รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง พร้อมด้วย สส.พรรคเพื่อไทย รับการแสดงความยินดีและรับยื่นหนังสือจากนายวินัย สังขวรรณะ ประธานสมาพันธ์ครูลูกหนี้ 4 ภาค และคณะ เพื่อขอความอนุเคราะห์ให้รัฐบาลมีนโยบายในการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูให้เป็นนโยบายของรัฐและมีมาตรการที่จะแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมและจริงจัง

วันอังคารที่ 12 กันยายน 2566 เวลา 09.50 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง พร้อมด้วย สส.พรรคเพื่อไทย รับการแสดงความยินดีและรับยื่นหนังสือจากนายวินัย สังขวรรณะ ประธานสมาพันธ์ครูลูกหนี้ 4 ภาค และคณะ เพื่อขอความอนุเคราะห์ให้รัฐบาลมีนโยบายในการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูให้เป็นนโยบายของรัฐและมีมาตรการที่จะแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมและจริงจัง สืบเนื่องจากข้าราชการครูที่ยังปฏิบัติราชการอยู่และเกษียณอายุราชการแล้วมีชีวิตอยู่ด้วยความยากลำบากด้วยปัญหาหนี้สินที่พอกพูนขึ้นด้วยเหตุปัจจัยต่าง ๆ อาทิ 1. การบรรจุเป็นข้าราชการครั้งแรกเงินเดือนน้อยกว่าเงินเดือนของเอกชน 1 - 2 เท่าตัว และกว่าเงินเดือนจะออกต้องคอยเงินเดือนตกเบิกเป็นเวลานานหลายเดือนจึงต้องกู้ยืมเงินนอกระบบด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงเพื่อนำมาใช้จ่ายให้ผ่านไปก่อนในแต่ละเดือน การเริ่มกู้เงินจากสหกรณ์ออมทรัพย์ครูเพื่อนำมาใช้ในเรื่องการซื้อพาหนะเพื่อเดินทางไปปฏิบัติงานในชนบทห่างไกล 2. เมื่อมีครอบครัวก็มีความจำเป็นที่จะต้องมีบ้านสำหรับเป็นที่อยู่อาศัยมีรถเป็นยานพาหนะเพื่อประโยชน์ต่อการเดินทางซึ่งเป็นรถที่ข้าราชการครูจะต้องผ่อนชำระแต่รถของข้าราชการครูเหล่านี้นอกจากจะใช้ประโยชน์เพื่อส่วนตัวแล้วก็ยังได้นำไปใช้ในภารกิจของโรงเรียนอีกด้วย ประกอบกับมีค่าใช้จ่ายในเรื่องของค่าน้ำมันและค่าซ่อมบำรุงทำให้เป็นภาระที่มากพอสมควรลำพังเงินเดือนก็มีไม่มากพอทำให้ไม่สามารถแบกภาระหนี้ได้จึงได้มีการกู้ยืมเงินสวัสดิการจากสหกรณ์ฯ ทั้งเงินกู้สามัญและเงินกู้ฉุกเฉิน 3. สาเหตุที่ทำให้เป็นหนี้อีกประการหนึ่งคือภาระดอกเบี้ยที่ทางสหกรณ์ฯ ที่ทางธนาคารกำหนดไว้สูงกว่าดอกเบี้ยของเงินกู้สวัสดิการทำให้ครูที่เป็นลูกหนี้ของสหกรณ์ฯ และธนาคารต้องแบบรับภาระดอกเบี้ยที่สูงทั้งที่สหกรณ์ฯ และธนาคารสามารถเรียกเก็บเงินชำระหนี้ได้จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาโดยตรง ปัจจุบันสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสามารถหักชำระหนี้ให้กับสหกรณ์ฯ เท่านั้น 4. การกู้เงินในแต่ละครั้งไม่ว่าจะเป็นการกู้เงินกับสหกรณ์ฯหรือการกู้เงินกับธนาคารจำเป็นต้องมีผู้ค้ำประกันซึ่งเป็นข้าราชการครูด้วยกัน มีครูจำนวนมากที่เป็นลูกหนี้แต่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ ดังนั้นครูที่เป็นผู้ค้ำประกันจึงต้องตกเป็นจำเลยและต้องยอมรับสภาพหนี้ตลอดจนถูกฟ้องจากสำนักงานบังคับคดี ซึ่งหนี้เหล่านี้ไม่ใช่หนี้สินของตัวเอง แต่เป็นผู้ค้ำประกันจึงต้องดิ้นรนหาเงินมาไถ่ถอนจากสำนักงานบังคับคดีทำให้มีหนี้สินมากยิ่งขึ้น 5. ข้าราชการครูส่วนใหญ่มีฐานะทางเศรษฐกิจปานกลางเมื่อมีครอบครัวก็อยากให้ลูกได้เรียนหนังสือที่ดีจึงได้มีการกู้เงินเพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายให้ลูกได้เรียนหนังสือตลอดจนมีพ่อแม่ที่แก่ชราก็ต้องดูแรักษาอาการเจ็บป่วย 6. ครูเป็นบุคคลสาธารณะเป็นที่เคารพของคนในชุมชนเมื่อมีงานทุกงานในชุมชนไม่ว่าจะเป็นงานบุญ หรืองานศพ ครูจะต้องร่วมงานและมีการใส่ซองร่วมทำบุญ ร่วมบริจาค หรือที่เรียกว่าภาษีสังคม ซึ่งในแต่ละเดือนนั้นก็มีงานเป็นจำนวนมาก ครั้นเมื่อถึงเวลาเกษียณอายุราชการเงินเดือนและเงินประจำตำแหน่งที่เคยได้รับก็รถน้อยลงและถูกตัดไปทำให้มีเงินที่จะชำระหนี้ให้กับสหกรณ์ฯ และธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้ไม่เพียงพอหลายคนถูกฟ้องในฐานะผู้ค้ำประกันจึงทำให้ยอดหนี้สูงขึ้นไปอีกทำให้ตกอยู่ในฐานะเป็นบุคคลที่มีหนี้สินไม่สามารถที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ ซึ่งที่ผ่านมาครูถูกสหกรณ์ฯ และธนาคารยื่นฟ้องจนถูกสำนักงานบังคับคดีขายทอดตลาดทรัพย์สินได้ทำให้เป็นบุคคลไร้บ้าน เป็นคนไข้นอนติดเตียง เงินเดือนที่ได้รับทุกเดือนที่เป็นเงินบำนาญถูกนำไปชำระหนี้สินจนหมดไม่เหลือ ทั้งที่ระเบียบของกระทรวงศึกษาธิการได้กำหนดให้เหลือไว้ร้อยละ 30 เพื่อให้มีไว้ดำรงชีวิตแต่ก็ถูกสหกรณ์ฯ บังคับให้ถูกหักเงินในส่วนร้อยละ 30 ไปชำระหนี้เพิ่มเติมอีก หากไม่ยินยอมสหกรณ์เค้าจะใช้กฎหมายบังคับดำเนินคดีหรือตัดสิทธิ์ในการเป็นสมาชิก ขณะนี้ครูที่เป็นลูกหนี้ทั่วประเทศเหมือนกับเป็นคนที่ไม่มีชีวิต ไม่มีจิตใจ มีชีวิตอยู่ไปวัน ๆ ความหวังของครูลูกหนี้ทั้งประเทศเริ่มมีหวังเมื่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีได้ประกาศที่จะแก้ไขปัญหาหนี้สินครู ตำรวจและสหกรณ์ฯ ด้วยการพักชำระหนี้ ซึ่งนับเป็นข่าวดีแต่ที่ผ่านมานั้นการพักชำระหนี้เป็นเพียงการแก้ปัญหาชั่วคราว เมื่อครบระยะเวลาพักชำระหนี้ครูลูกหนี้กลับมีหนี้เพิ่มขึ้น ทางสมาพันธ์ครูลูกหนี้ 4 ภาคซึ่งเป็นตัวแทนของพี่น้องครูลูกหนี้ทั่วประเทศ ได้มีมติเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ขอความอนุเคราะห์จากรัฐบาลโปรดช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินครูเพื่อให้ได้รับการบรรเทาความเดือดร้อนโดยเร็ว ในโอกาสนี้ ขอมอบของที่ระลึกให้แก่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงความขอบคุณที่ได้เห็นความสำคัญของกลุ่มลูกหนี้ครู และมีนโยบายในการช่วยเหลือเยียวยา รู้สึกมีกำลังใจและดีใจที่รัฐบาลได้เห็นความสำคัญของปัญหานี้