|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสำนักงานฯ |
คณะผู้แทนสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ครั้งที่ ๑๓๘ เป็นวันที่สี่
๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 2 ๏ฟฝ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2561
|
เมื่อวันอังคารที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๑ คณะผู้แทนสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ครั้งที่ ๑๓๘ ณ ห้องหมายเลข ๑ ศูนย์การประชุมนานาชาติเจนีวา (CICG) นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส หลังจากที่ประชุมสมัชชาได้จบการอภิปรายทั่วไป (General Debate) ในหัวข้อ "Strengthening the global regime for migrants and refugees: The need for evidence-based policy solutions" ในช่วงเช้า และรับฟังการปาฐกถาพิเศษ ในหัวข้อ "The dangers of weapons of mass destruction" จากองค์ปาฐกรับเชิญ ในช่วง ๑๕.๐๐ น. เมื่อเวลา ๑๖.๐๐ น. ที่ประชุมสมัชชาฯ พิจารณาวาระรับรองร่างข้อมติวาระเร่งด่วนภายใต้หัวข้อเรื่อง The consequences of the US declaration on Jerusalem and the rights of the Palestinian people in Jerusalem in the light of the UN Charter and resolutions ซึ่งที่ประชุมได้ลงมติเลือกให้เป็นหัวข้อระเบียบวาระเร่งด่วนเมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๑ โดยที่ประชุมสมัชชาฯ ได้ร่วมกันอภิปรายในช่วงเช้าของวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๑ และคณะกรรมการยกร่างข้อมติเร่งด่วน (drafting committee on emergency item) ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจาก ๗ ประเทศจากกลุ่มภูมิรัฐศาสตร์ทั้ง ๖ กลุ่ม ได้ประชุมเพื่อร่วมกันยกร่างข้อมติดังกล่าวในช่วงบ่ายของวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๑
อย่างไรก็ดี ประเทศสมาชิกหลายประเทศได้พิจารณาเนื้อหาของร่างข้อมติระเบียบวาระเร่งด่วนแล้ว ไม่เห็นด้วยกับการใช้ถ้อยคำในบางจุดที่ปรากฎในร่างข้อมติดังกล่าว และแสดงท่าทีจะตั้งข้อสงวนต่อร่างข้อมตินี้ ซึ่งหากมีการตั้งข้อสงวนจำนวนมาก อาจส่งผลต่อการบรรลุฉันทามติของที่ประชุมสมัชชาที่จะใช้ในรับรองร่างข้อมติฉบับนี้ รัฐสภาสมาชิกบางประเทศจึงเสนอให้พิจารณาเลื่อนการรับรองร่างข้อมติเพื่อให้คณะกรรมการยกร่างข้อมตินำร่างข้อมติกลับไปทบทวนเนื้อหา และนำร่างข้อมติฉบับปรับปรุงมาเสนอต่อที่ประชุมในวันถัดไป ดังนั้น Ms. Gabriela Cuevas Barron ประธานสหภาพรัฐสภา ในฐานะประธานการประชุม จึงขอให้ที่ประชุมลงมติ ใน ๒ ทางเลือก คือ (๑) เห็นชอบให้รับรองร่างข้อมติทันที หรือ (๒) เห็นชอบให้เลื่อนการรับรองร่างข้อมติ และนำร่างข้อมติมาเสนอต่อที่ประชุมในวันถัดไป ทั้งนี้ ตามธรรมเนียมปฏิบัติที่ผ่านมา ที่ประชุมสมัชชาจะหลีกเลี่ยงการลงคะแนนเสียงเพื่อรับรองร่างข้อมติต่าง ๆ แต่จะแสวงหาฉันทามติเพื่อรักษาเอกภาพและท่าทีหนึ่งเดียวที่ประเทศสมาชิกของสหภาพรัฐสภาพึงแสดงร่วมกัน โดยหากรัฐสภาสมาชิกประเทศใดประสงค์จะตั้งข้อสงวนก็สามารถกระทำได้ผลการลงมติปรากฏว่า เสียงข้างมากของที่ประชุมสมัชชามีมติเห็นชอบให้รับรองร่างข้อมติทันที ด้วยคะแนนเสียง ๔๘ ต่อ ๓๖ ดังนั้น Mr. Martin Chungong เลขาธิการสหภาพรัฐสภา จึงขอให้ที่ประชุมร่วมกันรับรองร่างข้อมติระเบียบวาระเร่งด่วนดังกล่าวด้วยฉันทามติ (consensus) ตามประเพณีปฏิบัติของสหภาพรัฐสภาที่ผ่านมาและอนุญาตให้มีการตั้งข้อสงวนได้ ทั้งนี้ นายอนุศาสน์ สุวรรณมงคล ผู้แทนสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้กล่าวต่อที่ประชุมว่าประเทศไทย ไม่ได้คัดค้านหรือตั้งข้อสงวนใด ๆ ต่อร่างข้อมติดังกล่าว เพียงแต่ต้องการยืนยันท่าทีของไทยที่ดำรงมาอย่างยาวนาน ในการสนับสนุนแนวทาง two-state solution ของเลขาธิการสหประชาชาติ ต่อกรณีนครเยรูซาเล็ม ซึ่งรวมถึงข้อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติฉบับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย |
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐
Call Center ๑๗๔๓ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐
e-Mail : webmaster@parliament.go.th [ คลิกดูแผนที่]
|
|
|
|