิมที่ ผู้ประกอบการจะต้องยื่นขออนุญาตกับ กรมโรงงานอุตสาหกรรม และสำนักงาน คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เป็นการยื่นขออนุญาตกับสำนักงาน กกพ.ที่เดียวแทน
          นอกจากนี้จะลดจำนวนใบอนุญาตให้เหลือเพียง 1 ประเภท จากปัจจุบันการออก ใบอนุญาตเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน ถึง 4 ใบ ได้แก่ ใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร ดัดแปลงอาคาร หรือรื้อถอดอาคาร (อ.1), ใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้า (รง.4), ใบอนุญาตให้ผลิตพลังงานควบคุม (พค.2) และใบอนุญาตผลิตไฟฟ้า โดยคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในปี 2563
          "ภาพโรงไฟฟ้าในอนาคตจะเปลี่ยนไปจากเดิม การก่อสร้างโรงไฟฟ้าจะมีขนาดเล็กลง กระจายตัวในพื้นที่และใกล้แหล่งเชื้อเพลิงมากขึ้น กกพ.จึงต้องปรับตัวตาม เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก สร้างความคล่องตัว ส่งเสริมการแข่งขัน รองรับแนวทางการปฏิรูปประเทศด้านพลังงาน ที่ต้องการสร้างความชัดเจนในบทบาทภารกิจขององค์กรภาคพลังงาน และเพิ่มบทบาทภาคเอกชนในภาคพลังงานมากขึ้น"
          นอกจากนี้ กกพ.เตรียมประกาศโครงสร้างค่าไฟฟ้าใหม่ที่จะใช้ในช่วง ปี 2561-2563 ในช่วงปลายปี 2561 และอัตราค่าไฟพิเศษ ซึ่งจะครอบคลุม ถึงการประกาศหลักเกณฑ์อัตรา ค่าบริการพิเศษ อัตราค่าบริการ การเชื่อมต่อระบบโครงข่ายพลังงาน ค่าไฟฟ้าเกาะ และค่าบริการสำหรับยานยนต์ไฟฟ้า คาดว่าจะประกาศได้ในต้นปี 2562
          ขณะที่เรื่องของยานยนต์ไฟฟ้ากำลังอยู่ระหว่างศึกษารูปแบบการดำเนินธุรกิจหลากหลายของการประกอบกิจการสถานีอัดประจุไฟฟ้า และประกาศหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องโดยมุ่งเน้นการรองรับการขยายตัวของยานยนต์ไฟฟ้าทั้งระบบ
          รวมถึงจะต้องดำเนินการจัดตั้งศูนย์ข้อมูลสารสนเทศเพื่อการกำกับกิจการพลังงาน และการนำบิ๊กดาต้า ไปใช้ประโยชน์ในภาคพลังงาน ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลโรงไฟฟ้า ข้อมูลปริมาณไฟฟ้ารายภาค ข้อมูลปริมาณไฟฟ้าเชิงพื้นที่ และข้อมูลปริมาณไฟฟ้าแบบ Near Real Time ภายในเดือน ธ.ค.2561
          อีกทั้งจะต้องทบทวนหลักเกณฑ์ ศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการซื้อขายไฟฟ้าผ่านระบบ Block Chain ซึ่งจะได้มีการศึกษา วิเคราะห์ ผ่านการว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญที่เกี่ยวข้องมาศึกษา วิเคราะห์ผลดีผลเสีย ความพร้อมและแนวทางการกำกับดูแล พร้อมทบทวนหลักเกณฑ์และศึกษาความเหมาะสม และความเป็นไปได้เกี่ยวกับการซื้อขายพลังงานภายใต้ รูปแบบ Prosumerization ซึ่งเชื่อมโยง กับกระบวนการซื้อขายไฟฟ้าผ่าน Block Chain ในอนาคต โดยการออกกติกาใหม่ๆ จะต้องใช้เวลาวิเคราะห์รายละเอียด และเปิดรับฟังความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ ด้วย
          นายพรเทพ กล่าวต่อว่า กกพ.ยังต้องพัฒนาบทบาท ภารกิจ การกำกับ เพื่อส่งเสริมการเพิ่มบทบาทภาคเอกชน ในธุรกิจก๊าซธรรมชาติและการนำเข้าก๊าซ LNG โดยได้กำหนดพื้นที่นำร่อง TPA ระบบส่งและระบบจำหน่าย ซึ่ง กกพ.จะต้องกำหนด Code of Conduct ในการบริหารจัดการ รวมทั้งจัดทำโครงสร้างราคาก๊าซธรรมชาติ เพื่อรองรับนโยบายการส่งเสริมการแข่งขันในกิจการ ก๊าซธรรมชาติในอนาคต

          บรรยายใต้ภาพ 
          พรเทพ ธัญญพงศ์ชัย--จบ--

          ที่มา: หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ