เมื่อวันที่ ๑๖ ม.ค.๖๒ ณ ราชอาณาจักรกัมพูชา นางสุวรรณี สิริเวชชะพันธ์
สมาชิก สนช. ในฐานะผู้แทนไทย ในการประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชีย
และแปซิฟิก (APPF) ครั้งที่ ๒๗ ได้กล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุมเต็มคณะวาระที่ ๓ หัวข้อ การเสริมสร้างบทบาทรัฐสภาในการตอบสนองต่อการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโดยกล่าวถึงความสำคัญของปัญหาการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีความซับซ้อนและเกี่ยวพันกับหลายมิติ
และกล่าวถึงบริบทการดำเนินงานของไทย ซึ่งมีการดำเนินงานเพื่อบรรลุตาม เป้าหมายสากล อีกทั้งประเทศไทยได้น้อมนำหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นแนวทาง โดยเน้นความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ ได้กล่าวถึงตัวอย่างการดำเนินงานของ สนช. ชุดปัจจุบันในการ ปรับแก้ไขและออกกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ (ฉบับที่ ๔)
พ.ศ. ๒๕๕๙ และพระราชบัญญัติสวนป่า (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๕๘ เป็นต้น
ทั้งนี้ ได้กล่าวถึงความจำเป็นในการดำเนินการอย่างเร่งด่วนและความร่วมมือกัน
ของภาคส่วนต่าง ๆ ในระดับนานาชาติและระดับประเทศ
โดยในฐานะสมาชิกรัฐสภาสามารถมีส่วนร่วมในด้านการเห็นชอบ งบประมาณและการสนับสนุนด้านนิติบัญญัติ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่ารัฐบาล ได้ให้ความสำคัญในประเด็นสิ่งแวดล้อมในนโยบายการพัฒนาและ
การดำเนินการในทุกระดับให้เกิดความยั่งยืน อีกทั้งเปิดโอกาสให้
กลุ่มที่เกี่ยวข้องเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการวางแผนและตัดสินใจ เพื่อความผาสุกของชุมชนนั้น ๆ ด้วยความร่วมมือจากทุกภาคส่วนจะสามารถ
ทำให้โลกนี้เป็นโลกที่สวยงามในการประชุมเต็มคณะ วาระที่ ๓
ด้านความร่วมมือในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ศ.นิสดารก์ เวชยานนท์ สมาชิก สนช. ผู้แทนไทยในการ ประชุมประจำปีรัฐสภาภาคพื้นเอเชียและแปซิฟิก ครั้งที่ ๒๗
ได้กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุม หัวข้อ การยกระดับความร่วมมือ ระหว่างรัฐสภาเพื่อส่งเสริมความหลากหลายทางวัฒนธรรมและ
การท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก โดยกล่าวถึงความสำคัญ ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมซึ่งองค์การระหว่างประเทศทั้งในระดับ โลกและภูมิภาคตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องดังกล่าวและได้สร้าง มาตรฐานสากลเพื่อให้แต่ละประเทศเคารพวัฒนธรรมที่หลากหลายและมี นโยบายที่สมดุลระหว่างการแสวงหากำไรกับการคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรม พร้อมทั้งสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชนท้องถิ่นในส่วนของประเทศไทย
ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยสอดคล้องกับ องค์การระหว่างประเทศและหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และส่งเสริม ความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวกับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งในระดับภูมิภาคขณะที่ภาคนิติบัญญัติได้ทบทวนและออกกฎหมาย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและวัฒนธรรม รวมถึงตั้งคณะกรรมาธิการการ ศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยว เพื่อดูแลในเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ หวังว่าในช่วงที่ไทยเป็นประธาน ASEAN จะสามารถส่งเสริมความร่วมมือระหว่าง ASEAN ให้แข็งแกร่งมากขึ้น เพื่อสร้างความหลากหลายทาง วัฒนธรรม ซึ่งจะดึงดูดนักท่องเที่ยวได้มากยิ่งขึ้น และส่งเสริมความสัมพันธ์ ระหว่างประเทศในช่วงท้าย คณะผู้แทนไทย ได้เข้าร่วมในพิธีปิด การประชุม โดยมีการรายงานผลการประชุม การลงนามใน แถลงการณ์ร่วม และร่วมเป็นสักขีพยานในการรับมอบธงจากประเทศ เจ้าภาพให้กับประเทศเจ้าภาพ APPF ครั้งที่ ๒๘ ต่อไป คือ ออสเตรเลีย
เครดิต : ภาพและข่าวโดยสำนักองค์การรัฐสภาระหว่าง ประเทศสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร |