วันจันทร์ที่ ๒๙ ธันวาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๔.๓๐ นาฬิกา ณ บริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา ๑ นายอลงกรณ์ พลบุตร นายวันชัย สอนศิริ และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ในฐานะคณะผู้แถลงข่าวของสภาปฏิรูปแห่งชาติ แถลงถึงภารกิจของสภาปฏิรูปแห่งชาติในปี ๒๕๕๘ ซึ่งถือเป็นปีแห่งการปฏิรูปและเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลง โดยกำหนดภารกิจสำคัญของสภาปฏิรูปแห่งชาติไว้ ๒ เรื่องได้แก่
๑. เรื่องการยกร่างรัฐธรรมนูญ โดยรัฐธรรมนูญฉบับที่กำลังยกร่างอยู่ในขณะนี้ ต้องเป็นรัฐธรรมนูญที่มีความเป็นประชาธิปไตยมากที่สุด และขจัดความไม่เป็นธรรมในสังคม
๒. ต้องปฏิรูปประเทศเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งทางโครงสร้าง และระบบ โดยผลักดันให้เกิดการขับเคลื่อนใน ๔ ด้าน ดังต่อไปนี้
(๑) ภาครัฐ โดยกำหนดการจัดทำวิสัยทัศน์และออกแบบอนาคตประเทศ ดำเนินการจัดการ workshop การจัดทำวิสัยทัศน์ฯ เป็นครั้งที่ ๒ เพื่อจัดทำกรอบพิมพ์เขียวในการปฏิรูปประเทศทั้ง ๑๘ ด้าน นอกจากนั้นแล้วยังผลักดันเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนในการปฏฺิรูปประเทศ โดยแบ่งเป็น การปฏิรูปเร่งด่วน (quick win) การปฏิรูปภายใน ๑ ปี และการปฏิรูปอย่างยั่งยืน ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับที่กำลังยกร่างอยู่ในขณะนี้ ต้องเป็นโครงสร้างรัฐธรรมนูญที่มีความเป็นประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง มั่นคง ที่เหมาะสมกับสังคม
- รัฐธรรมนูญจะต้องมีมาตรการป้องกันการทุจริตคอรัปชั่น การประพฤติมิชอบในวงราชการอย่างชัดเจน และมีความเป็นรูปธรรม
- รัฐธรรมนูญต้องบัญญัติมาตรการในการป้องกันการทุจริตประพฤติมิชอบไว้อย่างชัดเจน มีระบบตรวจสอบการใช้งบประมาณ และบุคคลที่ทุจริตคอรัปชั่นจะต้องไม่มีสิทธิในทางการเมืองอีกต่อไป ซึ่งสิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญให้มีความชัดเจน และให้มีมาตรการที่เป็นรูปธรรม
- ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และบุคคลที่เกี่ยวข้องกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ต้องปฏฺิบัติหน้าที่ได้อย่างอิสระ ปราศจากการครอบงำจากนักการเมืองและระบบทุนนิยม
- ปฏิรูปกระบวนการตำรวจ ระบบตำรวจ และกระบวนการยุติธรรม ทั้งนี้กระบวนการในการปฏิรูปจะเป็นไปอย่างมีนัยยะสำคัญ และเป็นไปตามที่คณะกรรมาธิการฯ ได้นำเสนอต่อสื่อมวลชน ประชาชนจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในเรื่องดังกล่าว ภายใน ๓ เดือนนับจากนี้
- กระจายอำนาจรัฐ โดยให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมมากที่สุด
- การใช้งบประมาณของรัฐต้องเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลมากที่สุด ต้องเป็นการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า ป้องกันการใช้งบประมาณเพื่อโครงการประชานิยม มีระบบตรวจสอบการใช้งบประมาณอย่างเข้มแข็ง
- ผลักดันให้เกิดสมัชชาคุณธรรม จริยธรรม และระบบธรรมาภิบาล
(๒) ภาคเอกชน มีประเด็นสำคัญในการขับเคลื่อนภาคเอกชน และระบบเศรษฐกิจ ๔ ประเด็นคือ
- กำหนดยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจของประเทศไว้อย่างชัดเจน เพื่อขับเคลื่อนภาคเอกชนให้มีการแข่งขันอย่างมีมาตรฐาน
- ยกระดับภาคเกษตร อุตสาหกรรม พาณิชย์ และการบริการ นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมต่างๆ มาใช้
- การแข่งขันของภาคเศรษฐกิจต้องมีความเข้มงวด และยึดโยงกับกฎมาย ปรับปรุงกฎหมายการแข่งขันให้มีความเป็นธรรมและทันสมัย
- ผลักดันให้ภาคเอกชนที่มีศักยภาพให้มาช่วยพัฒนาประเทศ
(๓) ภาคประชาสังคม
(๔) ภาคการเมือง
สำหรับการปฏิรูปเร่งด่วน (quick win) และการปฏิรูปภายใน ๑ ปีนั้น จะผ่านการพิจารณาในการประชุมสภาปฏิรูปแห่งชาติที่มีขึ้นในทุกวันจันทร์และอังคารของทุกสัปดาห์ โดยในวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๕๘ จะเป็นการพิจารณาการปฏฺิรูปเร่งด่วน ในประเด็นต่าง ๆ อาทิ การส่งเสริมโซลาร์รูฟ และการคิดค่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามจริงเป็นวินาที ฯ |