|
|
วันพุธที่ 29 พฤศจิกายน 2566 เวลา 13.30 นาฬิกา ณ จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายศักดินัย นุ่มหนู ประธานคณะ กมธ. การเกษตรและสหกรณ์ และคณะ รับยื่นหนังสือจากนายไทกร พลสุวรรณ เพื่อขอให้ตรวจสอบการทำลายเนื้อสุกรผิดกฎหมาย จำนวน 4,500 ตันของกรมปศุสัตว์ ซึ่งมีพฤติกรรมส่อพิรุธน่าสงสัย ตามที่กรมสอบสวนคดีพิเศษได้ดำเนินการยึดเนื้อสุกรเถื่อนจำนวน 161 ตู้คอนเทนเนอร์ มีปริมาณเนื้อสุกรเถื่อน ประมาณ 4,500 ตัน หรือมากกว่า 4,500,000 กิโลกรัม โดยตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมดเก็บไว้ที่ท่าเรือแหลมฉบังจังหวัดชลบุรี ตามขั้นตอนทางกฎหมายของกลางในคดีให้จัดการ โดยหนึ่งจำหน่าย สองทำลายทิ้งกรมสอบสวนคดีพิเศษ และกรมปศุสัตว์ เลือกวิธีการทำลายทิ้ง และจากการชี้แจงของกรมปศุสัตว์อ้างว่ามีเนื้อสุกรนำเข้าผ่านแดนไปยังประเทศที่ 3 อาจมีเชื้อโรคระบาดสัตว์ ที่สามารถระบาดได้ไกลถึง 259 กิโลเมตร จึงถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อการเลี้ยงสัตว์ และการทำปศุสัตว์ในประเทศ จากที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกรมปศุสัตว์ เลือกวิธีการทำลายเนื้อสุกรเถื่อนทิ้งโดยจัดการกลบ ฝัง ได้สร้างความเดือดร้อนด้านมลพิษทางอากาศและมลพิษในน้ำใต้ดินจนเกิดเหตุประชาชนในพื้นที่ประท้วง เช่น กรณี ต. คลองไก่เถื่อน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว หรือ กรณี ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ทำให้กรมปศุสัตว์ได้เสนอให้มีการฝังกลบเนื้อสุกรจำนวน 4,500 ตันนี้ในทางลับ โดยไม่เปิดเผยว่าเอาไปฝังที่ไหน ฝังไปจำนวนเท่าใด โดยวิธีการปิดบังซ่อนเร้น อำพราง การฝังกลบเนื้อสุกรจำนวนมากกว่า 4.5 ล้านกิโลกรัม จึงเป็นพฤติกรรมน่าสงสัย เหตุเพราะ 1. การดำเนินการนี้ กระทบต่อสิ่งแวดล้อม สร้างมลพิษจึงต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 และ พ.ศ. 2561 2. การดำเนินการนี้ต้องเป็นไปตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2540 3. กฎกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการกำจัดมูลฝอยติดเชื้อ พ.ศ.2564 เมื่อเป็นการกระทำการกลบฝังในทางลับ ประชาชนจะมั่นใจได้อย่างไรว่าเป็นการกลบฝังที่ถูกต้องตามหลักการป้องกันโรคระบาดหรือไม่ และที่สำคัญจะมั่นใจได้อย่างไรว่าจะมีการกลบฝังเนื้อสุกรทั้งหมดจำนวนมากกว่า 4.5 ล้านกิโลกรัม จะมีการกลบฝังเพียงส่วนหนึ่ง แล้วนำส่วนที่เหลือออกมาเวียนขายในตลาดหรือไม่ เทียบเคียงกับตำรวจบางนายที่จับยาเสพติด และก็นำยาเสพติดของกลางออกมาเวียนขายใหม่ ยิ่งเป็นที่ระแวงสงสัยคือ ยังมีหัวหน้าใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบนำเข้าเนื้อเถื่อนอยู่ร่วมปฏิบัติการฝังกลบทางลับนี้ ดังนั้น เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนจึงขอให้คณะ กมธ. ได้ใช้อำนาจหน้าที่ดำเนินการสืบหาข้อเท็จจริงและดำเนินการตรวจสอบการกระทำในกรณีดังกล่าวว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ และไม่เป็นการยักยอกเอาเนื้อสุกรไปขายตามที่มีการตั้งข้อสงสัยไว้ นอกจากนี้ ยังมีประเด็นการโยกย้ายอธิบดีดีเอสไอที่มีความน่าสงสัย ตลอดจนผู้มีส่วนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ พี่น้องประชาชนจึงต้องมาขอความอนุเคราะห์คณะกมธ. เพื่อพิจารณาตรวจสอบเรื่องนี้ให้มีความโปร่งใส และพิสูจน์หาข้อเท็จจริงโดยเร็ว
นายศักดินัย นุ่มหนู กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า จะนำเรื่องนี้บรรจุเข้าสู่วาระการประชุม และจะเชิญตัวแทนจากดีเอสไอตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมประชุมเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป โดยทางคณะ กมธ. จะติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด |
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ๑๑๑๑ ถ.สามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ ๑๐๓๐๐
Call Center ๑๗๔๓ โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ โทรสาร ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๙๐
e-Mail : webmaster@parliament.go.th [ คลิกดูแผนที่]
|
|
|
|