|
|
|
ปฏิทินกิจกรรม |
« |
พฤศจิกายน 2567 |
» |
อา. |
จ. |
อ. |
พ. |
พฤ. |
ศ. |
ส. |
| | | | |
1 |
2 |
3 |
4 |
5 |
6 |
7 |
8 |
9 |
10 |
11 |
12 |
13 |
14 |
15 |
16 |
17 |
18 |
19 |
20 |
21 |
22 |
23 |
24 |
25 |
26 |
27 |
28 |
29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
ดูปฏิทินทั้งหมด |
|
|
|
|
|
e-Mail@parliament.go.th |
|
|
|
|
|
วีดิทัศน์สภาปฏิรูปแห่งชาติ |
|
|
|
|
|
|
-
กรอบการดำเนินงานสปช.
|
|
|
|
|
|
ห้องข่าว >> ภาพข่าว >> ภาพข่าวสภาปฏิรูปแห่งชาติ |
รองประธานกรรมการศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแถลงถึงผลการเข้าพบอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อขอคำปรึกษาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องแนวทางการใช้กระบวนการยุติธรรมเพื่อสร้างความปรองดอง
๏ฟฝัน๏ฟฝ๏ฟฝ๏ฟฝ 12 ๏ฟฝ.๏ฟฝ. 2558
|
วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เวลา ๑๒.๒๐ นาฬิกา ณ บริเวณห้องโถง ชั้นล่าง อาคารรัฐสภา ๑ นายบุญเลิศ คชายุทธเดช รองประธานกรรมการศึกษาแนวทางสร้างความปรองดอง สภาปฏิรูปแห่งชาติ (คศป.) ได้แถลงถึงผลจากการเข้าพบนายวิทยา สุริยะวงศ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เพื่อขอคำปรึกษาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเรื่องแนวทางในการใช้กระบวนการยุติธรรมเพื่อสร้างความปรองดอง เนื่องด้วยทางคศป. กำลังจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายและกฎหมายว่าด้วยแนวทางในการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ให้ควบคู่กับการปฏิรูปด้วยกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับผลกระทบจากการชุมนุมที่มีสาเหตุจากความขัดแย้งทางการเมืองในรอบ ๑๐ ปีที่ผ่านมา คือกลุ่มผู้ต้องขังที่มีคดีเกี่ยวข้องกับการชุมนุม ซึ่งทาง คศป. เล็งเห็นว่าควรมีการวางหลักเกณฑ์ กำหนดขอบเขตในการแยกแยะและปฏิบัติต่อคดีที่เป็นอาชญากรรมในเนื้อที่ กับคดีที่เกิดจากเหตุจูงใจทางการเมือง ซึ่งจะทำให้เห็นว่าในแต่ละกรณีควรมีวิธีการและทางเลือกในการอำนวยความยุติธรรมอย่างไรได้บ้างที่สอดคล้องกับหลักนิติธรรม ซึ่งอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้ให้ข้อคิดว่าการชุมนุมทางการเมืองในประเทศไทยที่ผ่านมามีความซับซ้อน มีผู้เข้าร่วมหลากหลายกลุ่มที่ใช้วิธีการต่าง ๆ เพื่อเรียกร้องความต้องการทางการเมือง ด้วยวิธีการต่าง ๆ แม้การกระทำนั้นเป็นการละเมิดกฎหมายแต่ในสารระบบของกระบวนการยุติธรรมไทยไม่มีคำนิยามของ "คดีทางการเมือง" ดังนั้น คดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมที่มีการละเมิดกฎหมายไม่ว่าจะเป็นในส่วนที่มีการใช้อาวุธหรือไม่ จึงเข้าไปอยู่ในสารระบบของคดีอาญา ผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมทางการเมืองเพื่อเรียกร้องความต้องการทางการเมืองในเชิงอุดมการณ์ไม่ได้เป็นอาชญากร ดังนั้นจึงต้องมีการพิจารณาที่มูลเหตุและเจตนาของการกระทำ ว่ามีความประสงค์ร้ายหรือไม่ มาร่วมชุมนุมเพื่ออะไร แล้วได้รับผลอย่างไร แต่ถ้ามีการพิจารณาผ่อนผันทางคดีสิ่งที่ต้องตอบสังคมให้ได้คือจะทำให้เกิดประโยชน์กับส่วนร่วมได้อย่างไร และจะมีหลักประกันว่าไม่มีการไปกระทำผิดซ้ำอีกหรือไม่ |
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร Call Center 1743 ถนนอู่ทองใน เขตดุสิต กรุงเทพฯ 10300 โทร 0 2244 1000 e-Mail : webmaster@parliament.go.th |
|
จำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ |
|
(เริ่มนับ 2 ต.ค. 57) |
|
|
|