โดยในเวลา 10.00 นาฬิกา ตามเวลาท้องถิ่น เป็นการอภิปรายทั่วไป หัวข้อ : “ทางออกของความไม่เท่าเทียมทางเพศในรัฐสภา (Gender inequality in parliaments - what are the solutions?)” ในการนี้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรได้กล่าวอภิปรายต่อที่ประชุมในหัวข้อดังกล่าว โดยมีใจความสำคัญดังนี้
“ เพื่อให้รัฐสภาไทยบรรลุความเท่าเทียมกันทางเพศ คณะกรรมการข้าราชการรัฐสภาได้นำแนวปฏิบัติมาใช้กับส่วนราชการสังกัดรัฐสภาทั้งหมด แนวปฏิบัตินี้มุ่งเน้นไปที่การป้องกันและต่อต้านการล่วงละเมิดทางเพศ และปกป้องเจ้าหน้าที่ทุกคนรวมถึงนักศึกษาฝึกงาน โดยเปิดช่องทางให้สามารถร้องเรียนผ่านช่องทางต่าง ๆ ทั้งที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการเพื่อมุ่งส่งเสริมการสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ผู้ตกเป็นเหยื่อ
           นอกจากนี้ในปี พ.ศ. 2560 รัฐธรรมนูญไทยได้เริ่มใช้แนวคิดเรื่อง การจัดทำงบประมาณที่คำนึงถึงมิติเพศภาวะ (Gender Responsive Budgeting : GRB)  ตั้งแต่นั้นมาสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร โดยสำนักงบประมาณของรัฐสภา ได้ร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายแห่ง รวมถึง UN WOMEN เพื่อให้แน่ใจว่าการจัดสรรงบประมาณจะส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศและยกระดับสิทธิของสตรีได้อย่างมีประสิทธิผล และสภาผู้แทนราษฎรมีคณะกรรมาธิการกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ และผู้มีความหลากหลายทางเพศ  ซึ่งจัดตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของรัฐสภาไทย  เป็นที่น่าสังเกตว่าการพัฒนานี้สอดคล้องกับความพยายามของประเทศไทยในการบรรลุความเท่าเทียมทางเพศในทุกด้าน ดังที่เห็นได้จากการร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต”
ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนั้น คณะผู้แทนไทยฯ ได้เข้าเยี่ยมชมอาคารวุฒิสภา (Shura Council) แห่งราชอาณาจักรบาห์เรน และรับฟังการนำเสนอข้อมูลและโครงสร้างเกี่ยวกับรัฐสภาบาห์เรน

เครดิต : ภาพและข่าว โดย กลุ่มงานสมาคมรัฐสภาและสมาคมเลขาธิการรัฐสภา สำนักองค์การรัฐสภาระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร