วันจันทร์ที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๕.๔๕ นาฬิกา ณ บริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา ๑ นายประสาร มฤคพิทักษ์ โฆษกกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง แถลงข่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการปฏิรูปการเมือง ครั้งที่ ๓/๒๕๕๗ ว่าที่ประชุมได้มีการพิจารณาศึกษา วิเคราะห์ จัดทำแนวทาง และข้อเสนอแนะในการปฏิรูประบบพรรคการเมือง และการปฏิรูปการเรียนรู้ การปรองดอง และการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน โดยมีผลการพิจารณา ดังนี้
เรื่องที่หนึ่ง พิจารณาศึกษา วิเคราะห์ จัดทำแนวทาง ข้อเสนอแนะในการปฏิรูประบบพรรคการเมือง ในเบื้องต้นที่ประชุมได้มีการพิจารณาข้อเสนอแนะในการปฏิรูปพรรคการเมือง โดยเห็นสมควรบรรจุประเด็นการปฏิรูปไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ ดังนี้
๑. พัฒนาสถาบันพรรคการเมืองให้เข้มแข็ง โดยสมาชิกพรรคต้องมีส่วนร่วมและตรวจสอบได้
ความเห็นของที่ประชุม การส่งสมาชิกพรรคลงรับสมัครเลือกตั้งต้องได้รับความเห็นชอบของสมาชิกพรรคการเมืองในพื้นที่เลือกตั้งนั้นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้นายทุนเข้ามาแทรกแซง
๒. พรรคการเมืองมีหน้าที่พิทักษ์ผลประโยชน์แห่งชาติ
ประเด็นดังกล่าว ที่ประชุมยังต้องมีการพิจารณารายละเอียดแนวทางการปฏิรูปเพิ่มเติม
๓. การยุบพรรคกระทำได้เฉพาะกรณีหัวหน้าพรรคหรือกรรมการบริหารพรรคมีการกระทำผิดตามบทบัญญัติมาตรา ๒๓๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ เนื่องจากเห็นว่า ในอดีตที่ผ่านมา การยุบพรรคการเมืองไม่สมารถแก้ไขปัญหาได้ แต่ถือเป็นความรับผิดเฉพาะตัวของหัวหน้าพรรคหรือกรรมการบริหารพรรคคนนั้นเอง
๔. การสนับสนุนพรรคการเมืองโดยรัฐอย่างเหมาะสมและยุติธรรม
ที่ประชุมเห็นควรให้มีการสนับสนุนพรรคการเมืองทั้งในเรื่องทุน และการดำเนินงานอย่างอื่น ส่วนวิธีการส่งเสริมและสนับสนุนอย่างเหมาะสมและยุติธรรมนั้น จะมีการพิจารณาในรายละเอียดอีกครั้ง
๕. องค์กรตรวจสอบจริยธรรมพรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
๖. นักการเมืองต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมือง
ประเด็นให้นักการเมืองต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมือง มีกรรมาธิการขอสงวนความเห็นว่านักการเมืองจะเป็นสมาชิกพรรคการเมืองหรือไม่ก็ได้ แต่ต้ององค์กรควบคุมนักการเมือง
สำหรับประเด็นนักการเมืองท้องถิ่นต้องเป็นสมาชิกพรรคการเมืองด้วยหรือไม่นั้น ที่ประชุมเห็นว่าต้องมีการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
เรื่องที่สอง พิจารณาศึกษา วิเคราะห์ จัดทำแนวทาง และข้อเสนอแนะในการปฏิรูปการเรียนรู้การปรองดอง และการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน ซึ่งในเบื้องต้นที่ประชุมได้พิจารณาข้อเสนอแนะการปฏิรูปในด้านดังกล่าว โดยเห็นสมควรบรรจุประเด็นการปฏิรูปไว้ในร่างรัฐธรรมนูญดังนี้
๑.บุคคลย่อมมิสิทธิเสมอกันในการศึกษาเรียนรู้ทางการเมืองตามสิทธิและหน้าที่ของพลเมือง โดยกำหนดให้มีองค์กรรับผิดชอบและกระบวนการการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน
๒.รัฐต้องส่งเสริมให้มีกระบวนการและกลไกในการสร้างความปรองดองเพื่อเสริมสร้างความเป็นเอกภาพชองชาติ ทั้งในยามสถานการณ์ปกติ และกรณีเกิดความขัดแย้ง และมีพื้นที่สาธารณะให้กับประชาชน เพื่อสร้างวัฒนธรรมแห่งการปรองดอง และห้ามไม่ให้พรรคการเมืองและกลุ่มการเมืองสร้างความขัดแย้งที่เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน
๓.บุคคลย่อมมีสิทธิ และหน้าที่ในการมีส่วนร่วมการใช้อำนาจรัฐและการตรวจสอบการใช้อำนาจ รวมทั้งการจัดสรรทรัพยากรสาธารณะและของรัฐ โดยส่งเสริมให้มีการจัดตั้งสภาพลเมืองให้ทำหน้าที่ดังกล่าว โดยรัฐต้องจัดให้มีระบบและกลไกส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน |