เมื่อวันที่ ๙ เมษายน ๒๕๖๒ ณ ศูนย์การประชุม Sheraton Convention Center
กรุงโดฮา รัฐกาตาร์ คณะผู้แทน สนช. เข้าร่วมการประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา ครั้งที่ ๑๔๐
และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๖ - ๑๐ เมษายน ๒๕๖๒ เป็นวันที่ ๔ โดยในการ
ประชุมดังกล่าว ที่ประชุมสมัชชาฯ ได้มีการอภิปรายทั่วไป (General Debate) ในหัวข้อ
"Parliaments as platforms to enhance education for peace, security and
the rule of law" ในโอกาสนี้ นายกิตติ วะสีนนท์ สมาชิก สนช. ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนฯ
ได้ขึ้นกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาฯ เมื่อเวลา ๑๒.๑๕ น. โดยได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบ
ถึงหมายกำหนดการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ระหว่างวันที่ ๔ - ๖ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ซึ่ง
เป็นวโรกาสมหามงคลสำหรับปวงชนชาวไทย
จากนั้น ได้แจ้งให้ทราบถึงการเลือกตั้งทั่วไป เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญ
ของไทยในการปฏิบัติตามโรดแม็ปสู่การมีประชาธิปไตยที่เข้มแข็งและยั่งยืนต่อไป ส่วนวาระที่ไทย
เป็นประธานอาเซียนจะอยู่ภายใต้ theme: "Advancing Partnership for Sustainability"
เพื่อผลักดัน SDGs ในภูมิภาค และรัฐสภาไทยในฐานะประธาน AIPA จะเป็นเจ้าภาพ
จัดการประชุมในกรอบนี้ รวมทั้งการประชุม AIPACODD ที่ จ.เชียงใหม่เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา
และการประชุม AIPA-ASEAN Interface ในเดือน มิถุนายน ๒๕๖๒ และการประชุม AIPA
General Assembly ในเดือน สิงหาคม ๒๕๖๒ ตามลำดับ
ทั้งนี้ สนช. ได้สนับสนุนให้จัดตั้ง ASEAN Center for SD Studies and Dialogue ในประเทศไทย
ภายในปีนี้สำหรับด้านการศึกษา ไทยได้ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นตัวชี้นำ รวมทั้งในการ
ปฏิบัติตามเป้าหมาย ที่ ๔ ของ SDGs ว่าด้วยการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม
โดยนอกจากจะได้น้อมนำมาบรรจุในรัฐธรรมนูญ ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการศึกษาแห่งชาติ ๒๐ ปี
แล้ว ยังได้จัดตั้งสถานศึกษาพอเพียงและศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงกว่า ๒๑,๐๐๐
แห่งทั่วประเทศอีกด้วย
นอกจากนี้ สนช. ยังมีบทบาทในการขับเคลื่อนการศึกษาของไทย รวมทั้งการผ่านกฎหมายสำคัญ
เช่น พ.ร.บ. กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ พ.ร.บ. การพัฒนาเด็กปฐมวัย และ
ร่าง พ.ร.บ. จัดตั้งกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ฯลฯ อนึ่ง สนช. ได้ผลักดัน
วาระการพัฒนาที่ยั่งยืนในทุกมิติ รวมทั้งร่วมมือกับองค์การอนามัยโลก (WHO) ในการจัดตั้งเครือข่าย
สมาชิกรัฐสภาเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน ระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้สำเร็จอีกด้วย
เครดิต : ภาพและข่าวโดย สำนักองค์การรัฐสภาระหว่างประเทศ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร
|