วันพฤหัสบดีที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เวลา ๑๕.๑๕ นาฬิกา ณ บริเวณห้องโถง อาคารรัฐสภา ๑
นายแพทย์ชูชัย ศุภวงศ์ ในฐานะรองประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ คนที่หก แถลงภายหลัง
การประชุม ในส่วนที่ ๑๑ การปฏิรูปด้านแรงงาน มาตรา (๔/๑/๑๑) ๑ ให้มีแนวทางการปฏิรูปด้านแรงงาน
สรุปได้ดังนี้ ๑. ตรากฎหมาย และกำหนดกลไกเพื่อรองรับเสรีภาพของผู้ใช้แรงงาน
๒. สนับสนุนการจัดตั้งธนาคารแรงงานเพื่อเป็นกองทุนการเงินของผู้ใช้แรงงาน
หลังจากนั้น พลเอกเลิศรัตน์ รัตนวานิช ที่ปรึกษาและโฆษก กมธ. ยกร่างฯ ได้รายงานความคืบหน้า
ในการทำงานของคณะ กมธ.ยกร่างฯ ต่อเนื่องจากวันที่ ๑๘ ก.พ.๕๘ ภาค ๔ การปฏิรูปและการสร้าง
ความปรองดอง หมวด ๒ การปฏิรูปเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างความเป็นธรรม ส่วนที่ ๑๓ การปฏิรูป
ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ส่วนที่ ๑๔ การปฏิรูปด้านเศรษฐกิจ และส่วนที่ ๔ การปฏิรูปด้านการเงิน
การคลังและภาษีอากร สำหรับวันนี้ เป็นการพิจารณาในส่วนที่ ๑๖ การปฏิรูปด้านสังคม ซึ่ง กมธ. มีมติ
ให้รอการพิจารณาไว้ก่อน เพื่อให้ กมธ. ที่รับผิดชอบในด้านนี้ไปหารือกับคณะ กมธ.ปฏิรูปด้านสังคม เพื่อ
พิจารณาทบทวนให้ครบถ้วนทุกมิติ และนำกลับมาเสนออีกครั้ง นอกจากนี้ ได้มีมติแต่งตั้งคณะอนุกมธ.ยกร่าง
พ.ร.บ.ประกอบ รธน.จำนวน ๑๑ คณะ
ต่อจากนั้น นายคำนูณ สิทธิสมานโฆษก กมธ.ยกร่างฯ นายประชา เตรัตน์ และ ศ. นครินทร์ เมฆไตรรัตน์
กมธ.ยกร่างฯ ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญรายมาตราในส่วนที่ค้างพิจารณาด้าน
การปฏิรูประบบบริหารราชการแผ่นดิน โดยให้มีองค์กรบริหารการพัฒนาภาคทำหน้าที่สนับสนุนการพัฒนา
จังหวัดต่างๆ ที่ตั้งอยู่ในภาคและกำกับดูแลหน่วยงานของรัฐในพื้นที่ จัดทำแผน และบริหารงบประมาณแบบ
พื้นที่เพื่อดำเนินการพัฒนาภาคที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาประเทศ ซึ่งไม่ซ้ำซ้อนกับงานของจังหวัดและองค์กร
บริหารท้องถิ่น ประสานการพัฒนาพื้นที่บริหารงานระหว่างราชการส่วนกลางส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น
ให้เกิดการพัฒนาอย่างบูรณาการและยั่งยืนของการพัฒนาในระดับพื้นที่ของหลายจังหวัด ทั้งนี้ ตามที่กฎหมาย
บัญญัติ
|